‘ไทย’ เน้นเที่ยวกับคนที่รัก เทรนด์ท่องเที่ยวปี 2021 โดย 'agoda'

‘ไทย’ เน้นเที่ยวกับคนที่รัก เทรนด์ท่องเที่ยวปี 2021 โดย 'agoda'

‘ไทย’ เลือกใช้เวลาและเดินทางท่องเที่ยวกับคนที่รัก-คนในครอบครัวมาเป็นอันดับ 1 จากผลการสำรวจออนไลน์โดย 'agoda' ในหัวข้อ What Matters 2021 ตามมาด้วยอันดับสอง การออกไปใกล้ชิดธรรมชาติ-ทำกิจกรรมกลางแจ้ง, เป็นข้อมูลให้คนทำธุรกิจท่องเที่ยวเตรียมการตลาด

หากไม่อยากอยู่ในความมืดมิด ก็ต้องพยายามหาวิธีจุดเทียน แสงเทียนอาจไม่ช่วยขจัดความมืด แต่ก็พอให้มองเห็นสิ่งรอบตัวว่าจะเดินไปทางไหน

ท่ามกลางการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ธุรกิจการท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เหมือนเดินอยู่ในความมืด ถูกตัดขาดจากนักท่องเที่ยว การเดินทางหยุดชะงัก เงินไม่เข้า ผู้ประกอบการบางประเภทปิดบริษัท

แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการเดินทางท่องเที่ยวระดับโลก อโกด้า (agoda) อยากทราบความคิดของกลุ่มลูกค้าว่ามี ความต้องการด้านท่องเที่ยวเปลี่ยนไปหรือไม่อย่างไรจากการเผชิญความกดดันของโรคระบาดโควิด-19 จึงดำเนินการออกแบบสอบถามชุด What Matters 2021 (สิ่งสำคัญในปี 2021) ผ่านช่องทางออนไลน์และการดำเนินงานภาคสนามระหว่างวันที่ 10-16 ธันวาคม 2020

161052699845

ภูเก็ต : เดอะ ชอร์ แอท กะตะธานี

จากการตอบแบบสอบถามเรื่อง สิ่งสำคัญในปี 2021 (What Matters 2021) จำนวน 16,064 คน อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยผู้ทำแบบสสอบถามออนไลน์จากประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน เวียดนาม และไทย ร่วมกับการดำเนินงานภาคสนามระหว่างวันที่ 10-16 ธันวาคม 2020 พบว่า

ในปี 2021 ผู้คนตั้งใจที่จะ (In 2021, people are most looking forward to)

  • อันดับหนึ่ง : ใช้เวลากับคนที่รักให้มากขึ้น (Spending more quality time with loved ones)
  • อันดับสอง : เที่ยวได้แบบไม่ต้องมีข้อจำกัด (Being able to travel unhindered)
  • อันดับสาม : ทำสิ่งที่สำคัญ หรือทำสิ่งที่สร้างความแตกต่าง (Doing things that make a difference)

161052721557

หน้าผาแหลมสุไก(Cape Sukai) อุทยานแห่งชาติเกาะเระบุน, ฮอกไกโด ญี่ปุ่น (ภาพ : วลัญช์ สุภากร)

การเดินทางท่องเที่ยวในปี 2021 ผู้คนมุ่งมั่นที่จะ (When traveling in 2021, people commit to)

  • อันดับหนึ่ง : เที่ยวกับคนที่รักให้มากขึ้น  (Travel more with loved ones) ยกเว้นชาวสหราชอาณาจักรและไต้หวันที่มุ่งมั่นจะเดินทางแบบไม่ต้องวางแผนให้บ่อยขึ้นมากที่สุด ส่วนชาวญี่ปุ่นก็มุ่งมั่นที่จะเดินทางแบบไม่รีบร้อนมากที่สุด (ตามมาด้วยสิงคโปร์และมาเลเซีย) เพื่อใช้เวลากับสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่มากขึ้น
  • อันดับสอง : ไปเที่ยวแบบไม่ต้องคิดวางแผน..ให้บ่อยขึ้น (Take more spontaneous trips) โดยกลุ่มตัวอย่างที่มุ่งมั่นจะเที่ยวแบบนี้มากที่สุดคือคนอายุ 18-24 ปี รองลงมาคือกลุ่มตัวอย่างอายุ 24-44 ปี 55 ปีขึ้นไป ตามมาด้วยกลุ่มตัวอย่างอายุ 45-54 ปี
  • อันดับสาม : เลือกเที่ยวแบบคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น (Make more eco-friendly travel choices) แต่ตัวเลือกนี้มาเป็นความมุ่งมั่นอันดับ 2 สำหรับกลุ่มตัวอย่างชาวเวียดนาม เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ไทย และอินโดนีเซีย

161052747710

Japan's Northernmost Point Monument ประติมากรรมสัญลักษณ์แสดงบริเวณนี้คือจุดเหนือสุดของญี่ปุ่น บนเกาะฮอกไกโด (ภาพ : วลัญช์ สุภากร)

อโกด้า ให้ข้อสังเกตไว้ด้วยว่า สิ่งที่น่าสนใจจากผลการสำรวจนี้คือ การท่องเที่ยวได้แบบไม่มีข้อจำกัด เป็นสิ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถาม อายุ 55 ปีขึ้นไป ตั้งใจที่จะทำมากที่สุด, ขณะที่ การได้ออกไปอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ และทำกิจกรรมกลางแจ้งสนุกๆ มากขึ้น อยู่ในอันดับ 3  

ส่วนการ ใช้เวลาที่มีค่ากับครอบครัวและเพื่อน เป็นสิ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถาม อายุ 25-54 ปี ตั้งใจที่จะทำมากที่สุด

ขณะเดียวกัน การทำสิ่งสำคัญ/สิ่งที่สร้างความแตกต่าง เป็นเรื่องที่ผู้ตอบแบบสอบถาม อายุ 18-24 ปี ตั้งใจที่จะทำมากที่สุด

161052796721

บาตู เคฟ (Batu Cave) ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู : กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

สำหรับ ภาพรวมผลการสำรวจ "สิ่งที่ผู้คนตั้งใจที่จะทำมากที่สุดในปี 2021" แยกตามประเทศต่างๆ พบว่า

  • การใช้เวลาที่มีค่ากับคนที่รักมากขึ้น เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่จาก สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีน และ ไทย ตั้งใจที่จะทำมากที่สุด
  • การเดินทางท่องเที่ยวได้แบบไม่มีข้อจำกัดคือสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างชาว สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ตั้งใจที่จะทำมากที่สุด
  • การทำสิ่งที่สำคัญ/สิ่งที่สร้างความแตกต่าง เป็นสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างชาว อินโดนีเซีย ไต้หวัน และ เวียดนาม ตั้งใจที่จะทำมากที่สุด
  • การได้ออกไปอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติและทำกิจกรรมกลางแจ้งสนุกๆ มากขึ้น เป็นตัวเลือกที่ผู้ตอบแบบสอบถามใน ไทย ให้ความสนใจเป็นอันดับ 2 และชาว ญี่ปุ่น เลือกมาเป็นอันดับ 3
  • การหยุดทำงานทางไกล และ/หรือ กลับไปทำงานที่ออฟฟิศ คือสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างชาว ฟิลิปปินส์ (9%) เวียดนาม (7%) และ อินโดนีเซีย (7%) ตั้งตารอมากที่สุด, ขณะที่ชาว จีน (1.2%) ญี่ปุ่น (1.5%) และ สหราชอาณาจักร (2%) ตั้งตารอน้อยที่สุด
  • การชมการแสดงสด การแข่งขันกีฬา หรืองานอีเวนต์ขนาดใหญ่ เป็นสิ่งที่ผู้คนตั้งตารอน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 แต่กลุ่มตัวอย่างชาว สหรัฐอเมริกา (8%) สหราชอาณาจักร (8%) และ ญี่ปุ่น (7%) มีแนวโน้มที่จะตั้งตารอมากกว่าผู้คนชาติอื่นที่สุด

161052779784

ธรรมชาติของจังหวัดกาญจนบุรี (ภาพ : วลัญช์ สุภากร)

:: ข้อมูลภาพรวมประเทศไทย ::

การใช้เวลาที่มีค่ากับคนที่รักมากขึ้น (38%) เป็นสิ่งที่ชาวไทยตั้งใจที่จะทำมากที่สุด, ตามมาด้วยอันดับสอง คือ การได้ออกไปอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติและทำกิจกรรมกลางแจ้งสนุกๆ มากขึ้น (22%) และอันดับสาม คือ การทำสิ่งที่สำคัญ/สิ่งที่สร้างความแตกต่าง (17%)

ในด้านการเดินทางท่องเที่ยว, การเดินทางกับครอบครัวและเพื่อนให้มากขึ้น (43%) คือสิ่งที่ชาวไทยมุ่งมั่นที่จะทำมากที่สุด, ถัดมาคือ การท่องเที่ยวโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น (22%) และ การไปเที่ยวในสถานที่ที่ยังไม่ค่อยมีคนไป (14%) มาเป็นความมุ่งมั่นอันดับสาม

161052788661

“ปี 2020 เป็นปีแห่งการต่อสู้ และการทำให้ดีที่สุดเพื่อความอยู่รอด ถึงแม้บททดสอบที่ผ่านมาจะหนักหนา แต่ผลการสำรวจของเราแสดงให้เห็นว่า ในปีนี้ผู้คนทั่วโลกตั้งใจที่จะเดินทางท่องเที่ยว ทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ อย่างมีความหมาย รวมถึงใช้เวลาร่วมกับครอบครัวและเพื่อน สุดท้ายแล้วผู้คนก็จะต้องออกเดินทางท่องเที่ยวเหมือนเคย เนื่องจากความปรารถนาในเรื่องนี้ของมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยุดได้” มร.ทิม ฮิวจ์ส รองประธานฝ่ายพัฒนาองค์กร อโกด้า กล่าวถึงผลสำรวจที่ได้จากแบบสอบถามชุด What Matters 2021

ที่อโกด้า เราเชื่อมั่นในอนาคตของการเดินทางท่องเที่ยว เพราะจากการสำรวจของเราพบว่า การเดินทางท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนตั้งตารอมากที่สุดในปี 2021” มร.ทิม กล่าวและว่า ยิ่งไปกว่านั้น นักเดินทางก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่สร้างความแตกต่าง ออกไปเที่ยวกับคนสำคัญ เที่ยวแบบไม่ต้องวางแผนล่วงหน้านานๆ และคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้นเมื่อเดินทางท่องเที่ยว

แม้การเดินทางท่องเที่ยวจะยังไม่เกิดขึ้นเต็มรูปแบบ แต่ข้อมูลเกี่ยวกับ "ความต้องการและความคิดของนักท่องเที่ยว" ก็เป็นข้อมูลให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมได้ส่วนหนึ่ง รอเวลาที่ ‘แสงสว่าง จะสาดส่องมาอีกครั้ง เมื่อโลกควบคุมการแพร่ระบาดโควิดไว้ได้ในกำมือ

หรือในกรณีที่บางผู้ประกอบการพอจะมีช่องทางรับนักท่องเที่ยวได้บ้างอย่างมีมาตรการป้องกันโรคระบาดสูงสุดและผ่านการเห็นชอบโดยมาตรการรัฐบาล ก็สามารถเดินหน้าการตลาดได้ก่อนเลย