‘Ita Bag’ เทรนด์กระเป๋าคนรุ่นใหม่ อวดของสะสมแสนรัก สุดหายาก
“อิตะแบ็ก” (Ita Bag) คือ กระเป๋าที่เต็มไปด้วยพวงกุญแจ ตุ๊กตาตัวละครสุดฮิต หรือการ์ดของศิลปินไอดอล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักที่แฟนคลับมีให้ต่อเมน
KEY
POINTS
- “อิตะแบ็ก” (痛バッグ) ใช้เรียกกระเป๋าที่ใส่ของสะสมจากตัวละครในมังงะ อะนิเมะ เกม หรือศิลปินไอดอล ซึ่งอาจจะเป็นพวงกุญแจ เข็มกลัด ตุ๊กตา หรือการ์ดจำนวนมาก
- แฟนด้อมมักจะพกพากู่จือรูปแบบต่าง ๆ เช่น การ์ดศิลปิน ตุ๊กตา อิตะแบ็กไปไหนมาไหนด้วยเสมอ เพื่อช่วยสนับสนุนทางอารมณ์ ให้รู้สึกว่ามีเพื่อนอยู่เคียงข้างในชีวิตประจำวัน ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
- ในฐานะแฟนคลับการพกของสะสมจำนวนมาก ก็ประกาศศักดาให้คนรู้ว่าพวกเขามี “เมน” เป็นใคร และแสดงความรัก ความทุ่มเทที่มีต่อเมนที่พวกเขารัก
กลายเป็นเทรนด์ที่เริ่มเห็นในไทยแล้ว สำหรับการสะพายกระเป๋าที่เต็มไปด้วยพวงกุญแจ ตุ๊กตาตัวละครสุดฮิต หรือการ์ดของศิลปินไอดอล หรือที่เรียกว่า “อิตะแบ็ก” (Ita Bag) หรือ “กระเป๋าแห่งความเจ็บปวด” ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น และกำลังได้รับความนิยมในวัยรุ่นชาวจีน
คำว่า “อิตะแบ็ก” (痛バッグ) มาจากการรวมคำในภาษาญี่ปุ่น ระหว่าง อิไต (itai) ซึ่งแปลว่า เจ็บปวด หรือ น่าเขินอาย และ แบ็กกุ (baggu) ที่มาจากคำว่ากระเป๋า โดยรวมจึงเป็น “กระเป๋าแห่งความเจ็บปวด” ใช้เรียกกระเป๋าที่ใส่ของสะสมจากตัวละครในมังงะ อะนิเมะ เกม หรือศิลปินไอดอล ซึ่งอาจจะเป็นพวงกุญแจ เข็มกลัด ตุ๊กตา หรือการ์ดจำนวนมาก
อิตะแบ็กที่แฟนคลับพกไปคอนเสิร์ต
เครดิตภาพ: สมาคมคนรักหนุ่มตี๋
อิตะแบ็กส่วนใหญ่จะมีเคสใสเพื่อให้แฟน ๆ สามารถโชว์ของสะสมได้อย่างปลอดภัย โดยมีทั้งแบบกระเป๋าสะพายและกระเป๋าเป้ ด้วยความที่ต้องใส่ของสะสมไว้จำนวนมาก จึงอาจทำให้รู้สึกเขิน ๆ หน่อยเวลาที่ต้องสะพาย เพราะของที่มีในกระเป๋ามันมีมากแบบตะโกน สไตล์ More is More จนคนทั่วไปอาจจะมองด้วยสายตาแปลก ๆ แต่ขณะเดียวกัน ในฐานะแฟนคลับการพกของสะสมจำนวนมาก ก็ประกาศศักดาให้คนรู้ว่าพวกเขามี “เมน” เป็นใคร และแสดงความรัก ความทุ่มเทที่มีต่อเมนที่พวกเขารัก
อีกนัยหนึ่งที่เรียกว่า “อิตะแบ็ก” ก็อาจเป็นเพราะสินค้าสะสมเหล่านี้มีราคาสุดมหัศจรรย์ ของบางชิ้นก็เป็นของลิมิเต็ด บางชิ้นก็ต้องใช้ดวงเข้าช่วย (เพราะเป็นของสุ่ม บางทีก็ต้องซื้อต่อในราคาแพง) กว่าจะเก็บสะสมมาได้ครบ เลือดตาแทบกระเด็น
การนำสะสมมาห้อยบนกระเป๋าที่มีอยู่ก็ถือเป็นอิตะแบ็กประเภทหนึ่ง
เครดิตภาพ: @bamki_
ว่ากันว่าอิตะแบ็กมีต้นกำเนิดเมื่อต้นยุค 2000 ในช่วงแรก กระเป๋าแบบนี้มักจะพบเห็นในงานอนิเมะและงานอีเวนต์การ์ตูนโดจิน แต่เมื่อเข้าสู่ยุคโซเชียลมีเดียอิตะแบ็กก็ได้รับความนิยมในวงกว้างมากขึ้น
ในปี 2017 Otamart แอปตลาดนัดสินค้าเกี่ยวกับอนิเมะ มังงะ และเกม จัดประกวดอิตะแบ็กขึ้น โดยมีผู้เข้าแข่งขันประมาณ 1,800 คน แสดงให้เห็นว่าอิตะแบ็กเป็นส่วนหนึ่งของวงการแฟชั่น และแพร่หลายไปยังกลุ่มแฟนคลับในวงการอื่น ๆ
เทรนด์อิตะแบ็กไม่ได้หยุดอยู่แค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น ในวงการ K-POP ก็โอบรับวัฒนธรรมนี้ด้วยเช่นกัน เมื่อมีอีเวนต์สำคัญอย่างเช่น คอนเสิร์ต งานแฟนไซต์ เหล่าแฟนด้อมก็จะพกอิตะแบ็กไปด้วยเสมอ หรือบางคนก็พกพาอิตะแบ็กออกมาใช้ในชีวิตประจำวันก็มีให้เห็น ขณะเดียวกันศิลปิน K-POP เช่น “ATEEZ” ก็ออกอิตะแบ็กเป็นเมิร์ซประจำงาน “ANITEEZ IN ICE CITY” ให้แฟนคลับได้ซื้อหาด้วย
เครดิตภาพ: @YEOTEEZx
ตอนนี้วัยรุ่นชาวจีนก็โอบรับเทรนด์นี้ด้วยเช่นกัน โดยในจีนเรียกว่า “ทงเปา” (Tongbao) หรือบางทีก็เรียกรวม ๆ ว่า “กู่จือ” (Guzi - 谷子) ซึ่งเป็นคำทับศัพท์ของ Goods ที่แปลว่าสินค้า ตามรายงานของ iResearch Consulting Group บริษัทวิจัยและให้คําปรึกษาตลาด พบว่าในปี 2024 ตลาดสินค้ากู่จือในจีนมีมูลค่าถึง 23,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 41% จากปี 2023
กู่จือต่าง ๆ ที่แฟนคลับมักใช้ห้อยกับอิตะแบ็ก
เครดิตภาพ: แม่แท้ ๆ ของน้องแทยง
ผู้หญิงวัยรุ่นที่มีรายได้ปานกลางและสูง กลุ่มลูกค้าหลักที่ซื้อสินค้าเหล่านี้ ซึ่งคิดเป็น 61% ของทั้งหมด โดยมากกว่าครึ่งอาศัยอยู่ในเมืองชั้นนำ ทำให้สามารถช้อปปิ้งสินค้าเหล่านี้ในร้านค้าขายสินค้าวัฒนธรรม ACG (Anime Comic Game: อนิเมะ การ์ตูนคอมมิค และเกม)
ความนิยมในสินค้าตัวละครเกิดจาก “การบริโภคตามอารมณ์” ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจยังคงชะลอตัว แต่หนุ่มสาวยังคงจับจ่ายใช้สอยเงินไปกับสินค้าและบริการ เพื่อบรรเทาความเครียดหรือทำให้ตัวเองมีความสุข
คุณค่าของกู่จือแตกต่างจากสินค้าแบรนด์เนมที่มักถูกนำมาใช้เป็นเครื่องแสดงสถานะ แต่สำหรับกู่จือแล้วเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล โดยแฟนด้อมมักจะพกพากู่จือรูปแบบต่าง ๆ เช่น การ์ดศิลปิน ตุ๊กตา อิตะแบ็กไปไหนมาไหนด้วยเสมอ เพื่อช่วยสนับสนุนทางอารมณ์ ให้รู้สึกว่ามีเพื่อนอยู่เคียงข้างในชีวิตประจำวัน ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
เครดิตภาพ: Sasipal
นอกเหนือจากตัวละครจากเกมและอนิเมะสัญชาติจีนแล้ว ตัวละครจากมังงะยอดนิยมอย่าง เช่น Jujutsu Kaisen และ Chiikawa ก็เป็นที่นิยมในจีนด้วยเช่นกัน รวมถึง Hatsune Miku ตัวละครหญิงสุดน่ารักจาก Vocaloid เป็นซอฟต์เเวร์ประยุกต์รูปเเบบดนตรี ซึ่ง Bilibili แพลตฟอร์มแชร์วิดีโอ ได้ผลิตอิตะแบ็กมาจำหน่าย และเริ่มแตกไลน์สินค้าไปยังแบบอื่น ๆ จนปัจจุบันสินค้าต่าง ๆ ของ Hatsune Miku สามารถทำยอดขายไปได้แล้ว 2 ล้านชิ้น
จู เจียเฉิง ซีอีโอของ Yuechai Goods เครือข่ายร้านขายสินค้ากู่จือ เชื่อว่ากูจื่อนั้นไม่ใช่แค่กระแสแฟชั่นที่เดี๋ยวมาแล้วก็ไป
“เมื่อก่อนวัฒนธรรม ACG ยังคงเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มในจีน เพราะกลุ่มแฟนคลับยังมีอายุน้อยเกินไป แต่ในตอนนี้พวกเขามีอายุมากขึ้น กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงาน มีอำนาจในการซื้อและเข้ามามีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมกระแสหลัก” เจียเฉิงกล่าว กับ Jing Daily
ในเมืองจีนมีร้านขายอิตะแบ็กอยู่หลายแห่ง โดยรูปแบบกระเป๋าที่ขายดีที่สุด คือกระเป๋าที่ข้างหน้าเป็นพลาสติกใส เนื่องจากสามารถใส่ของเล่น ตุ๊กตาและของสะสมอื่น ๆ เพื่อโชว์ให้คนอื่นเห็นได้ ขณะที่ ห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเมืองใหญ่อื่น ๆ กำลังให้พื้นที่แก่ร้านที่ขายสินค้า ACM มากขึ้นเรื่อย ๆ
แฟนคลับพกพาอิตะแบ็กไปใช้ในชีวิตประจำวัน
เครดิตภาพ: bemarchgirl
ด้วยมูลค่าทางตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ เริ่มเข้าตลาดนี้ แบรนด์ต่าง ๆ จำนวนมากออกสินค้ารุ่นพิเศษสำหรับเฉลิมฉลองวันเกิดของตัวละคร เพื่อกระตุ้นให้เหล่าแฟนคลับตามเก็บสะสม (บางคนก็หวังซื้อเก็งกำไร)
ตัวอย่างเช่น ในเดือนพฤศจิกายน 2024 Starbucks China เปิดตัวอิตะแบ็ก 2 แบบ ที่มีโลโก้ของแบรนด์ประดับอยู่ด้วย ขณะที่ ร้านขายสินค้าไลฟ์สไตล์อย่าง Miniso ก็วางขายกระเป๋าเดินทางที่มีเคสด้านนอกโปร่งใส เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า
ส่วนแบรนด์หรูอย่าง Hermès, Chanel และ Gucci มีสินค้าบางรุ่นที่ทำมาจากพีวีซีลักษณะโปร่งใส เช่น กระเป๋า Aquarium ของ Chanel, กระเป๋า Plexi Bucket ของ Miu Miu และ Lee Radziwill Small Bag กระเป๋าที่มาพร้อมแผ่นกันฝนที่ถอดออกได้ จาก Tory Burch กลายเป็นสินค้ายอดนิยมในหมู่แฟนคลับที่นิยมแฟชั่น เพราะสามารถนำมาใช้แทนอิตะแบ็กได้
เนื่องจาก คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกถึงตัวตนและทำให้ตนเองมีความสุข ดังนั้นแบรนด์ที่ไม่ปรับตัวให้เข้ากับกระแสนี้ อาจจะพลาดโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวัฒนธรรมผู้บริโภค
ที่มา: Fun Japan, Jind Daily, Nikkei, Radii
