“ชีวิตคือการลงทุน” อัตราเร่งและความเสถียรของชีวิต “แบงค์ - พชร ปัญญายงค์”

“ชีวิตคือการลงทุน”

“เป็นปรัชญาชีวิตที่ผมใช้มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตหรือการทำงาน อะไรก็แล้วแต่ ทุกนาทีในชีวิตมีการลงทุนเกิดขึ้น เช่น ถ้าคุณปิดบ้านนานๆ ปิดไฟ ปิดน้ำไม่ได้ใช้ แต่ตู้เย็นไม่ได้ถอดปลั๊กนะครับ ของที่อยู่ในนั้นเราถอดปลั๊กไม่ได้ ไม่งั้นก็เน่า ทุกอย่างมีต้นทุนที่ยังวิ่งอยู่เสมอ ในการหายใจมีต้นทุนเสมอ เพราะฉะนั้น ทุกนาทีในชีวิตคือการลงทุน”

เราเห็น “แบงค์ - พชร ปัญญายงค์” อยู่หน้าจอทีวีกับคอนเทนท์ด้านเศรษฐกิจและการลงทุนมาโดยตลอด ตอนนี้ก็มีรายการทั้งออนแอร์และออนไลน์ นอกจากทำงานในบทบาทสื่อ เวลาแต่ละวันของเขาอยู่กับการบริหารธุรกิจ ในตำแหน่งรองกรรมการบริหารของกลุ่มบริษัท โตโยต้า บางกอก, โตโยต้า อุตรดิตถ์ และ โตโยต้า เอ็กซ์เซลเลนท์ สุโขทัย และเวลาที่ให้ครอบครัวเต็มที่ เพราะนี่คือสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับเขา

“ครอบครัวมาก่อนเสมอ แต่การป่วยเป็นมะเร็ง ก็ยิ่งทำให้เราเขย่าความสำคัญก่อนหลังมากขึ้น จากที่เป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว เราก็ดูแลตัวเองมากขึ้น และใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้นกว่าแต่ก่อน”

แบงค์คือคนหนึ่งที่เราใช้เวลารู้จักไม่นาน ก็สัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนจริงจัง บริหารเวลาอย่างคุ้มค่า ให้เกียรติคนที่ทำงานร่วมกัน และฉลาดรอบรู้ เป็นอีกคนที่เราอยากชวนคุณไปรู้จักเขาให้ลึกขึ้น หลายคำตอบสะท้อนภาคปฏิบัติในชีวิตที่ผ่านมาของเขาได้ดี

บทบาทที่แตกต่าง บนฐานที่เหมือนกัน

แน่นอนว่าการบริหารธุรกิจและการเป็นพิธีกรนั้นมีข้อแตกต่างมากมาย แต่ความรู้ด้านธุรกิจและการลงทุนของแบงค์ เสริมให้เขาเป็นผู้ดำเนินรายการที่สามารถเจาะลึกมากกว่าผู้สัมภาษณ์ที่ไม่มีประสบการณ์ เราจึงเห็นคำถามที่ตรงประเด็น และย่อยให้ผู้ชมฟังได้ง่ายขึ้น

“จุดเหมือนที่สำคัญไม่กี่อย่างของการทำธุรกิจและการเป็นพิธีกร หนึ่งในนั้นก็คือ การบริหารจัดการสิ่งที่ยากให้ออกมาง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการมองปัญหา จุดบกพร่อง แล้วหาทางแก้และทางออก อธิบายให้องคาพยพทั้งทีมงานเข้าใจ เช่นเดียวกับงานพิธีกร หรือผู้ดำเนินรายการที่จะไปจี้จุดที่คนอยากรู้ หาคำตอบมาให้ได้ แล้วนำมาอธิบายให้ผู้ชมรับฟังได้ง่ายๆ”

งานของแบงค์นั้นคือการบริหารและนำทีมงานจำนวนมาก เขามีหลักการทำงานที่หล่อหลอมมาจากประสบการณ์ และการเล่นกีฬาหลายชนิดมาตั้งแต่วัยเยาว์ ฟุตบอลที่เริ่มฝึกมาตั้งแต่ 6 ขวบ เล่นจนได้ทุนเรียน เล่นจนติดทีมมหาวิทยาลัย เล่นจนเอ็นเข้าฉีกมากกว่า 1 ครั้ง เล่นจนเลิกเล่น แต่ไม่เลิกรัก และยังว่ายน้ำ เทนนิส รวมถึงกีฬาเอ็กซ์ตรีมอื่นๆ ที่เล่นมาตลอด จนตอนนี้มาจบที่กอล์ฟ

วิธีคิดแบบนักกีฬาสู่อัตราเร่งของการทำงาน

แบงค์บอกว่าทั้งกีฬาที่เล่นแบบทีมและกีฬาที่เล่นคนเดียวนั้น บ่มเพาะให้เกิดวิธีคิดต่อการใช้ชีวิตและการทำงาน ซึ่งเขาสกัดออกมาได้ว่า ‘อัตราเร่ง’ และ ‘ความเสถียร’

“กีฬาที่เป็นทีม ทำให้เราได้เห็นการทำอะไรร่วมกัน เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายร่วมกัน ส่วนกีฬาเดี่ยวนั้นสร้างความมุมานะ เพราะต้องอยู่กับตนเอง และฝึกความอดทน ทำให้ได้ความเสถียร หรือที่เขาเรียกว่า Consistency

“สิ่งที่ได้จากกีฬาทั้ง 2 แบบนี้คือองค์ประกอบที่สำคัญในการที่จะไปให้ถึงความสำเร็จได้ หนึ่ง ที่บอกว่าเป็นทีม ก็คือ ‘อัตราเร่ง’ ในการที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ ในการแก้ปัญหา ในการเรียน ในการลงทุน ในการสร้างครอบครัว อัตราเร่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อคุณมี ‘องค์ความรู้’ ว่าจะแก้ไขอย่างไรให้เร็วขึ้น ต้องศึกษาตลอด ไม่หยุด การเรียนรู้ไม่มีคำว่าสายอยู่แล้ว องค์ความรู้คือหนึ่ง สอง ในการที่จะสร้างอัตราเร่งได้ อาศัย ‘องคาพยพ’ ก็คือทีม คือเพื่อน คือคนรอบกาย คนที่คุณจะนำตนเองไปอยู่ใกล้ๆ ซึ่งมีมุมมองและเป้าหมายเดียวกัน สองอย่างนี้ ‘องค์ความรู้’ และ ‘องคาพยพ’ จะสร้างอัตราเร่งให้คุณได้ เมื่อมีอัตราเร่งปุ๊บ ก็จะมีความเร็ว

และปัจจัยที่ผมเกริ่นไปแล้วคือ ‘ความเสถียร’ หรือเสถียรภาพ ความมุมานะ ความอดทน เป็นสิ่งภายในโดยตรงเลย ไม่สามารถมีใครมาสอนคุณได้เลย คุณต้องกัดลิ้น กัดฟัน ดิ้นรนไปให้ถึงจุดหมาย แต่บนพื้นฐานของความมีเหตุมีผล และมีความเป็นไปได้ เมื่อมีอัตราเร่ง มีความเสถียรเกิดขึ้น คุณก็สามารถไปถึงเป้าหมายได้โดยปริยายครับ”

ส่วนองค์ความรู้ที่ต้องเติมตลอดเวลาให้อัตราเร่งและความเสถียรไม่ลด แบงค์เลือกแสวงหามาจากรอบตัว

“การสะสมความรู้สามารถเกิดขึ้นได้รอบกาย จากผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน จากคนรุ่นเดียวกัน หรือแม้แต่คนที่เด็กกว่าก็ตาม สมัยนี้การเรียนรู้ไม่มีคำว่าสาย เหมือนเดิมครับ อัตราเร่งต้องสูง เพราะปลาเร็วกินปลาช้า ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เพราะฉะนั้น คุณต้องเปิดกว้าง เรียนรู้อยู่สม่ำเสมอตลอดเวลา โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลที่เด็กกว่าเรา เด็กจบใหม่ เขามีอัตราเร่งสูงมาก ถ้าคุณเปิดใจรับ พยายามเรียนรู้ พยายามไปในความเร็วพร้อมๆ กับเขา จะทำให้คุณไม่ตกขบวน ไม่แปลกแยก พูดคุยกันได้ และซื้อใจเขาได้ครับ”

ครอบครัวคือพื้นฐานสำคัญ

เหมือนกับลูกชายหลายคนมีคุณพ่อเป็นไอดอลในการทำงาน “คุณพ่อทำให้เราชอบและเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจและการลงทุนมาตลอด รวมถึงวิธีการทำงาน การวางความสำคัญก่อนหลัง คุณพ่อก็ทำให้ดู และเป็นตัวอย่างที่ดีมาตลอด” แต่ถึงอย่างนั้น ในช่วงต้นของการทำงาน เขาก็เคยโหมงานจนเสียสมดุล ในเมื่อโอกาสในการทำงานเข้ามามากมาย ทั้งสิ่งที่ทำแล้วสนุกมาก และสิ่งที่เขาทำได้ แล้วทำไมจะไม่ทำล่ะ

“ผมมีช่วงที่เบิร์นเอาท์เหมือนกันนะครับ ช่วงที่อัตราเร่งสูงๆ ช่วงที่ยังไม่มีลูก เราทำงานเยอะมาก ทำงานตั้งแต่ตี 4 ถึงตี 1 ร่างกายก็โทรมกันไป ก็เป็นดัชนีที่ส่งสัญญาณมาถึงเราว่า มันหนักเกินไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องทำขนาดนั้น

ส่วนที่ทำแล้วสนุกกับมันมากๆ ก็มี ส่วนที่ทำเพราะทำได้ก็มี ส่วนที่ทำแล้วสนุกมาก ก็ยังทำมาต่อเนื่องนะครับ ส่วนที่ทำเพราะทำได้ ก็เริ่มที่จะลดถอยน้อยลง เพราะเรามีสิ่งอื่นที่สำคัญยิ่งกว่า เรามีครอบครัว มีลูกที่ต้องดูแล”

แบงค์ยังพูดถึงคนสำคัญในครอบครัวอีก ที่เป็นพลังสนับสนุนซึ่งกันและกันมาโดยตลอด

“หลายคนอาจไม่รู้ว่าผมมีน้องชาย 2 คนที่เก่งกว่าผม ผมมีน้องชายคนรองที่ประสบความสำเร็จในทุกด้านที่เขาอยากทำ เพราะเขาทำจริงเสมอ แทบจะติดทีมชาติทุกกีฬาที่เขาทำ ผมมีน้องชายคนเล็ก ซึ่งทำการตลาดได้ดีมาก เรียนรู้จากพี่ชายสองคน และทำได้เร็วกว่า มีอัตราเร่งที่สูงกว่า ไปถึงจุดที่เขามีความสุข มีอิคิไกได้เร็วกว่าเรา”

“เราสามคนพี่น้องเล่นกีฬากันหมดเลยครับ เราอายุห่างกัน 3 ปี 3 ปี เราโตขึ้นมาแบบสนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนกระทั่งต่างคนต่างมีครอบครัว ก็ยังมาเจอกันทุกสัปดาห์ กลับมาลงทุนร่วมกัน มาช่วยกันคิดมาช่วยกันทำ ช่วยกันบริหาร ความสัมพันธ์ระหว่าง 3 พี่น้องดีมาโดยตลอด ต้องยกความดีความชอบให้กับคุณพ่อคุณแม่ครับ ที่เป็นแบบอย่างในความรักพี่รักน้องครับ”

การค้นพบช่วงขณะสำคัญของชีวิต

จังหวะชีวิตที่เปลี่ยนไปเสมอตามความรับผิดชอบ และสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว แบงค์มีช่วงเวลาที่ประทับใจมากมาย แต่มีขณะหนึ่งที่ไม่มีทางลืมเลือน

“จังหวะที่ตราตรึง ประทับใจที่สุดในชีวิตคือ ตอนที่ ภรรยา (นิหน่า - สุฐิตา ปัญญายงค์) มาบอกว่ากำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรก ทำให้ผม ซึ่งเคยสัญญากับเขาว่าจะเลิกสูบบุหรี่ ก็ได้ทำเลยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีความอยากอีกเลย เพราะเราได้แรงบันดาลใจใหม่ หัวใจเราไม่ได้เต้นอยู่ในร่างกายเราเท่านั้นแล้ว หัวใจเราเต้นอยู่ในร่างกายเขาด้วย มนุษย์อีกคนหนึ่งที่กำลังจะเกิดมาจากความรักของเราสองคนสามารถทำให้เรามีพลังในการเลิกสูบบุหรี่ได้ ทำให้เราย้ำอยู่ทุกวัน และมีแรงในการทำงาน ในการแก้ปัญหาจนวันนี้ครับ”

นิยามความสำเร็จ

ความสำเร็จ เป็นคำใหญ่ที่มาพร้อมกับความจริงจัง เมื่อเราถามใครว่า คุณนิยามความสำเร็จของคุณอย่างไร จะมีคนสักกี่เปอร์เซ็นต์ที่ตอบได้ทันทีอย่างมั่นใจ ความสำเร็จมักถูกผูกกับการทำงานซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของชีวิต ก็ต่อเมื่อคนคนนั้นจะประสบบางสิ่ง ทบทวนบางอย่างที่ทำให้เป้าหมายมีมากกว่าการทำงาน คำตอบก็จะต่างออกไป

“ความหมายของความสำเร็จสำหรับผม ผมรวมกันระหว่างชีวิตและงานเลยนะ ญี่ปุ่นเขาเรียกว่า ‘อิคิไก’ (คุณค่าหรือความหมายของการมีชีวิต) เป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่า ตื่นขึ้นมาแล้วเราอยากทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการใช้ชีวิต การมีคู่ครอง การมีครอบครัว เมื่อไหร่ที่ตื่นขึ้นมาแล้วมีความสุข อยากเจอสิ่งเหล่านี้ อยากมุ่งไปหาสิ่งเหล่านี้ ผมว่านั่นคือความสำเร็จในชีวิต”

“ผมยังไม่ถึงจุดที่เรียกว่าสำเร็จ เพราะยังทำอะไรที่นึกถึงประโยชน์ของคนรอบกาย ยังมีบางอย่างที่ตื่นขึ้นมาแล้ว ไม่ทำได้ไหม แต่ต้องทำ มีความสำคัญที่เราต้องลงมือลงแรงกับมันอยู่ อย่างที่บอกไปว่า ถึงจุดที่อิคิไกเมื่อไหร่นะ ตื่นมาแล้วมีความสุขกับการหายใจทุกวินาที ในการบริหารจัดการธุรกิจ บริหารจัดการครอบครัว พบเพื่อน ทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าถึงจุดนั้นคือนิยามความสำเร็จเลยก็ว่าได้”

- - - - - -

แบงค์ - พชร ปัญญายงค์ นอกจากจะเป็นผู้บริหารของโตโยต้า บางกอก, โตโยต้า อุตรดิตถ์ และ โตโยต้า เอ็กซ์เซลเลนท์ สุโขทัย เขายังเป็นคนทำงานคอนเทนท์ด้านเศรษฐกิจและการลงทุน ผ่านจอทั้งรายการทีวีและออนไลน์

ช่วงเวลากว่า 20 ปีในเส้นทางของผู้ที่สื่อสารด้านธุรกิจและการลงทุน แบงค์คุ้นเคยกับทีมบรรณาธิการของกรุงเทพธุรกิจเป็นอย่างดี

ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่แบงค์จะมาร่วมงานกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ในรายการ “SUITS” ซึ่งแบงค์ ร่วมกับ “กวาง - อรการ จิวะเกียรติ” จะพาไปถอดรหัสความสำเร็จกับเหล่า CEO จากองค์กรธุรกิจใหญ่ไปถึงสตาร์ทอัพ ในหลากอุตสาหกรรม และหลายบริษัทที่เติบโตตามเทรนด์โลก เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่ได้ฟังจากผู้ลงมือปฏิบัติจริง เห็นผลสำเร็จจริง ย่อมสร้างแรงบันดาลใจ ให้มุมคิด สร้างเสริมเติมพลังในการทำงานและการมุ่งสู่ความสำเร็จในแบบของตัวเอง