ชวนไปฟัง Jonathan Kreisberg ในงานเทศกาลแจ๊ส TIJC 2016

เมื่อเปรียบเทียบกับนักกีตาร์ที่กำลังผาดโผนในยุทธจักรแจ๊ส โจนาธาน ไครสเบิร์ก จัดว่าอยู่ในรุ่นกลางๆ ที่เริ่มมีชื่อเสียง และกำลังเป็นที่ชื่นชอบในหมู่มิตรรักแฟนเพลงเมื่อช่วงทศวรรษกว่าๆ ที่ผ่านมา

ในยุทธจักรดนตรีที่นิวยอร์ก เขามาทีหลัง รัสเซลล์ มาโลน และ ปีเตอร์ เบิร์นสตีน และแม้จะเริ่มทยอยมีผลงานอัดแผ่นในยุคแรกๆ กับค่ายเพลงอย่าง ‘คริสครอสส์’ แต่ก็ยังมาทีหลัง เคิร์ท โรเซนวิงเกิล ที่เริ่มโด่งดังมาก่อนหน้านั้นแล้ว

ถัดจาก โจนาธาน ก็ถึงคิวของนักกีตาร์คนอื่นๆ อย่าง ลาเก ลุนด์ และ จูเลียน ลาเก ที่กำลังเขย่าวงการอยู่ในเวลานี้

นิวยอร์กเกอร์ อย่าง โจนาธาน เกิดที่ศูนย์กลางแจ๊สของโลกก็จริง แต่ครอบครัวของเขาย้ายบ้านไปเมืองไมอามี ใช้ชีวิตเติบโต เรียนและเล่นดนตรีที่นั่น ก่อนจะหวนคืนกลับเมืองเกิด นิวยอร์ก ซิตี อีกครั้งในปี ค.ศ.1997 พร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะบรรลุฝันในการเป็นนักกีตาร์แจ๊ส

ดร.ลอนนี สมิธ มือออร์แกนชื่อดังที่เคยมีโอกาสร่วมงานกับ โจนาธาน เอ่ยปากถึงความมุ่งมั่นของนักดนตรีต่างวัยคนนี้ว่า “เขาเป็นนักกีตาร์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ผู้เป็นส่วนหนึ่งในวงทริโอของผมมานานหลายปี เขาเป็นนักดนตรีที่มีไฟปรารถนา พร้อมกับวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ เขาเร่งรุดอย่างไม่ลดละในการสร้างนวัตกรรม”

ก่อนจะมาเป็นนักกีตาร์แถวหน้าของนิวยอร์กในวันนี้ เส้นทางบนถนนดนตรีของ โจนาธาน ไครสเซอร์ นับว่ามีเนื้อหาหลากหลายมิติด้วยกัน อย่างที่เจ้าตัวบอก... เขาเติบโตมากับแผ่นเสียงหลากหลายสไตล์เพลงที่มีอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นแจ๊สของ จอห์น โคลเทรน (เพลงอย่าง My Favorite Things) ดนตรีคลาสสิก (John Williams บรรเลง ‘Concierto de Aranjuez’ ของรอดริโก หรือจะเป็บร็อกที่ขับเคลื่อนด้วยบลูส์ (เพลงอย่าง Disraeli Gears ของวงครีม)

เมื่อใครสักคนถามถึงความทรงจำของการแกะเพลงครั้งแรกในชีวิต โจนาธาน เอื้อนเอ่ยในทันทีว่า มันคือ Crossroads Blues ของเอริค แคลปตัน แม้กระทั่งตอนนี้ หากให้เวลาสักหน่อย เขาก็สามารถบรรเลงได้อย่างเต็มร้อย
ด้วยความรักในเสียงกีตาร์ที่ฝึกฝนมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ โจนาธาน ไครสเบิร์ก จึงตัดสินใจศึกษาทางด้านนี้ เขาเข้าเรียนที่ ‘นิว เวิลด์ สกูล ออฟ อาร์ตส’ ในไมอามี จากนั้น ได้ทุนไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งไมอามี โดยได้ตำแหน่งเป็นมือกีตาร์ของมหาวิทยาลัย มีโอกาสเดินทางทัวร์ไปแสดงดนตรีในบราซิล โดยร่วมเล่นกับนักดนตรีแจ๊สระดับตำนานอย่าง โจ เฮนเดอร์สัน, ไมเคิล เบรคเกอร์ และ เร็ด ร็อดนีย์

โจนาธาน ฝึกปรือกีตาร์ในแนวทางอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโปรเกรสซีฟ ร็อก จนถึงการบรรเลงในวง ‘นิว เวิลด์ ซิมโฟนี’ ภายใต้ไม้บาตองของ ไมเคิล ทิลสัน โธมัส นอกจากนี้ เขายังทำวงทริโอของตัวเอง ก่อนจะมีโอกาสได้เล่นเป็นวงเปิดให้แก่ศิลปินอย่าง จอร์จ เบนสัน และ สตีฟ มอร์ส

ทั้งหมดนี้ ดูเหมือนจะเป็นการเตรียมตัวสำหรับการเดินทางสู่เมืองบิ๊กแอปเปิล ซึ่งเจ้าตัวมุ่งหน้าสู่รากเหง้าอันลึกซึ้งของดนตรีแจ๊ส นอกจาก ดร.ลอนนี สมิธ แล้ว โจนาธาน ยังมีโอกาสร่วมบรรเลงกับศิลปินนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ลี โคนิทซ์, โจ ล็อค, โจเอล ฟราห์ม, เกร็ก ทาร์ดี, เลนนี ไวท์, เจน มอนไฮท์, อาริ โฮนิก รวมทั้งทำวงกับมือริธึ่มเซ็คชั่นคนสำคัญในวงการ อย่างบิลล์ สจ๊วร์ท และ แลร์รี กรีนาดิเยร์

“อิทธิพลทางดนตรีที่ผมได้รับค่อนข้างเปิดกว้าง แต่บุคคลหลักๆ คือ คีธ จาร์เรทท์ และ จอห์น โคลเทรน ผมชอบทุกอย่างที่ ‘ฟิลกู้ด’ ในแบบที่สอดรับกับแบ็คกราวด์ความสนใจของผม ซึ่งได้แก่ดนตรีแจ๊ส , ร็อก และ ฟังก์ นอกจากนี้ ผมยังรักและฟังดนตรีฟลาเมงโก และดนตรีคลาสสิกของอินเดีย ผมกำลังสนใจจากดนตรีแอฟริกัน มาสู่ดนตรีขนบโพลีริธึ่มของอเมริกัน และกำลังมองแนวทางใหม่ๆ ในการนำเสนอ"

สุ้มเสียงดนตรีของ โจนาธาน เป็นเช่นนั้น ตั้งแต่อัลบั้มชุดแรกๆ ที่ออกกับค่าย ‘คริสครอสส์’ นักกีตาร์หนุ่มวัยสี่สิบกว่าคนนี้ นำเสนอความละเมียดละไมผ่านกีตาร์กิ๊บสัน รุ่น ES-175 ที่มีซาวด์ชวนฟัง ผลงานของเขาได้รับเสียงชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์ถึงความสดใหม่ แต่ในเวลาเดียวกันก็ยังไม่ละทิ้งรากเหง้าความเป็นแจ๊สแบบดั้งเดิม

หลังเสร็จสิ้นจากอัลบั้มเดี่ยวกีตาร์ โจนาธาน ไครสเบิร์ก ก้าวล้ำยิ่งขึ้นในอัลบั้มล่าสุด Wave upon Wave ที่เจ้าตัวใช้เวลาอัดเพียง 2 วัน ในสตูดิโอท้องถิ่นแห่งหนึ่งในย่านบรู้คลิน โดยในช่วงนี้ เขามีนักดนตรียอดฝีมือรุ่นใหม่มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น วิลล์ วินสัน (แซ็กโซโฟน), ริค โรซาโต (เบส) , โคลิน สตรานาฮาน (กลอง) ร่วมด้วย เควิน เฮย์ส ที่มาช่วยเล่นเปียโนในบางเพลง

ความน่าสนใจของอัลบั้มนี้ คือพลังในการเขียนเพลงของ โจนาธาน ที่เต็มด้วยไอเดีย และอณูทางดนตรีที่หลากหลาย ซึ่งให้กระแสเสียงของดนตรีที่เชี่ยวกรากและเต็มไปด้วยพลัง เมื่อผนวกกับการบรรเลงอย่างใกล้ชิดของนักดนตรีแต่ละคน สามารถให้ผลลัพธ์ที่เป็นเลิศได้อย่างน่าทึ่ง

ในอัลบั้มนี้ยังมีเพลงสแตนดาร์ด 2 เพลงที่งดงามไม่แพ้กัน นั่นคือ Stella by Starlight และ Peace ซึ่งเพลงหลังคือบทประพันธ์อันโดดเด่นของ ฮอเรซ ซิลเวอร์นั่นเอง

นี่คือผลงานล่าสุดของนักกีตาร์คนนี้ ที่ยิ่งสดับรับฟัง ยิ่งอยากให้ถึงเทศกาลแจ๊ส TIJC 2016 เสียที (จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม ศกหน้านี้)

เพราะทราบข่าวมาว่า โจนาธาน ไครสเลอร์ จะบินมาครึ่งค่อนโลก เพื่อแสดงให้มิตรรักแฟนเพลงชาวไทยได้ชื่นชมกันบนเวทีนี้.