“Brad Pitt” และ ”Harry Styles” ใส่กระโปรงออกงาน ย้ำเทรนด์ “เสื้อผ้าไม่มีเพศ”

การปรากฏตัวด้วยเสื้อท่อนบนสีชมพูพาสเทลสุดเซอร์ทและกระโปรงสีน้ำตาลของ “Brad Pitt” ดาราฮอลลีวู้ดรุ่นใหญ่ระดับแถวหน้าบนพรมแดงในการโปรโมตภาพยนตร์ Bullet Train สร้างความฮือฮาให้แฟนคลับและคนทั่วไปอย่างมาก เพราะไม่มีใครเคยคิดไว้ก่อนว่าดาราชายสุดหล่อเท่ตัวพ่อแห่งวงการบันเทิงระดับโลกจะสวมเป็นกระโปรงแทนกางเกง

ไม่ใช่เพียงแค่แบรรด พิตต์ เท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ "Harry Styles" นักร้องขวัญใจวัยรุ่นอดีตบอยแบนด์ One Direction ในระยะหลังมานี้ เรามักจะได้เห็นเขาขึ้นคอนเสิร์ตและออกงานสังคมต่างๆ ด้วยการสวมกระโปรงและเครื่องประดับ ซึ่งปัจจุบัน Harry อยู่ระหว่างการโปรโมตอัลบั้มใหม่ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ซึ่งสิ่งที่ทั้ง Brad และ Harry ทำอยู่นั้น เป็นเพราะพวกเขามองว่า “เสื้อผ้าไม่มีเพศ”

“เสื้อผ้าไม่มีเพศ” คือสิ่งที่ทั้งคู่มองว่า การสวมกระโปรงไปไหนมาไหนคือเรื่องปกติ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นผู้หญิงหรือเพศทางเลือก เพราะมันคือแฟชั่นที่ไม่ว่าใครก็สามารถสวมใส่ได้เหมือนกัน

• เมื่อผู้ชายสวมกระโปรงเดินพรมแดง

ตลอดการออกงานดังๆ ที่ผ่านมาในแทบทุกงาน ดาราชาย ศิลปินชาย มักจะเลือกสวมสูทตัวเก่งเพื่อเสริมหล่อเสริมความมั่นใจเวลาออกงาน เพราะพวกเขาจำเป็นจะต้องอยู่ท่ามกลางสายตาสื่อนับร้อยและสายตาประชาชนอีกนับล้าน

ดังนั้นการจะออกงานแต่ละครั้งความหล่อย่อมต้องมาเป็นอันดับต้นๆ แน่นอน หรือการขึ้นคอนเสิร์ตศิลปินชายส่วนใหญ่เราก็จะได้เห็นพวกเขาสวมกางเกงเพื่อความทะมัดทะแมงและอีกมุมหนึ่งก็คงจะหนีเรื่องความหล่อเท่ไปไม่ได้ ดังนั้นเมื่อมองย้อนกลับไปเรามักจะเห็นภาพของดาราและศิลปินชายในมุมนี้มาโดยตลอด

แต่หลักสูตรความหล่อทั้งหลายสุดท้ายย่อมต้องมีผู้ทลายกำแพงเมื่อ “Brad Pitt” และ “Harry Styles” ลุกขึ้นมาหยิบกระโปรงสวมออกงานเสียเลย ในตอนแรกอาจจะเป็นเรื่องแปลก และมีหลายคนสงสัยว่า “เขาเป็นผู้ชายจริงๆ หรือเปล่านะ” “ที่ผ่านมาเขาแอ็บหรือเปล่า” “ทำไมเขาถึงเลือกใส่กระโปรงกันนะ” แต่คำถามเหล่านั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อ พวกเขาเริ่มออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า แท้จริงแล้วเสื้อผ้าไม่มีเพศ พวกเขาจะใส่อะไรก็ย่อมได้ ในเมื่อไม่ว่าจะเป็นกางเกงหรือกระโปรงก็ล้วนเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นทั้งนั้น

• ลุคใหม่ของ Brad Pitt 

แม้ว่าการสวมกระโปรงสีน้ำตาลเดินพรมแดงเพื่อโปรโมตการเปิดตัวภาพยนตร์แอ็กชันคอมเมดี้เรื่อง Bullet Train ที่เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ที่เขารับบทแสดงนำ จะเรียกเสียงฮือฮาได้มากพอสมควรเนื่องจากไม่มีใครคาดคิดว่าดาราเจ้าบทบาทตัวพ่อสุดหล่อในใจของใครหลายคนจะสลัดสูทเปลี่ยนลุคมาสวมกระโปรงสีน้ำตาลยาวครึ่งแข้งออกงานพร้อมโพสต์ท่าหล่อเท่ตามปกติอย่างไม่มีเคอะเขิน

ซึ่งกระแสตอบรับส่วนใหญ่ล้วนไปในทิศทางที่ดีโดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นมองว่า “Brad Pitt” สามารถแสดงออกให้โลกรู้ได้ว่าผู้ชายก็ใส่กระโปรงได้ เพราะในโลกของแฟชั่นนั้นไม่มีคำว่าผิดหรือถูก มีแค่เรื่องของความพอใจของผู้สวมใส่เท่านั้น

ภาพ Brad Pitt จาก VOGUE

แต่หากมองย้อนกลับไป Brad ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับ British Vogue ตั้งแต่ปี 2004 หรือเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ในช่วงการเดินสายโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Troy แล้ว ว่า “กระโปรงมันจะเป็นไอเท็มที่ผู้ชายทุกคนต้องมีติดตู้เสื้อผ้าภายในฤดูร้อนหน้า” พร้อมกับให้เหตุผลว่านักรบชายจากสมัยกรีกโบราณก็สวมกระโปรงเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป แต่ก็สามารถทำหน้าที่ความเป็นผู้ชายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นการที่ผู้ชายจะเลือกสวมกระโปรงจึงไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไรเลยเพราะ “เสื้อผ้าไม่มีเพศ”

• ศิลปินหนุ่มสุดฮอต Harry Styles ที่มองว่ากระโปรงคือแฟชั่น

หลังจากผันตัวมาเป็นศิลปินเดี่ยว “Harry Styles” ก็ลุยเดินหน้าทำเพลงอย่างเต็มที่ โดยล่าสุดเพิ่งปล่อยอัลบั้มใหม่ ​​Harry’s House ออกมาในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยทำสถิติล้างชาร์ต Spotify ทั่วโลกขึ้นเป็นอัลบั้มอันดับหนึ่งอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นอีกศิลปินหนุ่มที่ประสบความสำเร็จในวงการ

แต่ในอีกมุมที่น่าจับตาก็คือแฟชั่นของ Harry ที่เลือกจะสวม กระโปรง ชุดเดรส และเครื่องประดับของผู้หญิงในการขึ้นแสดงบนคอนเสิร์ตของเขารวมไปถึงการเดินพรมแดงงานใหญ่อย่าง Met Gala ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากในช่วงแรกจนเริ่มมีข่าวลือว่าเขาเป็นเกย์ ซึ่ง Harry ก็ได้ยืนยันกลับไปว่าเขาก็เป็นผู้ชายปกติธรรมคนหนึ่งที่พยายามรณรงค์ให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง

ภาพ Harry Styles จาก INSIDER

Harry เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vogue ในเดือน ธ.ค. 2020 ว่า “เราควรเลิกพูดถึงการแบ่งเสื้อผ้าเป็นของผู้หญิงกับผู้ชาย เพราะถ้าเราก้าวข้ามผ่านจุดนั้นมาได้เราก็จะได้สนุกกับมันจริงๆ” เพราะส่วนตัวแล้วเขามองว่าเสื้อผ้าผู้หญิงบางตัวนั้นมีดีไซน์ที่สวยงามจนเขารู้สึกว่ามันสุดยอดมากและมันไม่ควรจะถูกแบ่งแยกเลยว่าชุดไหนควรเป็นของเพศอะไร ในความจริงนั้นการแต่งตัวไม่มีคำว่าเยอะเกินไป โดย Harry เพียงต้องการให้เกิดความเท่าเทียมโดยที่การแต่งตัวนั้นไม่ได้ไปยึดโยงกับรสนิยมทางเพศ แต่เราควรเป็นตัวของตัวเองและสนุกกับมันมากกว่า เพราะว่า “เสื้อผ้าไม่มีเพศ”

ในปัจจุบันเราเห็นผู้คนมากมายที่โยนทิ้งเรื่องค่านิยมว่า กางเกงเป็นของผู้ชาย และกระโปรงเป็นของผู้หญิง เราเริ่มเห็นศิลปินหรือดาราบางคนเริ่มออกมาแต่งตัวในแบบที่เป็นตัวเองมากขึ้น เห็นผู้ชายใช้เครื่องประทับของผู้หญิง ทาเล็บเจล แต่งตัวด้วยโทนสีพาสเทล เห็นสาวๆ เลือกใส่สูทแบบกางเกงในชุดเจ้าสาวแทนกระโปรงฟูฟ่อง หรือสาวหน้าสวยในผมทรงสกินเฮด

กระแส “เสื้อผ้าไม่มีเพศ” นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เมื่อมี “Brad Pitt” และ “Harry Styles” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นชายผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิงที่ลุกขึ้นมาสวมกระโปรงออกงานทำให้เสื้อผ้าไม่มีเพศนั้นกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ รวมไปถึงทำให้ใครหลายคนกล้าที่จะลุกขึ้นมาแต่งตัวตามที่ตัวเองต้องการโดยที่ไม่ต้องสนใจว่าเสื้อผ้าที่เลือกนั้นเป็นของเพศไหน

อ้างอิงข้อมูล : VOGUE THAILAND, VOGUE, SonyMusicThailand และ INSIDER