สตูลงาม...ถ้ำเจ็ดคต

สตูล...ไม่ได้ไกลเกินไปถึง เพราะถ้าในห้วงความคิดท่องเที่ยว มีชื่อจังหวัดตรังได้ ทำไมสตูลจึงจะไกลเกินไปถึงล่ะ ในเมื่อสองจังหวัดนี้ติดกันเหมือ
ใครได้ลองขับรถล่องใต้ประเภทเที่ยวไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นว่าจังหวัดทางภาคใต้โดยเฉพาะล่างๆ ของภูมิภาคนั้น ที่เที่ยวอยู่ติดๆ กัน จนจะตัดใจเลือกไปอย่างใดก็ออกจะเสียดายอีกแห่งที่ไม่ไป คืนวันที่ถ้าได้ขับรถล่องเที่ยวทางใต้จึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะใครที่ชอบบรรยากาศเขียวๆ ภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน ทุ่งนากว้าง บรรยากาศริมทางชวนให้จอดรถถ่ายภาพ มาภาคใต้เถอะ ไม่ผิดหวัง
เขต กิ่ง อ. มะนัง เป็นอำเภอเล็กๆ ต่อเชื่อมกับ อ.ละงู สองฝั่งทางเป็นสวนยางพารา ถนนหนทางนับว่าดีพอประมาณ นานๆ จึงจะมีรถสวนทางมาบ้าง ชาวบ้านปลูกบ้านห่างๆ กัน ขับรถเพลินๆ สบายๆ จุดหมายปลายทางคือ น้ำตกวังสายทอง ซึ่งเป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อในพื้นที่ แต่คนต่างถิ่นอย่างเราก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อ แต่พอแวะเข้าไปดูจึงเห็นความสวยงามของน้ำตกหินปูนที่ไหลลดหลั่นกันลงมาท่ามกลางร่มไม้ที่ร่มรื่นไปทั่วบริเวณ ที่น่าทึ่งก็คือแม้ผมจะได้ไปเยือนในช่วงหน้าแล้งของภาคใต้ แต่ปริมาณน้ำของน้ำตกสายทองนั้นเรียกว่ากำลังพอดีเล่น พอดีสนุก มิน่าชาวบ้านย่านนี้ถึงชอบมาเล่น มาสนุกกัน
ที่สะดุดตาเมื่อไปน้ำตกวังสายทองก็คือจะเห็นป้ายบริการล่องแก่งถ้ำเจ็ดคต ติดประกาศมาตั้งแต่ อ.มะนัง ที่ห่างออกไปเป็นสิบกิโลเมตร จนมาถึงตัวน้ำตกวังสายทอง แสดงว่ากิจกรรมล่องแก่งของที่นี่ฮิตมาก และศูนย์กลางการติดต่อล่องแก่งก็อยู่ที่น้ำตกวังสายทองนี่เอง ไหนๆ มาถึงถิ่นแล้ว เลยขอดูบรรยากาศการล่องแก่งแห่งเสียหน่อยปะไร
ตัวถ้ำเจ็ดคตที่ว่านี้ เป็นผลพวงของแนวภูเขาหินปูนที่เป็นแนวภูเขาที่มากมายในบ้านเรา เป็นลักษณะของถ้ำน้ำลอด (เอาไว้คุยเรื่องถ้ำจริงๆ จะมาเล่าเรื่องถ้ำให้ฟังอย่างละเอียด) เส้นทางในการล่องนั้นเขาจะล่องมาตามลำห้วยลำโลน ที่มาจาก อ.ละงู ลำห้วยสายนี้จะไหลผ่านหน้าผาหินปูน ซึ่งจะมีลำห้วยอีกสายที่มีที่มาจาก อ.มะนัง ไหลลอดฐานของภูเขาหินปูนออกมาบรรจบกับห้วยลำโลนอีกที ปริมาณน้ำของลำห้วยช่วงมิถุนายน ถือว่ากำลังเหมาะกับการล่องแก่งทีเดียว
เส้นทางล่องแก่งที่เขาจัดบริการก็มีทั้งสายสั้นและสายยาว คือถ้าสั้นๆ สำหรับคนมีเวลาไม่มากอย่างผู้เขียนที่แว่บไปเห็นแล้วอยากลอง เขาก็ให้ล่องแก่ง พายเรือแคนูเข้าถ้ำเลย แต่ใครที่มีเวลามากขึ้น อยากให้ครบเส้นทางเขา ก็จะมีการพายเรือแคนูตามลำห้วย ผ่านหมู่บ้านซาไกริมน้ำ ซึ่งที่สตูลนี้มีหมู่บ้านซาไกหลายกลุ่ม ที่ทุ่งหว้าก็มี จะเข้าไปทักทายเยี่ยมชมชนเผ่าที่อยู่กับป่าเขามานานนั่นก็ถือเป็นประสบการณ์ได้เรียนรู้มนุษยชาติด้วยกัน แล้วเข้าเที่ยวในตัวถ้ำเจ็ดคต ซึ่งเป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ข้างในก็มีหินงอก หินย้อย ที่สวยงามและยังสมบูรณ์อยู่มาก เพราะไม่ค่อยมีใครเข้าไปมากนัก ถ้ำที่ว่านี้เป็นภาคถ้ำบนบก ซึ่งผมไม่มีเวลามากเลยอดเข้าไปดู
แต่ที่ผมประทับใจ กลับเป็นบรรยากาศของการเที่ยวชมถ้ำเจ็ดคต ภาคพายเรือมากกว่า…!
เรือแคนูลำเล็กๆ จะล่องลงมาตามลำห้วยลำโลนใกล้-ไกล ก็แล้วแต่ความต้องการของเรา แก่งน้ำในลำห้วยนั้นไม้ใช่แก่งใหญ่ แค่พอสนุก จะให้ระดับ 4 ระดับ 5 คงไม่ถึงขั้นนั้น ปริมาณน้ำพอดีล่อง แต่บรรยากาศสองฝั่งที่ร่มรื่น และมีหน้าผาหินปูนสีขาวให้ได้แหงนชมความงามแทบตลอดเส้นทางน้ำแบบนี้ต่างหากลที่เพลินดี พอล่องไปจนถึงสามประสบที่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน เราจะพายเรือทวนสายน้ำที่มาจาก อ.มะนัง เข้าไปราว 100 เมตร สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้านั้นจึงเป็นอะไรที่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเก็บที่นี่ไว้เป็นจุดสุดท้ายของการล่องแก่งที่นี่
เพราะทันทีที่พายเรือทวนน้ำพ้นแนวป่าริมฝั่งเข้าไป ก็เห็นเพิงถ้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำทั้งลำห้วยไหลลอดมา เพดานถ้ำสูงนับสิบๆ เมตร กว้าง 8-10 เมตร ตามขนาดลำน้ำ ช่วงที่น้ำตีโค้งชนผังหินปูนด้านหนึ่ง ทำให้ฝั่งตรงข้ามกลายเป็นแนวสันทรายกว้าง ทรายขาว สะอาด นุ่มเท้า ตรงสันทรายนี่เองที่เพดานถ้ำก็สูง กว้างก็กว้าง ผมว่าไม่ต่ำกว่า 30 เมตรเชียวแหละ เลยดูโปร่ง โล่ง สบาย
ผมถูกบรรยากาศโดยรอบรั้งตัวให้อยู่ที่นั่นเพื่อรอเวลาช่วงบ่ายที่แสงแดดด้านนอกส่องสะท้อนเข้ามาทางปากถ้ำ เมื่อมองย้อนแสงออกไปจะเห็นสายน้ำในลำห้วยเป็นสีเขียวมรกต ยิ่งยามที่ริ้วคลื่นน้ำทำมุมได้พอดีกับแสงแดดเหมือนใครเอาไฟประดับไปซ่อนไว้ในน้ำยังไงยังงั้น เงาของเรือแคนูที่จอดริมห้วย เงาของหินย้อยปากถ้ำที่ทาบลงไปในผืนน้ำสีเขียว ทำให้สายน้ำในลำห้วยที่เห็นแสงใส กลายเป็นเงาดำของเรือของหินย้อยที่ทาบลงไปในผืนน้ำ
ต้องยอมรับว่า ถ้ำเจ็ดคตเมืองสตูลนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ ผมก็เดินทางมาแทบทั่วประเทศแล้ว ก็เพิ่งเคยเห็นถ้ำงามแห่งนี้นี่เองที่ธรรมชาติน่าหลงใหล ชวนถ่ายรูปมาก ยิ่งน้ำในถ้ำเจ็ดคตสูงแค่เหนือเข่า เลยเดินเล่น หรือจะเล่นน้ำ เห็นแนวทรายในถ้ำก็อยากกางเต็นท์นอนบนหาดทรายริมน้ำนั่นด้วยซ้ำ แต่ชุมชนเขาหวงไว้ไม่ให้ก่อไฟเพราะเกรงเถ้ากองไฟจะทำให้ทรายขาวริมห้วย และเพดานถ้ำมีมลทิน เป็นการตั้งกติกาของชุมชนเพื่อถนอมแหล่งท่องเที่ยวของตัวเองไว้
ถ้ำเจ็ดคตนี้อยู่ในเขต หมู่ 10 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล จึงไปได้หลายทาง ทั้งจากทาง อ.มะนัง หรือ อ.ละงู, อ.ทุ่งหว้า หรือ อ.ท่าแพ ของ จ.สตูล ทางจะเชื่อมติดต่อกันทั้งหมด โดยมีป้ายบอกทางไปถ้ำภูผาเพชรหรือถ้ำเจ็ดคดหรือน้ำตกวังสายทอง ทุกเส้นทางจะไปบรรจบกับทางสายวังสายทอง- บ.ทับทุ่ง ถนนจะสุดแค่นั้น ก่อนสุดทางที่บ้านทับทุ่ง เลยน้ำตกวังสายทองไปราว 2 กิโลเมตร ถึงท่าเรือ ปากทางเข้าถ้ำเจ็ดคตพอดี ติดต่อล่องแก่งหรือติดใจบรรยากาศเขาก็มีที่พักด้วย อันนี้ก็ว่ากันตามความชอบ แต่ถ้าจะให้ดี โทรไปสอบถาม ททท.สำนักงานตรัง ที่รับผิดชอบจังหวัดสตูลด้วย(ผมพยายามจะให้ท่านผู้อ่านโทรไปใช้บริการหน่วยงานการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของเขาด้วย) โทรไปสอบถามที่ 0 7521 5868, 0 7521 1058
การได้พายเรือล่องแก่งพอแก้อยาก แต่กลับมาเห็นภาพงามของธรรมชาติถ้ำเจ็ดคตแห่งนี้แล้ว เล่นเอาประทับใจผืนป่าเมืองสตูลไม่รู้ลืม เมืองไทยของเรานั้น ยิ่งเดินทาง ยิ่งได้เห็น ได้รู้จักก็จะรัก ในประเทศของเรายังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกหลายที่ รอการไปเยือน ลงใต้คราวต่อไป เขียนชื่อถ้ำเจ็ดคต เมืองสตูล รับรอง ไม่ผิดหวัง




