จดไว้เลย วิธีต่อรองงาน-เงินเดือน ให้คุ้มทุกข้อเสนอแบบมืออาชีพ

ช่วงนี้ใครกำลังมองหางานพร้อมร่อนใบสมัครงานไปหลายแห่ง และได้รับการตอบรับให้เข้าสัมภาษณ์งาน สิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวไว้ให้ดีก็คือการ "ต่อรองงาน ต่อรองเงินเดือน" ให้เหมาะสมตามทักษะและประสบการณ์การทำงาน โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ Gen Z อาจยังไม่มีประสบการณ์การสัมภาษณ์งานมากนัก ก็ยิ่งต้องเตรียมพร้อมการพูดคุยเรื่องนี้ให้ดี 

แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะพูดคุยแบบไหน ต่อรองอย่างไร ลองมาเคล็ดลับวิธีต่อรองงานและเงินเดือนจากเด็กจบใหม่คนหนึ่งจากวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา เธอได้เปิดเผยเคล็ดลับการต่อรองเงินเดือนแบบไม่ต้องกลัวเสียมารยาท พร้อมแนะนำเทคนิคที่สำคัญอันดับ 1 ไว้ว่า “ถ้าไม่ได้เงินเดือนตามที่ต้องการ ก็ขอสิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการอย่างอื่นแทน”

ฮาลี จามา (Hali Jama) บัณฑิตจบใหม่วัย 22 ปีจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน สหรัฐอเมริกาบอกว่า ในขณะสัทมภาษณ์เธอได้ทดลองวิธีการต่อรองงานหลายแบบ และต่อรองกับทุกข้อเสนอที่ได้รับมา ไม่ว่าจะเป็นฝึกงานหรือสมัครงานจริง จนในที่สุดการฝึกฝนดังกล่าว ก็ได้ช่วยให้เธอได้ประโยชน์มากขึ้นจากแต่ละโอกาสงาน

แม้เธอจะเติบโตมาในครอบครัวที่สอนให้ถ่อมตัว และรู้สึกขอบคุณในทุกโอกาส จนเคยคิดว่า “ไม่ควรขออะไรเยอะ โดยเฉพาะเรื่องเงิน” แต่สุดท้าย จามา ก็ตระหนักว่า “นี่คือเรื่องของงาน” มันเป็นการแลกเปลี่ยนกำลังแรงกายบวกความสามารถที่มีกับค่าจ้างที่เหมาะสม เธอจึงเริ่มเปลี่ยนทัศนคติ และกล้าต่อรองมากขึ้น เพราะรู้ว่าตัวเองก็มีคุณค่าไม่แพ้สิ่งที่บริษัทเสนอให้

“ฉันช่วยแก้ปัญหา วางกลยุทธ์ และทำงานหนักให้บริษัท ไม่น้อยกว่าที่เขาจ่ายเงินให้ฉันเลย” เธอย้ำทัศนคติในการต่อรองสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม

เปิดเทคนิคเด็ดในการต่อรองเรื่องงาน อย่ามุ่งไปแค่เงินเดือน

เคล็ดลับที่ จามา ใช้เสมอขณะสัมภาษณ์งานในตำแหน่งใดๆ ก็ตามที่เธอสมัครไป นั่นคือ อย่ายึดติดแค่เรื่องเงินเดือน หากไม่ได้เงินเดือนในตัวเลขตามต้องการ เธอก็จะขอวันลาพักร้อนเพิ่ม หรือขอให้ช่วยออกค่าขนย้ายในการย้านที่อยู่แทน หรือค่าเช่าบ้าน ฯลฯ 

“ฉันไม่เคยเจอใครที่ปฏิเสธทั้งสามอย่างเลย อย่างน้อยก็ต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่งที่ได้แน่นอน” เธอบอก

แซม เดอเมส (Sam DeMase) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพจาก ZipRecruiter แนะนำว่า ความกลัวที่ว่า การต่อรองจะทำให้ดูเหมือนไม่รู้คุณค่า หรือไม่สำนึกบุญคุณของบริษัทนั้นไม่เป็นความจริงเลย เพราะการต่อรองเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจ้างงานที่นายจ้างคาดหวังอยู่แล้ว

3 เคล็ดลับปรับวิธีคิด เพื่อให้กล้าต่อรองงาน เงิน สวัสดิการ ได้ดีขึ้น

เดอเมส ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเธอแนะนำให้ผู้สมัครงานเปลี่ยนมุมมองด้วยเทคนิค 3 อย่างนี้ 

1. เลิกกลัวว่าจะเสียใจภายหลัง

เพราะหากไม่ลองถาม เราอาจจะมานั่งเสียดายทีหลังว่า “น่าจะขอมากกว่านี้” 

2. ต่อรองเผื่อคนที่มาหลังเรา

สร้างบรรทัดฐานที่เหมาะสมให้เกิดขึ้นในพนักงานรุ่นต่อๆ ไป โดยเฉพาะผู้หญิงที่อาจได้รับข้อเสนอแย่กว่าผู้ชาย หากไม่มีใครยกมาตรฐานขึ้น จากข้อมูลของ ZipRecruiter ผู้ชายที่เพิ่งจบใหม่มีรายได้เฉลี่ยปีละ 72,700 ดอลลาร์ ขณะที่ผู้หญิงอยู่ที่ 67,500 ดอลลาร์

3. เลือกงานที่ตรงกับจุดแข็งของคุณ

คุณจะรู้สึกมั่นใจที่จะต่อรองมากขึ้น หากเป็นงานที่คุณรู้ว่าทำได้ดี เดอเมสแนะนำให้เน้นสมัครงานที่สอดคล้องกับ “ความถนัดพิเศษ” ของตัวเอง และอธิบายให้ชัดว่า เคยใช้ทักษะเหล่านั้นสร้างผลลัพธ์อย่างไรในการทำงานจนสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นในการฝึกงาน งานพาร์ตไทม์ งานอาสา หรือโปรเจกต์ที่มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ทักษะยอดฮิตในประกาศรับสมัครงานระดับเริ่มต้น ได้แก่ ทักษะด้านนวัตกรรม, การสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน

ควรเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ดีให้เหมาะสม? แนะ ใช้ข้อมูลตลาดเป็นฐานข้อมูล

การกำหนดเงินเดือนที่เหมาะสม ควรใช้ฐานข้อมูลออนไลน์ที่อิงตามสถานที่และอุตสาหกรรม หรือสอบถามจากเพื่อนร่วมรุ่นที่ทำงานในสายใกล้เคียง

ในกรณีของ จามา เธอเริ่มหางานประจำตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024 และได้ข้อเสนอหลายแห่ง ก่อนจะตอบรับในเดือนตุลาคม โดยใช้ข้อมูลเงินเดือนที่เห็นในกระบวนการสมัครมาใช้ในการต่อรอง

“การต่อรองสำหรับฉันคือการยืนหยัดเพื่อคุณค่าของตัวเอง ส่วนใหญ่คนจะชื่นชมด้วยซ้ำ แล้วฉันก็แค่คิดว่า ‘ทำไมจะไม่ลองล่ะ? เราไม่มีอะไรจะเสีย?’” เมื่อเรียกไปแล้วอาจจะได้หรือไม่ได้ ก็ดีกว่าการไม่เรียกหรือต่อรองเลย เพราะนั่นคือคุณจะไม่ได้แน่ๆ 

อ้างอิง: CNBC make it, Ziprecruiter, U.S. Census Bureau data