กักตัว...โดดเดี่ยวไม่เดียวดายสไตล์ 5 ดาว

ใครรู้ตัวว่าอยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 หรือแค่สงสัย...หรือไม่แน่ใจว่าได้พบปะสนทนากับผู้มาจากพื้นที่อันตราย เอ๊ะ! เราจะติดเชื้อมั้ย กังวลไปต่าง ๆ นานา จึงต้องป้องกันตัวเองและคนรอบข้างไว้ก่อนด้วยการ "กักตัวเอง"
การกักตัวเองในบ้าน (Home Quarantie) ด้วยเหตุผลชวนสงสัย เป็นเหตุผลที่รับได้ ป้องกันตัวเองไว้ก่อนปลอดภัยที่สุด แต่บางคนคิดว่าอยู่บ้านไม่สะดวก อาจมีญาติพี่น้องอยู่เยอะ หรืออดไม่ได้อาจเผลอไปใกล้ชิดกับคนอื่น หรือมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย การกักตัวเองนอกบ้านในพื้นที่เป็นส่วนตัว สะอาด ปลอดภัย น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก
ห้องนั่งเล่นภายในห้องสวีท โรงแรมเมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท (ภาพ: Movenpick BDMS Wellness Resort)
และตัวเลือกที่ทำให้การกักตัวไม่น่าเบื่อ โดย โรงพยาบาลกรุงเทพ ร่วมกับ เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท (Mövenpick BDMS Wellness Resort) แนะนำแพ็คเกจ 14 DAYS HEALTH WATCH แพ็คเกจสุขภาพ 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หรือผู้ที่ต้องการพักผ่อน พร้อมสังเกตอาการโควิด-19 (COVID-19 ) ภายในรีสอร์ท 5 ดาว ใจกลางกรุง ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมการดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิดโดยสถานพยาบาลชื่อดัง ช่วยให้ชีวิตติดที่ไม่น่าเบื่อ ไม่หงุดหงิด
สุนิสา พลสิทธิ์ ประชาสัมพันธ์ผู้ดูแลแพ็คเกจสุขภาพ 14 วัน ให้ข้อมูลว่า
“เนื่องจากโรงแรมเมอเวนพิคตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ด้านหน้าคือโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน แพ็คเกจนี้จึงเป็นการร่วมมือกันโดยมีแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลกรุงเทพ มาตรวจร่างกายก่อนเข้าพัก ตามหลักการกักตัวของสาธารณสุข
แพ็คเกจ “14 DAYS HEALTH WATCH” เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่เดินทางกลับมายังกรุงเทพฯ โดยจัดห้องพักแบบเวลเนส สวีท (Wellness Suite) ขนาด 74 ตารางเมตร พร้อมบริการอาหาร 3 มื้อทุกวัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องสวีทตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว เช่น สมาร์ททีวี 55 นิ้ว, ไว-ไฟความเร็วสูง, ลำโพงและโคมไฟเธอราพี เรียกว่า iHome Zenergy Sleep Therapy Speaker and Lamp ซึ่งเป็นโคมไฟบำบัดช่วยให้นอนหลับสบาย และอุปกรณ์โยคะภายในห้องนั่งเล่นที่แยกเป็นสัดส่วน มีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นสระว่ายน้ำและสวนร่มรื่น”
อยู่ในห้องแสนสบาย ติดแอร์เย็นฉ่ำ แต่ห้ามออกไปไหน ให้ชมวิวมองต้นไม้ดอกไม้ ใช้สีเขียวบำบัด
“ก่อนการเข้าพักจะมีแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพตรวจเช็คร่างกาย และระหว่างการเข้าพักจะมีพยาบาลมาตรวจสุขภาพทุกวัน แล้วถ้าระหว่างเข้าพักถ้าตรวจพบว่ามีเชื้อโควิดก็จะเรียกรถพยาบาลนำไปส่งที่โรงพยาบาลทันที และจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาทำความสะอาดภายในห้องพัก
นอกจากนี้ยังมีบริการพิเศษจากโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้แก่ การให้คำปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในวันที่เดินทางมาถึง การตรวจสุขภาพประจำวันโดยพยาบาลมืออาชีพที่จะดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงจะได้รับอาหารเสริมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจาก Royal Anti-Aging Center มีอาทิ สารสกัดจากราชาสมุนไพรจีนถั่งเช่า (Royal Life Cordyceps Mix C) และสารสกัดจากเห็ดและเบต้ากลูเตน (Royal Life Mushroom Extract) และบริการตรวจโควิด-19 ในวันสุดท้ายของการเข้าพัก”
ระหว่างกักตัวเอง 14 วัน อยู่แต่ในห้อง กิจกรรมโดดเดี่ยวตัวเองคงไม่เหงา ถ้ามีทีวีและอินเตอร์เนท รับชมข่าวสารและสารพันบันเทิงที่ต้องการ จะเปิดยูทูปแล้วเล่นโยคะ เต้นแอโรบิค หรือออกกำลังอื่น ๆ ก็ได้ตามต้องการ แล้วถ้าหิวต้องการอาหาร (เพิ่มจากบริการปกติ 3 มื้อต่อวัน) สามารถสั่ง “รูม เซอร์วิส” เลือกอาหารและของว่างได้ตามชอบ (คิดค่าบริการเพิ่มตามที่สั่ง รวมถึงเครื่องดื่มอื่น ๆ ในตู้เย็น แต่ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)
ไก่สะเต๊ะ
ไก่ย่างตะไคร้
สลัดผักสดใส่ส้มโอกับควินัว อาหาร 3 มื้อ จากห้องอาหารของโรงแรมฯ
อยากกักตัวโดดเดี่ยวไม่เดียวดายสไตล์ 5 ดาว ในแพ็คเกจ “14 DAYS HEALTH WATCH” ราคา 50,000 บาทสุทธิ สำหรับห้องพักเดี่ยว 14 วัน เปิดบริการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 สอบถามเพิ่มเติมโทร.0 2666 3333 หรืออีเมล: [email protected]
ทำอะไรบ้างในช่วงกักตัวเอง 14 วัน
โรงพยาบาลศิครินทร์ ให้คำแนะนำสำหรับผู้สุ่มเสี่ยงหรือสงสัยว่าจะติดไวรัส เพื่อเฝ้าสังเกตอาการในที่พักอาศัยว่าควรปฏิบัติตัวดังนี้
- ควรหยุดเรียน หยุดงาน และพักอยู่บ้านจนกว่าจะครบ 14 วันหลังการสัมผัส
- ควรสวมหน้ากากอนามัย ให้เปรียบเสมือนว่าเป็นผู้ติดเชื้อและอาจสามารถแพร่เชื้อได้
- ควรนอนแยกห้อง ไม่ออกไปนอกบ้าน ไม่เดินทางไปที่ชุมชนหรือที่สาธารณะ
- รับประทานอาหารแยกจากผู้อื่น
- ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ร่วมกับผู้อื่น
- หากมีอาการไอให้
- สวมหน้ากากอนามัย
- ปิดปาก จมูก ด้วยกระดาษทิชชู่ทุกครั้งที่ไอจาม โดยปิดถึงคาง แล้วทิ้งทิชชู่ลงในถุงพลาสติก และปิดปากถุงให้สนิทก่อนทิ้ง
- ใช้แขนเสื้อปิดปากจมูกเมื่อไอหรือจาม
- ทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำและสบู่ทันที
- ควรเว้นระยะห่าง หรืออยู่ห่างจากคนในบ้าน หรือคนในครอบครัวประมาณ 1 - 2 เมตร หรืออย่างน้อยประมาณหนึ่งช่วงแขน
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดบุคคลอื่นในที่พักอาศัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ
- สมาชิกทุกคนในบ้านควรล้างมือบ่อยครั้งที่สุดเพื่อลดการรับและแพร่เชื้อ
- ห้ามอยู่ใกล้เด็กรวมถึงไม่ควรเข้าไปกอดเด็ก ๆ ไม่ว่าเด็กจะเป็นลูกหรือหลาน เพราะอาจจะเพิ่มโอกาสแพร่เชื้อโรคไปสู่ตัวเด็กได้
- ควรทำความสะอาดห้องรับแขก ห้องน้ำ หรือห้องที่คนในบ้านมีการใช้บ่อยๆ โดยเฉพาะห้องน้ำ พื้น ลูกบิดประตู ก๊อกน้ำ เป็นต้น
- เฝ้าระวังอาการเจ็บป่วยของผู้สัมผัสใกล้ชิดหรือสมาชิกภายในบ้าน
หมายเหตุ ในกรณีที่ผู้สัมผัสใกล้ชิดเป็นมารดาให้นมบุตร ยังสามารถให้นมบุตรได้ เนื่ิองจากปริมาณไวรัสที่ผ่านทางน้ำนมมีน้อยมาก แต่มารดาควรสวมหน้ากากอนามัยและล้างมืออย่างเคร่งครัดทุกครั้งก่อนสัมผัสหรือให้นมบุตร







