"Alfha Therapy" คลินิกกายภาพที่ฮีลใจด้วยกาแฟและบรรยากาศเก๋ๆ

“เริ่มจากความเจ็บปวด” นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้สถาปนิกหนุ่มหันมาลงทุนทำ คลินิกกายภาพบำบัด กลางย่านสถานบันเทิงอย่าง RCA ที่ชื่อว่า Alfha Therapy Clinic (อัลฟา เทอราพี คลินิก)

ตั้งแต่เด็กจนโต รุ่ง – กอบธรรม พรหมายน ใช้ชีวิตอย่างโลดโผนมาตลอด ไม่ว่าจะกิจกรรมแอดเวนเจอร์แค่ไหน ถ้าสนุก มัน และท้าทาย เขาลองมาแทบทั้งนั้น แต่สิ่งที่ตามมาพร้อมความสนุกสนานคืออาการบาดเจ็บ และแน่นอนว่าวิธีแก้ปัญหาคือการทำ กายภาพบำบัด โดยไม่รู้เลยว่าตอนนั้นเขากำลังมีอาการหมอนรองกระดูกปลิ้น

หลังจากรู้ตัว เขารักษาด้วยการ "กายภาพบำบัด" อย่างจริงจังควบคู่กับการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารเพื่อไม่ให้น้ำหนักเกิน จนกระทั่งอาการที่ควรจะรุนแรงกลับดีขึ้นมาก ดีจนเรียกได้ว่าเหมือนมีร่างใหม่ นั่นทำให้เขาตระหนักว่าการทำกายภาพบำบัดที่ดี ที่เข้าถึงคนทุกคนได้ น่าจะช่วยคนได้มาก

“ปัญหาหนึ่งที่เจอกันคือการไปทำกายภาพ เรานัดคลินิกหรือโรงพยาบาลไปทำแล้วมักไม่มีคิวเดี๋ยวนั้น หรือล่วงหน้า 1-2 วันแล้วไม่มีคิว เจ็บตอนนี้ อยากทำตอนนี้ แล้วรออีก 3 วัน ผมว่ามันไม่ใช่ นี่จึงเป็นหนึ่งธุรกิจที่น่าลงทุน ซึ่งผมทำ Business Plan มาแล้วว่าธุรกิจนี้จะเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้ มีกำไรพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องนักกายภาพบำบัดได้ มีกำไรเจียดถึงผู้ประกอบการเล็กน้อย 10-20 เปอร์เซ็นต์ ถ้าใช้ชีวิตอย่างไม่ฟุ่มเฟือย ก็เลยลองทำดู

พอดีกับผมรู้จักน้อง นักกายภาพ คนหนึ่งมาร่วมสิบปี ก็คุยกันว่าพี่อยากทำ เพราะตัวพี่เองก็เจ็บ แฟนพี่ก็เจ็บ ถ้าเปิดก็คงดีไม่น้อย แต่พี่ไม่มีความรู้นะ ก็จะเป็นนักลงทุน เป็นฝั่งการตลาด เรื่องการเงินพี่ดูแลได้ อีกครึ่งหนึ่งคือฝั่ง Operation คือกายภาพ, ดูแลคนไข้ ต้องเป็นเขาดูแล ก็เลยมาเปิด แต่น้องเขาจะรันให้ช่วงต้นเท่านั้น ประมาณ 3-6 เดือน พอยืนได้แล้วเขาจะไปทำอย่างอื่น”

ถ้าเห็นหน้าตาของ Alfha Therapy ตั้งแต่ด้านหน้าที่แตกต่างจากร้านรวงอื่นๆ ใน RCA ไปจนถึงภายในคลินิก แทบจะทำให้หลงคิดว่านี่คือคาเฟ่เก๋ๆ หรือ Living Space ชิลๆ สักแห่งแน่นอน ซึ่งหน้าตาของคลินิกที่ออกมาเป็นแบบนี้ก็เพราะ กอบธรรมเป็นสถาปนิกประสบการณ์สูง เขาผ่านการออกแบบทั้งอาคารบ้านเรือน รวมไปถึงได้เห็นคลินิกมากมายที่มีบรรยากาศชวนหดหู่ จากเจ็บอยู่แล้วพอเข้าไปกลับยิ่งรู้สึกอ่อนแรงกว่าเดิม เพราะฉะนั้นคลินิกของเขาต้องมี Mood&Tone กึ่งคาเฟ่ แถมยังมีกาแฟชั้นเลิศจากทั่วทุกมุมโลกเสิร์ฟลูกค้าทุกคนด้วย

“ที่นี่มีกาแฟที่ไม่มีเมนู และเป็นกาแฟดีๆ จากเมืองนอก กว่าครึ่งหนึ่งนั้นมาจากคนไข้ เหมือนการ Pay it forward เราดูแลเขาดี เราไม่ได้มองเขาเป็นคนไข้ เรามองเขาเป็นน้อง เป็นเพื่อน เป็นพี่

ซึ่งกาแฟดีๆ นี้เราให้คนไข้ดื่มฟรี สมมติเข้ามาผมก็จะถามว่าจะดื่มกาแฟไหม อยากดื่มร้อนหรือเย็น เราไม่ใช่ Slow Bar Omakase ที่ถามแล้วคนกินงง เพราะหลายคนแค่อยากกินกาแฟหนึ่งแก้ว แต่เป็นกาแฟหนึ่งแก้วที่คุณภาพดีๆ เราจะคุยกับง่ายๆ ไม่ต้อง Specialty มากมาย เพราะเราไม่ต้องการให้มีแรงกดดัน มาทำกายภาพแล้วออกไปอย่างแฮปปี้ ก็เลยเป็นไอเดียที่ผมอยากจะชงกาแฟให้พวกเขาดื่ม”

ถึงคลินิกนี้จะเป็นน้องใหม่ของวงการ เพราะเปิดมาได้ราวหนึ่งปีกว่าๆ แต่ในเรื่องคุณภาพต้องยอมรับว่า กอบธรรมทำได้สมกับคาแรกเตอร์ที่ทำอะไรต้องสุด อย่าง "นักกายภาพ" ของ Alfha Therapy ถือว่าเฟ้นหาตัวตึงมาเลยทีเดียว เพราะปัจจุบันนักกายภาพหลักก็เป็นอดีตนักกายภาพที่ติดตามนักกีฬายูโดทีมชาติไทยไปในการแข่งขันซีเกมส์ เอเชียนเกมส์มาก่อน

นอกจากนักกายภาพแล้ว เครื่องไม้เครื่องมือก็สำคัญ เพราะกายภาพไม่ใช่การนวดธรรมดา แต่ในหลายเคสต้องใช้เครื่องมือที่ทันสมัยเข้ามาช่วยรักษาให้มีประสิทธิภาพด้วย อย่างเช่นที่นี่มีอุปกรณ์หลักๆ อยู่ 3 ประเภท ทั้ง Ultrasound, เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า และ Shock Wave ตามอาการหนักเบาของแต่ละคน

“อุปกรณ์เรามีพร้อม และสิ่งสำคัญของเราคือ Manual ต้องเข้าใจก่อนว่านวดกับกดต่างกัน เราไม่ได้นวด ถ้านวดต้องยกให้แผนไทย เราเป็นการกด ไล่กดไปเรื่อยๆ

นักกายภาพคือคนที่ต้องเรียนจบปริญญาตรีตรงสาย แล้วต้องฝึกงาน 1 ปี 6 โรงพยาบาล ต้องฝึกกับคนไข้จริงๆ จบเสร็จปั๊บต้องสอบใบประกอบฯ อีก กว่าจะได้ออกมาทำงานได้ นี่เลยเป็นศาสตร์ที่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และหลักสูตรพวกนี้มีคนจบออกมาน้อยมาก”

ปัจจุบัน "คลินิกกายภาพ Alfha Therapy" กำลังทำหน้าที่ซ่อมร่างของคนไข้ที่บาดเจ็บบ้าง ออฟฟิศซินโดรมบ้าง หรือแม้แต่เกิดอุบัติเหตุมาบ้าง มีทั้งคนทั่วไปและคนมีชื่อเสียงเข้ามารับการรักษา คลินิกแห่งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เหมือนกับชื่อ Alfha (Alpha) ที่หมายความถึงตัวอักษรแรกในอารบิก นอกจากจะเริ่มต้นเยียวยารักษาคนอื่น นี่คือธุรกิจแรกที่กอบธรรมเริ่มต้นอย่างจริงจังนอกจากสายงานสถาปนิกของเขาด้วย