'ดอกเข้าพรรษา' สัญลักษณ์ 'วันเข้าพรรษา' ศาสนพิธีสำคัญของพระภิกษุสงฆ์

'ดอกเข้าพรรษา' สัญลักษณ์ 'วันเข้าพรรษา' ศาสนพิธีสำคัญของพระภิกษุสงฆ์

รู้จัก "ดอกเข้าพรรษา" สัญลักษณ์แห่งประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาของชาวสระบุรี ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาใน "วันเข้าพรรษา" ของทุกๆ ปี อีกทั้งยังเป็นดอกไม้ประจำฤดูฝนอีกด้วย

"วันเข้าพรรษา 2566" ตรงกับวันที่ 2 สิงหาคม ซึ่งถือเป็นวันหยุดราชการ แต่ไม่เป็นวันหยุดของธนาคาร สถาบันการเงิน และองค์กรเอกชน ทั้งนี้ มีหนึ่งไฮไลต์เด่นที่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่ง "วันเข้าพรรษา" นั่นคือ "ดอกเข้าพรรษา" และประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาของชาวจังหวัดสระบุรี ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ประเพณีหนึ่งเดียวในโลก" 

กรุงเทพธุรกิจ ชวนทำความรู้จัก "ดอกเข้าพรรษา" ดอกไม้ประจำฤดูฝนและประจำฤดูกาลแห่งการจำพรรษาของพระภิกษุสงฆ์ให้มากขึ้น

 

  • "ดอกเข้าพรรษา" ดอกไม้ประจำฤดูฝน ฤดูแห่งการจำพรรษา

ในอดีตชาวอำเภอพุทธบาท จ.สระบุรี นิยมเก็บดอกไม้ที่ชื่อว่า "ดอกเข้าพรรษา" หรือ "ดอกหงส์เหิน" แล้วนำมาจัดรวมกับธูปเทียน เพื่อตักบาตรถวายพระในวันเข้าพรรษาของทุกปี วิถีชีวิตที่ยึดโยงกับศาสนาพุทธดังกล่าวถูกสืบสานต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเกิดเป็นประเพณีท้องถิ่นในปัจจุบัน

เมื่อพระสงฆ์ได้รับบิณฑบาตดอกเข้าพรรษาแล้ว ก็จะนำไปสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งชาวสระบุรีเชื่อกันว่าการตักบาตรด้วยดอกเข้าพรรษาจะส่งผลบุญให้ผู้ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 

หงส์เหิน (Globba Winiti) เป็นพืชจัดอยู่ในวงศ์ขิง เป็นไม้ดอกเมืองร้อน เกิดขึ้นในป่าร้อนชื้น ซึ่งพบได้ในประเทศไทย พม่า และเวียดนาม ลักษณะเด่นของดอกหงส์เหินก็คือ เกสรของดอกที่มีรูปร่างคล้ายดังตัวหงส์ที่กำลังเหินบินด้วยท่วงท่าลีลาอันสง่างาม

\'ดอกเข้าพรรษา\' สัญลักษณ์ \'วันเข้าพรรษา\' ศาสนพิธีสำคัญของพระภิกษุสงฆ์

ทั้งนี้ ต้นดอกเข้าพรรษาเป็นพืชล้มลุก โดยจะออกดอกเพียงปีละ 1 ครั้งในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเท่านั้น ส่วนใหญ่มักมีดอกมีสีเหลืองสดใส สีขาว และสีม่วง มีกลีบประดับขนาดใหญ่ตามช่อดอกโดยรอบจากโคนถึงปลาย สีของกลีบดอกแต่ละสีมีความหมาย ดังนี้

  • สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์แห่งพระพุทธศาสนา
  • สีเหลือง หมายถึง สีแห่งพระสงฆ์
  • สีม่วง หมายถึง ได้บุญกุศลแรงที่สุด (เป็นสีที่หายากที่สุด) 

 

  • ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา "หนึ่งเดียวในโลก"

จังหวัดสระบุรีมีการจัดพิธี "ตักบาตรดอกเข้าพรรษา" ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทะบาท จังหวัดสระบุรี เป็นประจำทุกปี โดยที่นี่เป็นสถานที่ประดิษฐาน “รอยพระพุทธบาท” อันศักดิ์สิทธิ์ ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา มีความเชื่อตามคติชาวลังกาว่า พระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ 5 แห่ง และรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาทแห่งนี้ เป็น 1 ใน 5 แห่งดังกล่าว

ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา เป็นประเพณีที่สำคัญที่อยู่คู่กับวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารมาช้านาน ประชาชนชาวอำเภอพระพุทธบาทและพื้นที่ใกล้เคียง จะถือเอาวันเข้าพรรษาของทุกปี (ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8) เป็นวันตักบาตรดอกเข้าพรรษามาโดยตลอด เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่น กระทั่งมาเป็นประเพณีของจังหวัดสระบุรี และปัจจุบันเป็นประเพณีระดับประเทศ ได้ชื่อว่า “เป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก” 

\'ดอกเข้าพรรษา\' สัญลักษณ์ \'วันเข้าพรรษา\' ศาสนพิธีสำคัญของพระภิกษุสงฆ์

การเข้าร่วมประเพณีนี้นอกจากผู้ร่วมงานจะได้บุญกุศลอันยิ่งใหญ่จากการถวายดอกเข้าพรรษาแด่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนแล้ว พระภิกษุสงฆ์จะนำดอกเข้าพรรษาไปสักการะรอยพระพุทธบาท อันจะส่งผลบุญกุศลให้ผู้ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตามความเชื่ออีกด้วย

 

  • เปิดประวัติ "วันเข้าพรรษา" ทำไมพระสงฆ์ต้องอยู่จำพรรษาตลอดฤดูฝน?

วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า จำพรรษา ("พรรษา" แปลว่า ฤดูฝน, "จำ" แปลว่า อยู่)

พิธีเข้าพรรษานี้ถือเป็นศาสนพิธีสำหรับพระภิกษุโดยตรง ละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม เริ่มนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี และสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา

เหตุที่ต้องบัญญัติกฎข้อนี้ขึ้นมาก็เนื่องจากในอดีตเหล่าภิกษุสงฆ์ได้พากันออกเดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนาในที่ต่างๆ โดยไม่ย่อท้อทั้งในฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ต่อมาชาวบ้านได้พากันติเตียนว่า พวกสมณะไม่ยอมหยุดพักสัญจรแม้ในฤดูฝน ทำให้เหยียบย่ำข้าวกล้าของชาวบ้านได้รับความเสียหาย

\'ดอกเข้าพรรษา\' สัญลักษณ์ \'วันเข้าพรรษา\' ศาสนพิธีสำคัญของพระภิกษุสงฆ์

เมื่อพระพุทธเจ้าทราบเรื่อง จึงได้วางระเบียบให้ภิกษุประจำอยู่ที่วัดเป็นเวลา 3 เดือน พระสงฆ์ที่เข้าจำพรรษาแล้วจะไปค้างแรมที่อื่นไม่ได้ แต่ถ้าหากเดินทางออกไปแล้วและไม่สามารถกลับมาในเวลาที่กำหนด คือ ก่อนรุ่งสว่าง ก็จะถือว่าพระภิกษุรูปนั้น "ขาดพรรษา" 

 

  • ไม่ใช่แค่ประเพณี "ตักบาตรดอกเข้าพรรษา" แต่อย่าลืมว่าคนไทยมีประเพณี "แห่เทียนพรรษา" กันทุกปีด้วย

ในวันเข้าพรรษาของทุกๆ ปี มักมีประเพณีที่สำคัญและสืบทอดกันเรื่อยมา ก็คือ "ประเพณีหล่อเทียนพรรษา" สำหรับให้พระภิกษุได้จุดบูชาพระประธานในโบสถ์ในช่วง 3 เดือนแห่งการจำพรรษาที่วัด ซึ่งเทียนพรรษามักจะเป็นเทียนขนาดใหญ่อยู่ได้นานตลอด 3 เดือน 

ประเพณีหล่อเทียนพรรษา เกิดขึ้นจากความจำเป็นที่ว่าสมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าใช้เหมือนในปัจจุบัน เมื่อพระภิกษุจำพรรษารวมกันมากๆ และต้องปฏิบัติกิจวัตร เช่น การทำวัตรสวดมนต์ตอนเช้ามืดและตอนพลบค่ำ การศึกษาพระปริยัติธรรม กิจกรรมเหล่านี้ล้วนต้องการแสงสว่างในการจุดไฟบูชาพระรัตนตรัย อีกทั้งเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

สำหรับ "อานิสงส์ของการถวายเทียนพรรษา" เชื่อกันว่า ผู้ที่ทำบุญถวายเทียนพรรษานั้นจะห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ มีความสะอาดผ่องใสทั้งกายใจ มีความสง่างาม มีดวงตาแจ่มใส และก่อนการนำเทียนไปถวายที่วัด ก็จะจัดให้มีการหล่อเทียนให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วจึงจัดขบวนแห่เทียน เรียกว่า “ประเพณีแห่เทียนพรรษา” นั่นเอง 

-----------------------------------------

อ้างอิง : m-culturesaraburi