K-POP ยังกระหึ่ม! 6 เดือน ยอดพุ่ง 35 ล้านชุด ค่าย HYBE ต้นสังกัด “BTS” ยืนหนึ่ง

จากการรายงานยอดขายแผ่นซีดีของวงการ K-POP ของ “Circle Chart” หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า “Gaon Chart” พบว่า ยอดขายแผ่นซีดีทั้งหมดของวงการ K-POP ทั่วโลก ในช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2565 ทำไปได้กว่า 35.48 ล้านชุด

ค่ายที่ทำยอดขายสูงสุดคือ “HYBE Corporation” ต้นสังกัดของบอยแบนด์ชื่อดังอย่าง “BTS” “Seventeen” และ “ENHYPEN” ทำยอดขายไปได้กว่า 10.6 ล้านชุดทั่วโลก หรือคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของยอดขายทั้งหมด

หากนับเฉพาะ 8 อัลบั้มที่ออกมาในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้สามารถทำยอดขายไปกว่า 8.5 ล้านชุด ส่วนที่เหลือราว 2.1 ล้านชุดเป็นยอดขายอัลบั้มของศิลปินที่วางจำหน่ายในปีก่อน ๆ 

“HYBE Corporation” มีบริษัทในเครือที่เป็นค่ายเพลงหลากหลายบริษัท ได้แก่ BigHit Music มีศิลปินในสังกัด คือ BTS, Tomorrow X Together และ Lee Hyun อดีตสมาชิกวง 8Eight ขณะที่ ENHYPEN อยู่ภายใต้การดูแลของ Belift Lab ซึ่งเป็นบริษัทที่ร่วมบริหารโดย CJ E&M

ด้าน Pledis Entertainment นั้นดูแลศิลปินวง Seventeen และ วงเกิร์ลกรุ๊ป fromis_9 และศิลปินเดี่ยวอีกหลายคน เช่น Baekho และ Minhyun ส่วน Source Music พึ่งเดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปวงล่าสุดอย่าง Le Sserafim, และ KOZ Entertainment มีศิลปินในสังกัด 2 คน คือ Zico และ Dvwn

BTS บอยแบนด์ที่สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกและเป็นศิลปินที่สามารถทำยอดขายแผ่นซีดีในครึ่งปีแรกของปีนี้ได้มากที่สุด กว่า 4.26 ล้านชุด โดยเป็นยอดขายจากอัลบั้มรวมเพลงฮิต “Proof” และมีเพลงใหม่ 3 เพลง ที่พึ่งปล่อยไปเมื่อเดือนที่แล้วถึง 2.59 ล้านชุด แต่สำหรับยอดดิจิทัลดาวน์โหลดนั้นไม่มีเพลงใหม่เพลงใดจากอัลบั้ม Proof ทำยอดดาวน์โหลดสูงสุดติด 10 อันดับแรกของ Circle Chart ประจำเดือนมิ.ย.

ตามมาด้วย Seventeen ที่ทำยอดขายจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 “Face the Sun” ไปได้กว่า 2.37 ล้านชุด ที่วางจำหน่ายเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยอดขายที่สูงสุดของวง แม้ว่าวงจะมีอายุมากกว่า 7 ปีแล้วก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้นอัลบั้มรีแพ็กเกจ “Sector17” ที่พึ่งวางจำหน่ายเมื่อ 18 ก.ค. ทำยอดขายทะลุ 1.2 ล้านชุดเป็นที่เรียบร้อย (ยอดนี้ยังไม่ได้นับรวมกับยอดขายครึ่งปีแรก)

ทางด้าน Tomorrow X Together หรือ ที่คนไทยเรียกกันว่า “ทีเร้ก” สามารถทำยอดขายมากกว่า 1.6 ล้านชุด จากมินิอัลบั้มชุดที่ 4 “Minisode 2: Thursday's Child” 

เมื่อต้นปี ENHYPEN ได้ออกอัลบั้มรีแพ็กเกจ “Dimension: Answer” ที่มีเพลง “Polaroid Love” เพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโลกโซเชียล ทำยอดขายไปได้กว่า 760,000 ชุด

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา ENHYPEN ได้ออกมินิอัลบั้มชุดที่ 3 “Manifesto: Day 1” ทำยอดขายไปได้มากกว่า 1.24 ล้านชุด (ยอดนี้ยังไม่นับรวมกับยอดขายครึ่งปีแรก) ทำให้กลายเป็นศิลปินกลุ่มที่มีระยะเวลาการเดบิวต์สั้นที่สุดที่ทำยอดขายเกิน 1 ล้านชุด ถึง 2 อัลบั้ม

ขณะที่วงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ที่พึ่งเดบิวต์ไปเมื่อ 2 พ.ค. ที่ผ่านมาอย่าง “Le Sserafim” ก็ทำยอดขายไปได้กว่า 415,000 ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตัวอย่างสวยหรู อีกทั้งเพลง “Fearless” ซิงเกิลหลักของอัลบั้ม ยังสามารถคว้าถ้วยรางวัลรายการเพลงได้ถึง 4 ถ้วยด้วยกัน

ภาพรวมของยอดขายแผ่นซีดีของวงการ K-POP โดยรวม เพิ่มขึ้น 36.7% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2564 ที่ทำยอดขายได้ 25.96 ล้านชุด

สำหรับศิลปินที่มียอดขายอัลบั้มมากกว่า 1 ล้านชุด โดยไม่ได้อยู่ในค่าย HYBE คือ "Glitch Mode" อัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ของบอยแบนด์ “NCT Dream” ที่ทำยอดขายไปได้มากกว่า 2 ล้านชุด และ "Im Hero" อัลบั้มเดบิวต์ของ “Lim Young-woong” ยูทูบเบอร์ที่คัฟเวอร์เพลงลงยูทูบ ทำยอดขายไปได้ถึง 1.1 ล้านชุด

ส่วน “aespa” วงเกิร์ลกรุ๊ปตัวท็อปของเจน 4 พึ่งปล่อยมินิอัลบั้มชุดที่ 2 “Girls” เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา มียอดพรีอัลบั้มถึง 1.6 ล้านชุด ซึ่งเป็นยอดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงเกิร์ลกรุ๊ป 

จากสถิติจะเห็นได้ว่า วงเกิร์ลกรุ๊ปจะทำยอดขายแผ่นซีดีได้น้อยกว่าวงบอยแบนด์ แต่ในขณะเดียวกัน วงเกิร์ลกรุ๊ปจะทำยอดขายดิจิทัลและการสตรีมมิงได้มากกว่าวงบอยแบนด์ ทำให้ส่วนใหญ่เพลงเกิร์ลกรุ๊ปจะทำอันดับในชาร์ตต่าง ๆ และมีโอกาสกลายเป็นเพลงฮิตได้มากกว่า

บรรดานักวิเคราะห์อุตสาหกรรม K-POP มองว่า ยอดขายอัลบั้มที่เพิ่มขึ้น และมีศิลปินหลายวงทำยอดขายได้มากกว่า 1 ล้านชุด เป็นสัญญาณที่ดีของเติบโตของวงการ K-POP  แม้ว่าบางคนอ้างว่า K-POP จะต้องเผชิญกับวิกฤติในไม่ช้า เนื่องจากสมาชิก BTS จะหันไปทำกิจกรรมเดี่ยวให้มากขึ้น โดยเริ่มจาก “J-HOPE” ที่พึ่งปล่อยอัลบั้มเดี่ยวไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดส่วนใหญ่จะรักษาฐานแฟนคลับและยอดขายอัลบั้มจะยังคงเติบโตต่อไป โดยที่ BTS ไม่ได้เป็นส่งผลกระทบต่อภาพรวมของ K-POP มากนัก Seventeen เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เนื่องจากวงสามารถทำยอดขายมากกว่า 1 ล้านชุด ถึง 7 ชุดติดต่อกัน ตั้งแต่ “An Ode” (2562) จนถึง Sector17 อัลบั้มล่าสุด และมียอดขายเพิ่มขึ้นทุกอัลบั้ม

“ในปัจจุบัน อุตสาหกรรม K-POP มีโครงสร้างแบบพีระมิด ที่มีฐานกว้าง ไม่ได้พึ่งพาศิลปินเพียงไม่กี่คนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม แม้ว่าจะเกิดภาวะสุญญากาศกับศิลปินตัวท็อปบางคน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ทั้งอุตสาหกรรมล่มสลาย” คิม จิน-วู หัวหน้านักวิจัยของ Circle Chart กล่าว 

 

บทความโดย: กฤตพล สุธีภัทรกุล

ที่มา: Allkpop, Allkpop, Korea Joongang Daily, Soompi, TalkKpop