'อาร์ เดอะสตาร์' เข้าให้ปากคำตร. คดีซิ่งรถชนท้ายสิบล้อ

จากกรณีนายอาณัตพล ศิริชุมแสง หรือ ‘อาร์ เดอะสตาร์’ นักร้องและนักแสดงชื่อดัง ประสบอุบัติเหตุขับรถชนท้ายรถสิบล้อ บริเวณทางด่วนย่านสุขาภิบาล 5 โดยรถของนายอาณัตพล พลิกคว่ำอยู่กลางถนน จากนั้นมีรถเทรลเลอร์อีกคันขับพุ่งชนซ้ำเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมานั้น 

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 กันยายน นายอาณัตพล พร้อมด้วยผู้จัดการส่วนตัว ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท.ธีระ เรืองเนตร พนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 1 เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะพยาน 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายนายอาณัตพลได้ส่งตัวแทนประสานเข้าดูแลเยียวยาให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมพิธีทำบุญให้กับผู้เสียชีวิตตามหลักศาสนาอิสลาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังเกิดเหตุการณ์ทางนายอาณัตพลได้โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตราแกรม ทำให้ทราบรายละเอียดจนทราบว่าผู้เสียชีวิตนับถือศาสนาอิสลาม และได้ประกอบพิธีกรรมตามศาสนาอิสลามเสร็จสิ้นตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว จึงส่งตัวแทนเข้าร่วมพิธีทำบุญดังกล่าว พร้อมมอบเงินให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อแสดงน้ำใจที่ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตต้องเสียเสาหลักของครอบครัวไป 

นอกจากนั้น ได้ประสานแจ้งกับทางญาติว่าทางนายอาณัตพล จะเดินทางไปแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง แต่เนื่องจากวันเกิดเหตุได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และยังติดภารกิจต่อเนื่องที่ต้องแสดงละครเวทีเรื่อง“วันสละโสดกับโจทย์เก่าๆ” ที่เมืองไทยรัชดา เทียร์เตอร์ โดยได้รับบทเป็นเพื่อนพระเอก ซึ่งแสดงเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา จึงมีความจำเป็นต้องไปทำงานแสดงก่อน ทางด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็เข้าใจ นอกจากนี้ ในช่วงหลังเกิดเหตุการณ์นายอาณัตพล ได้รับผลกระทบในเรื่องของสภาพจิตใจ จึงทำให้มีผลกับการแสดงบ้างพอสมควร เพราะเพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆ มา และภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุยังคงติดตาอยู่ ส่วนอาการบาดเจ็บที่บริเวณนิ้วก้อยด้านขวาที่ต้องเย็บ 3 เข็ม ก็ดีขึ้นมากแล้ว ทั้งนี้ นายอาณัตพล ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเป็นครั้งแรก 

ด้าน พ.ต.ท.ธีระ เปิดเผยว่า คดีนี้ต้องแยกออกเป็น 2 คดี โดยคดีแรกนายอาณัตพล ได้ขับรถชนท้ายรถสิบล้อ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร เป็นความผิดลหุโทษ จึงมีโทษปรับในข้อหาขับรถประมาท ซึ่งปรับไม่เกิน 1,000 บาท ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์นายอาณัตพล ไม่ได้มีท่าทีหลบหนี อีกทั้งยังให้บัตร พร้อมทั้งแจ้งชื่อกับคู่กรณีแล้ว ก่อนที่นายอาณัตพลจะเดินทางไปโรงพยาบาล ซึ่งกรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปถึงที่เกิดเหตุพบแต่เพียงรถคว่ำ และรถทับคนเสียชีวิต ส่วนคนเจ็บนั้นได้ไปโรงพยาบาลก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะถึงจุดเกิดเหตุ ส่วนคดีที่สองเป็นส่วนของกรณีที่คนขับรถเทรลเลอร์ขับมาชนรถที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ในวันนี้นายอาณัตพล จึงเดินทางมาให้ปากคำในฐานะพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นมาอย่างไร และเห็นเหตุการณ์อย่างไรบ้าง