ริมทะเลอันแสนสงบ ‘At T Boutique’

ริมทะเลอันแสนสงบ ‘At T Boutique’

หาดคลองวาฬ อาจจะยังเป็นชื่อที่ไม่ค่อยคุ้นหูนักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก

แต่ต้องบอกว่า ที่นี่มีเสน่ห์และความน่ารักที่ชวนให้ทุกคนตกหลุมรักได้ง่ายๆ


ที่ตั้งของหาดคลองวาฬอยู่ติดกับอ่าวมะนาว บริเวณทางใต้ของเมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่นี่มีหมู่บ้านชาวประมงอยู่ด้วย ซึ่งชื่อชุมชนนั้นได้มาจากสมัยอดีตมีวาฬเข้ามาหากินอยู่เป็นประจำ ครั้งหนึ่งเคยมีวาฬตายลอยมาที่ชายฝั่ง ชาวบ้านจึงช่วยกันลากมาตามคลอง ที่นี่จึงถูกเรียกขานว่า คลองวาฬ


แม้ชายหาดจะไม่ได้สวยงามมากนัก แต่มีจุดเด่นที่น่าสนใจ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในชุมชนรอบๆ หาดได้ เช่น ตลาดคลองวาฬ แวะชิมอาหารทะเล มีสะพานปลาหรือท่าเรือเดินไปชมวิถีชาวประมงได้ตลอดวันที่จอดเทียบท่ามากมายเป็นสีสันของที่นี่


ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบทำให้บริเวณริมหาดมีที่พักให้ให้เลือกมากมาย หนึ่งในนั้นคือ แอทที บูทีค (At T Boutique) โรงแรมสไตล์โมเดิร์นที่อยู่ท่ามกลางวิถีชีวิตอันเรียบง่ายในพื้นที่ริมทะเลอันแสนสงบ เหมาะกับการพักผ่อนที่ลงตัว โดยบริหารกันเองภายในครอบครัว ซึ่งมีหัวเรือใหญ่คือ ชัยวัฒน์ มานะกิจสมบูรณ์


กัญญ์รินท์ เจริญศรีเมือง ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด เล่าให้ฟังว่า แอทที บูทีค เปิดให้บริการมาได้หนึ่งปีเต็มแล้ว โดยผู้บริหารได้ไอเดียมาจากการได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก แล้วนำสิ่งที่ชอบของแต่ละที่มาผสมผสานเข้าด้วยกัน วัสดุที่ใช้สร้างนั้นจะมีความทนทานสูงและควบคุมการทำงานเองทุกส่วน ซึ่งต้องการให้พื้นที่ในส่วนต่างๆ กว้างขวางโดยเฉพาะห้องพักเพื่อที่ว่านักท่องเที่ยวจะได้รู้สึกไม่อึดอัด


เหตุผลที่เลือกสร้างโรงแรมที่คลองวาฬนั้น เพราะอยากจะสร้างเป็นเหมือนประติมากรรมใหม่ เป็นตึกที่โดดเด่น มีความสง่างาม โดยใช้สีทึบให้เข้ากับท่าเรือและสีของน้ำทะเล ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้านตนเอง


โรงแรมมีลักษณะเด่นโดยเป็นตึกคู่ พื้นที่ด้านล่างระหว่างกลางจะมีบ่อน้ำขนาดเล็กขนาบไปด้วยต้นอินทผลัม ซึ่งส่วนใหญ่จะพบเห็นได้ในแถบตะวันออกกลาง รูปร่างลักษณะคล้ายกับต้นมะพร้าว และภายในบริเวณเดียวกันยังมีบริการห้องน้ำ รวมถึงห้องน้ำคนพิการที่ใส่ใจความสะดวกถึงที่สุด


“ชุมชนคลองวาฬเราอยู่กันอย่างเงียบๆ หัวค่ำก็เข้านอนกันแล้ว พนักงานส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่ เพื่อสร้างอาชีพให้แก่คนในชุมชน อยู่ร่วมกันเหมือนครอบครัว ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้มาทำงานเพราะเป็นคนที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว”


นักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นคนไทย โดยมีห้องพักทั้งหมด 92 ห้อง ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Deluxe Room, Sea View และ Family Room ราคาเริ่มต้น 6,000 บาท ไปจนถึง 15,000 บาท ซึ่งทางโรงแรมจัดโปรโมชั่นอยู่ตลอด จึงสามารถลดราคาค่าห้องลงได้


ภายในห้องพักมีอุปกรณ์ครบครับเพื่อให้ได้รับความสะดวกสบายถึงที่สุด ห้องจะเป็นโทนสีน้ำเงิน โดยมีเอกลักษณ์เด่นรูปวาฬอยู่ตามผนังห้อง เหมือนกำลังนอนอยู่ใต้มหาสมุทรเลยทีเดียว


หากต้องการออกไปนั่งอ่านหนังสือหน้าระเบียงก็ชิลล์ไม่น้อย เพราะมีลมพัดอยู่ตลอดเวลา


หรือจะมากันแบบครอบครัว มีเด็กวัยกำลังซนก็สามารถเข้าพักห้องครอบครัวได้ มีเตียงนอนขนาดใหญ่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ และเตียงขนาดเล็กสองชั้นติดริมหน้าต่าง โดยไม่ต้องแยกห้องนอน หรือถ้ากลัวเด็กๆ จะเบื่อให้พาไปยังห้องนั่งเล่นที่อยู่ด้านล่าง มีของเล่นเด็กไว้ให้บริการพร้อมเปิดแอร์เย็นฉ่ำ


ยิ่งไปกว่านั้นใครอยากลงไปเล่นน้ำที่นี่มีบริการสระน้ำ เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หรือจะลงไปทะเลที่สามารถเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวจากโรงแรม ด้านหน้าหาดจะมีโซฟาให้นอนเอนกาย ซึ่งเป็นจุดที่ลมเย็นมาก นั่งดูตะวันตกดินในช่วงพลบค่ำรู้สึกเคลิบเคลิ้มจนแทบจะผลอยหลับได้เลย


แอทที บูทีค มีระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุไฟไหม้อยู่ทั่วโรงแรม มีพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยสอดส่องดูแลอยู่ตลอดเวลา และแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบในจุดที่อันตรายในการเล่นน้ำทะเลรวมถึงสระน้ำของโรงแรมด้วย


“กิจกรรมของทางโรงแรมเรามีดำน้ำ ตกหมึก ให้อาหารแพะ ขี่ม้า รวมไปจนถึงปั่นจักรยานรอบชุมชน หรือในช่วงเทศกาลเราจะพาลูกค้าขึ้นไปชมเขาล้อมหมวกเป็นหน้าผาชันให้นักท่องเที่ยวได้ปีน หากขึ้นไปบนยอดสูงสุดสามารถมองเห็นถึงพื้นที่ทั้งหมดรอบคลองวาฬ เราจะมีการแจ้งและแนะนำให้ลูกค้าเที่ยวอย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ”


หากใครอยากกินอาหารหลายรสชาติที่นี่มีบริการห้องอาหาร ทั้งยังมีเมนูขึ้นชื่อท้องถิ่นรับรองว่าถูกอกถูกใจแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นกลางคืนยังมีบริการบาร์ให้นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกร่วมกับแสงไฟประดับส่องสว่างไปทั่ว


ทุกสัดส่วนล้วนเข้ากันดีกับบรรยากาศอันสงบสุขของโรงแรม เชื้อเชิญให้ลองมาสัมผัสกับลมทะเลเย็นๆ และบริการดีเลิศระหว่างเข้าพักที่ แอทที บูทีค คลองวาฬ