CMO Google แนะคนรุ่นใหม่ 'สนุกกับเส้นทางอาชีพ' อย่าเร่งรีบเกินไป

CMO Google แนะคนรุ่นใหม่ 'สนุกกับเส้นทางอาชีพ' อย่าเร่งรีบเกินไป

ลอร์เรน ทูฮิลล์ CMO ของบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่อย่าง Google แนะคนรุ่นใหม่ ให้เปิดรับประสบการณ์ และสนุกไปกับเส้นทางอาชีพ แทนที่จะวางแผนอาชีพอย่างตายตัว

KEY

POINTS

  • Lorraine Twohill ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO) ของ Google เผยแนวคิดการประสบความสำเร็จทางอาชีพการงาน ไม่ควรเคร่งกับการวางแผนอาชีพอย่างตายตัวมากเกินไป แต่ควร "สนุกไปกับเส้นทางอาชีพ" 
  • ชีวิตการทำงานควรเป็นเหมือนสนามเด็กเล่นมากกว่าเป็นบันไดอาชีพ จงเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แทนที่จะมุ่งไต่เต้าเพียงอย่างเดียว แต่ควรลองทำงานในหลายๆ บทบาท สำรวจสิ่งใหม่ๆ เพื่อสั่งสมทักษะให้มากที่สุด
  • ทักษะความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) โดยเฉพาะความเห็นอกเห็นใจ เป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน เป็นความสามารถมองโลกผ่านสายตาผู้อื่น เข้าใจชีวิตประจำวันของผู้คน และรู้ว่าจะช่วยให้ชีวิตพวกเขาสะดวกขึ้นได้อย่างไร

วัยทำงานทุกคนล้วนมีเป้าหมายสูงสุดในอาชีพการงานของตน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่พวกเขาวางแผนและพร้อมพุ่งชนเป้าหมายสูงสุดในอาชีพอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับ "ลอร์เรน ทูฮิลล์" (Lorraine Twohill) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO) ของ Google กลับมองว่า การจะประสบความสำเร็จทางอาชีพการงานในองค์กรขนาดใหญ่นั้น ไม่ควรเคร่งกับการวางแผนอาชีพอย่างตายตัว แต่ควร "สนุกไปกับเส้นทางอาชีพ" นั้นๆ ด้วย โดยเธอได้แชร์แนวคิดการทำงานนี้ผ่านรายการพอดแคสต์ 'This Is Working' ของ LinkedIn ซึ่งออกอากาศเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทูฮิลล์ เป็นผู้บริหารที่ดูแลพนักงานฝ่ายการตลาดมากกว่า 4,000 คน ได้อธิบายแนวคิดการทำงานให้แก่พนักงานรุ่นใหม่ว่า "จงเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉันมองว่าชีวิตการทำงานในองค์กรอย่าง Google นั้น คล้ายกับสนามเด็กเล่นมากกว่าเป็นบันไดอาชีพ" 

แทนที่จะมุ่งไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งสูงๆ เพียงอย่างเดียว เธอแนะนำให้วัยทำงานรุ่นใหม่ลองทำงานหลายอย่างในบทบาทที่แตกต่างกัน สำรวจสิ่งใหม่ๆ ด้วยการทำงานร่วมกับทีมที่หลากหลาย ในแผนกที่แตกต่างกัน เพื่อสั่งสมทักษะให้ได้มากที่สุดก่อน และที่สำคัญคือต้องหมั่นหาความรู้เสมอ 

บทเรียนอาชีพของ Lorraine Twohill ไม่เคยใฝ่ฝันว่าจะได้เป็นผู้บริหารมาก่อน

ในช่วงแรกของชีวิตการทำงาน ลอร์เรน ทูฮิลล์ ซึ่งเป็นชาวไอร์แลนด์ เคยทำงานด้านการตลาดให้กับบริษัทท่องเที่ยวในยุโรป และเธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้ทำงานกับบริษัทสายเทคโนโลยีในอีกทวีป วันหนึ่งเธอมีโอกาสร่วมงานกับ Google และถูกเชิญให้เข้าพบกับทีมงาน (เธอคิดว่าเป็นการประชุมในฐานะลูกค้าคนสำคัญ) แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อการประชุมครั้งนั้นกลับกลายเป็นการสัมภาษณ์งานแบบไม่เป็นทางการ และหลังจากการสัมภาษณ์ถึง 22 ครั้ง เธอก็ได้เข้ารับตำแหน่งงานของกูเกิลในยุโรป

CMO Google แนะคนรุ่นใหม่ \'สนุกกับเส้นทางอาชีพ\' อย่าเร่งรีบเกินไป

ต่อมาในปี 2003 ทูฮิลล์กลายเป็นหนึ่งในผู้บริหารฝ่ายการตลาดนอกสหรัฐฯ คนแรกของ Google และในปี 2009 เธอย้ายไปสหรัฐฯ เพื่อรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการตลาดระดับโลก ซึ่งเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ไม่เคยอยู่ในแผนของเธอมาก่อน หนึ่งในข้อคิดที่เธอได้เรียนรู้จากการเป็นผู้นำ (ทีมการตลาด) ในกูเกิลคือ การมีทีมงานที่หลากหลาย (เพศ อายุ เชื้อชาติ) ช่วยให้ทีมแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เธอเล่าว่า "ฉันคิดว่าทุกๆ บริษัท รวมถึงกูเกิล ต้องการพนักงานที่มีพื้นเพหลากหลาย ฉันเองก็ชอบทำงานกับวิศวกรซอฟต์แวร์มาก พวกเขาน่าสนใจมากเลยนะ วิธีที่พวกเขามองโลก วิธีที่พวกเขาคิดแก้ปัญหา มันสะท้อนถึงวิธีการทำงานที่สร้างสรรค์อย่างมากของพวกเขา" 

ทีมวิศวกรเหล่านี้จะพยายามสร้างผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์และช่วยแก้ปัญหาให้ผู้คน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องการทักษะการคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมากในหลายๆ ด้าน และที่สำคัญ เธอมองว่าความคิดสร้างสรรค์ของทีมวิศวกร ช่วยผลักดันให้ตัวเธอและทีมการตลาดของเธอตั้งมาตรฐานให้สูงขึ้น

เรามักพูดกันว่าเราต้อง "สร้างสรรค์ให้เหนือกว่าคนที่สร้างสรรค์ที่สุด" และนั่นเป็นสิ่งที่ท้าทาย ฉันเชื่อว่าแม้แต่พนักงานที่ไม่มีพื้นฐานด้านเทคนิค ก็มีพลังพิเศษในแบบของตัวเอง ซึ่งมีคุณค่าไม่แพ้กันเลย 

ทักษะสำคัญที่ทั้งผู้นำและพนักงานต้องมี คือ EQ (ความฉลาดทางอารมณ์)

ไม่เพียงแต่ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น ที่จำเป็นกับการทำงานในสายเทคโนโลยี แต่อีกหนึ่งทักษะที่ ทูฮิลล์ มองว่าสำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ ทักษะความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) สำหรับเธอแล้ว EQ คือ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) มันคือความสามารถมองโลกผ่านสายตาของผู้อื่น เข้าใจว่าชีวิตประจำวันของคนทั่วไปว่าเป็นอย่างไร และเทคโนโลยีที่ทีมพัฒนาขึ้นมาจะช่วยให้ชีวิตพวกเขาสะดวกขึ้นได้อย่างไร เหล่านี้เป็นแนวคิดที่อยู่ใน DNA ของ Google คือการให้ความสำคัญกับผู้ใช้เป็นอันดับแรก

"พวกเราทำงานด้วยแนวคิดที่ว่า เข้าใจผู้ใช้ เข้าใจเวทมนตร์ของเทคโนโลยี และเชื่อมทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกัน เราสามารถนำความซับซ้อนของบริษัทขนาดใหญ่อย่าง Google และกลั่นกรองออกมาให้เป็นสิ่งที่เข้าใจง่ายและเชื่อมโยงกับคนทั่วไป เทคโนโลยีต้องช่วยให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น

ฉันคิดว่าบุคลากรที่มี EQ (ความฉลาดทางอารมณ์) สามารถเข้าใจผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น เพราะพวกเขามีความสามารถด้านการเล่าเรื่อง การเข้าใจมุมมองของผู้ใช้งานทั่วไป และเป็นกระบอกเสียงแทนผู้ใช้งานในการประชุมที่สำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ล้วนเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อองค์กรอย่างมาก" ทูฮิลล์ อธิบายเพิ่มเติม

CMO Google ยังบอกอีกว่า ทักษะด้าน EQ ไม่ใช่สิ่งที่จะสอนกันได้ง่าย ๆ เพราะมีบางอย่างในชีวิตที่ยากจะถ่ายทอด และ EQ เป็นหนึ่งในนั้น นอกจากนี้การมีวิจารณญาณและรสนิยมของแต่ละคนก็แตกต่างกัน โดยเฉพาะงานในด้านการตลาด ต้องอาศัยประสบการณ์ชีวิตและประสบการณ์ในสายอาชีพเข้ามาช่วยค่อนข้างมาก 

เจ็บป่วยครั้งใหญ่พลิกชีวิต ทูฮิลล์เปลี่ยนแปลงวิธีทำงานให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น 

ในปี 2016 เส้นทางอาชีพของทูฮิลล์พลิกผันอีกครั้ง เมื่อเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ยากและมีความรุนแรงสูง หลังจากเข้ารับการรักษาจนหาย เธอพยายามกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ทำงานหนักและอุทิศตัวให้กับงาน แต่สุดท้ายก็พบว่าวิธีนั้นไม่ยั่งยืน

ปัจจุบัน เธอเลือกที่จะไม่ทำงานจนดึก ไม่พยายามตอบอีเมลทุกฉบับ และไม่กดดันตัวเองให้สมบูรณ์แบบตลอดเวลา เธอบอกว่าตนเองพบความสงบมากขึ้นหลังจากเปลี่ยนแปลงวิธีทำงาน ซึ่งมันไม่ได้ทำให้อาชีพของเธอพังทลาย ตรงกันข้าม เธอกลับมีความสุขและสุขภาพดีขึ้นกว่าที่เคย

"ตอนที่ฉันป่วยเป็นมะเร็งท่อน้ำดี (cholangiocarcinoma) โชคดีที่ฉันสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้-รักษาได้ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีใครรอด ฉันตระหนักว่าฉันโชคดีแค่ไหนที่ยังมีชีวิตอยู่และมีสุขภาพแข็งแรง มันทำให้ฉันเปลี่ยนมุมมองต่อชีวิตการทำงาน และการดูแลสุขภาพของตัวเอง" เธอเล่าผ่านรายการของ LinkedIn 

การไม่ได้ดูแลตัวเองมากเท่าที่ควร เป็นสาเหตุให้ทูฮิลล์ป่วยด้วยโรคร้ายแรง หลังจากผ่านฝันร้ายมาได้ เธอจึงเริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเองมากขึ้น ไม่ปล่อยให้ตัวเองอดนอนเหมือนเมื่อก่อน และเรียนรู้ที่จะจัดลำดับความสำคัญ และเรียนรู้ว่าควรปล่อยวางมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องตอบอีเมลทุกฉบับ ให้ความสำคัญเฉพาะงานที่สำคัญจริงๆ ปล่อยให้อย่างอื่นเป็นไปตามธรรมชาติ แล้วอยู่กับมันได้อย่างสบายใจ

ทูฮิลล์ได้รับคำแนะนำอันมีค่าจากซีอีโอและเพื่อร่วมงานหลายๆ คน และเธอก็รับมันมาปรับใช้จริง ทุกวันนี้เธอบอกว่าตนเองทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก เป็นผู้นำที่ดีขึ้น และเข้าใจว่าการทำงานไม่ใช่การใช้พลังทั้งหมดไปกับการเร่งทำทุกอย่างตลอดเวลาได้ แต่ต้องรู้จักให้ความสำคัญ จัดสรรเวลาในแต่ละวันให้ดีขึ้น แล้วลงมือทำงานที่มีคุณค่าจริงๆ ..นี่เป็นบทเรียนด้านชีวิตการงานที่เธออยากแชร์ทิ้งท้ายให้แก่วัยทำงานคนรุ่นใหม่ทุกคน

 

อ้างอิง: CNBC, This is work LinkedIn, LinkedIn