How to การใช้ชีวิตให้มีความสุข สนุก อย่างยั่งยืน ฉบับ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’

How to การใช้ชีวิตให้มีความสุข สนุก อย่างยั่งยืน ฉบับ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’

เรื่องราวการใช้ชีวิตฉบับสั้นๆ ของ'มารีญา พูลเลิศลาภ' ที่ชัดเจนในเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม การกินการอยู่ และการซื้อเสื้อผ้าใหม่ เธอจะตั้งคำถามกับตัวเองว่าจำเป็นไหม

จากการที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคมอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวคิดการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจมากขึ้น 

แอลจี ประเทศไทย เล็งเห็นความสำคัญของประเด็นดังกล่าว จึงนำเสนอไอเดียที่น่าสนใจจากการพูดคุยกับ ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่มีบทบาทโดดเด่นในการเป็นกระบอกเสียงและให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด

มารีญา กล่าวว่า การใช้ชีวิตแบบยั่งยืนมีความสำคัญมาก เพราะการอยู่รอดของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นเคมีที่อยู่ในดิน น้ำ และสภาพอากาศ ล้วนมีความสัมพันธ์และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์โดยตรงทั้งสิ้น ส่งผลให้เราควรหันมาประเมินว่าขั้นตอนในการใช้ชีวิตของแต่ละคน 

"เราได้สร้างผลกระทบมากน้อยเพียงใดต่อสิ่งแวดล้อม โดยสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการตั้งคำถามกับตัวเองเกี่ยวกับที่มาของสิ่งต่าง ๆ เช่น อาหารที่คุณรับประทานมาจากแหล่งใด ข้าวของเครื่องใช้ของคุณถูกผลิตขึ้นมาอย่างไร เป็นต้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนมีความเชื่อมโยงกัน”

สำหรับเคล็ดลับในการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อความยั่งยืน มารีญา แนะว่า หลังจากตั้งคำถามเกี่ยวกับที่มาของสิ่งต่าง ๆ รอบตัวของเราแล้ว ลองถามตัวเองดูว่าคุณให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรบนโลกใบนี้มากที่สุด เช่น การทำงานในวงการแฟชั่นทำให้สิ่งที่มารีญาอยากปรับพฤติกรรมของตัวเองให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นคือ การแต่งตัวตามแนวคิด ‘Slow Fashion’ โดยเน้นการนำเสื้อผ้าที่มีอยู่แล้วมามิกซ์แอนแมทช์ 

How to การใช้ชีวิตให้มีความสุข สนุก อย่างยั่งยืน ฉบับ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’ หยิบเสื้อผ้าของคุณแม่มาครีเอทใหม่ นำมาใช้ได้

"บางครั้งก็หยิบไอเท็มเสื้อผ้าสุดชิคของคุณแม่มาครีเอทลุคสไตล์วินเทจใหม่ ๆ รวมถึงดูแลถนอมเสื้อผ้าให้อยู่กับเราไปได้นาน ๆ หรือเมื่อมีความคิดจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ มารีญาจะตั้งคำถามกับตัวเองว่าจำเป็นไหม ซึ่งช่วยให้เรากลายเป็นผู้บริโภคที่มีสติในการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น”

การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อความยั่งยืนยังรวมถึงการเริ่มต้นจากอะไรที่ทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ทีละเล็กทีละน้อย ยกตัวอย่าง การทานอาหารแบบ “Plant-Based Diet” ที่เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ และธัญพืชเป็นหลัก ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและลดการใช้ทรัพยากรได้เป็นอย่างมาก 

รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งที่เราไม่ได้ใช้ หรือแม้กระทั่งการตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส และปลูกต้นไม้รอบบ้านเพื่อเพิ่มความร่มรื่นและสร้างบรรยากาศพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน