"โหรฟองสนาน" เผย 7 ปีมฤตยูผู้อาเพศ เดินในราศีพฤษภ กับเมืองรัตนโกสินทร์

"โหรฟองสนาน" เผย 7 ปีมฤตยูผู้อาเพศ เดินในราศีพฤษภ กับเมืองรัตนโกสินทร์

"โหรฟองสนาน" เผย 7 ปีมฤตยูผู้อาเพศ เดินในราศีพฤษภ กับเมืองรัตนโกสินทร์ คาดพบการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของประเทศในเรื่องเศรษฐกิจ-การเงิน-ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ

"โหรฟองสนาน" เปิดเผยคำทำนายผ่านบทความ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่425 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ 7 ปีมฤตยูผู้อาเพศเดินในราศีพฤษภกับเมืองรัตนโกสินทร์ ปฎิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจ+ตีฝ่าสงครามเศรษฐกิจโลก+เพื่อหลุดจากประเทศกับดักรายได้ปานกลาง

\"โหรฟองสนาน\" เผย 7 ปีมฤตยูผู้อาเพศ เดินในราศีพฤษภ กับเมืองรัตนโกสินทร์

ในที่สุดมฤตยูจร(o) เจ้าของภัยอาเพศ-การปฏิวัติใหญ่ที่เดินอยู่ในราศีเมษทับลัคนาดวงเมืองรัตนโกสินทร์ มาตั้งแต่ต้นมีนาคม 2559 และสร้างการเปลี่ยนแปลงใหญ่ชนิดเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนครเราจะถามตัวเองเมืองว่าเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

เช่นการผลัดแผ่นดินหรือเปลี่ยนรัชกาล-การเกิดของขบวนการล้มเจ้า (มฤตยูจรทับพระอาทิตย์ดวงเดิม๑-ดาวจิตใจของเมือง) ที่ทางกลุ่มมองว่าล้ำสมัยหรือประชาธิปไตยจ๋า แต่คนที่ตามไม่ทันหรือไม่ยอมรับมองว่าเป็นพวกวิตถาร-เมือง 4.00 จะล้ำสู่ 5.0 ประทับใจที่สุด คือ รัฐยิงเงินช่วยเหลือตรงไปถึงชาวบ้านโดยไม่มีการหักหัวคิว-  การเกิดของเขตเศรษฐกิจต่างๆ - ระบบขนส่งที่ล้ำสมัยผุดเป็นดอกเห็ดเช่นรถไฟฟ้าที่กำลังขยายไปต่างจังหวัดที่เป็นเมืองขนาดใหญ่หรือรถไฟรางคู่ หรือรถไฟความเร็วสูงหรือยานยนต์ไฟฟ้า-ต่างชาติที่เคยเป็นทั้งศัตรูหรือมิตรเดินกันเต็มเมืองแม้แต่คนของประเทศข้าศึกที่เคยทำไทยเสียกรุงฯลฯ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ล่าสุด ที่ฟันฝ่ากันสาหัสสากรรจ์แบบอาเพศมากจน เช่นบางช่วงเมืองเงียบเหงาคล้ายคลุมด้วยสีเทาคนไม่ออกจากบ้านเหมือนเมืองร้าง บางคนถึงตายบางคนปางตายชาวบ้านมาหากินฝืดเคือง รัฐต้องอุ้มแล้วอุ้มอีก คือปรากฎการณ์โรคระบาดขนาดใหญ่โควิด-19 ก็จะจบลงสำหรับรอบนี้ตั้งแต่ประมาณ 8 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไปโดยประมาณ (เคยทำนายการสิ้นสุดของโควิด-19 ไว้ตั้งแต่ประมาณปี 2564)

ทั้งนี้เป็น เพราะมฤตยูจร(O) มีกำหนดย้ายจากราศีเมษเข้าไปเดินในราศีพฤษภและจะอยู่ที่นี่ประมาณเจ็ดปี

เพียงแต่ปรากฎการณ์นี้ก็อาจจะกลับมาบ้างอีกครั้งราวธันวาคม 2565-ต้นมีนาคม 2566 (มฤตยูจรเดินผิดปกติ-ข้ามราศี) แต่ก็จะเป็นปรากฎการณ์ขนาดย่อมกว่าที่ผ่านมา

เจ็ดปีต่อไปนี้ที่โลกเต็มบรรยากาศการปฎิวัติใหญ่-สงครามเศรษฐกิจ

ที่ราศีพฤษภที่มฤตยูจรจะเข้าไปเดินเจ็ดปีนี้ ทางโหรคือ ภพที่สอง หรือ กฎุมภะ ความหมายหลักคือเศรษฐกิจและการเจรจา(ภพที่สอง-เป็นตัวแทนการพูด -จากตำราโหราศาสตร์ปริทรรศน์ ภาคสี่ ภววินิจฉัย-เทพย์ สาริกบุตร)

สำหรับโลกที่ลัคนาสถิตราศีเมษ เชื่อว่าเจ็ดปีต่อไปนี้โลกจะมีการปฎิวัติใหญ่-เกิดสงครามเศรษฐกิจ ที่บางคราวจะกลายเป็นการสู้กันด้วยอาวุธจริงเป็นจุดๆ หรือเกิดสงครามจริงแล้วใช้เศรษฐกิจเป็นอาวุธกดดัน เช่นสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่โผล่ขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เมืองรัตนโกสินทร์ต้องตีฝ่าเจ็ดปีของสงคราม-การปฎิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจ

เน้นมาที่เมืองรัตนโกสินทร์ที่ลัคนาสถิตราศีเมษเช่นเดียวกับโลก

ที่ราศีพฤษภที่มฤตยูจรจะเข้าไปเดินประมาณเจ็ดปีนี้ ทางโหรคือ ภพที่สอง หรือกฎุมภะนั้น

ความหมายโดยละเอียด คือ ที่ราศีพฤษภเป็นดินแดนของเศรษฐกิจ-การทำมาหากิน - ทางได้ทางเสีย-ความมั่งคั่งสมบูรณ์ - รายได้และความร่ำรวย (หรือจน) ของประเทศชาติและประชาชน-ทรัพย์สิน และการเงินของชาติ - สถาบันการเงินต่างๆ - สถานที่หรือองค์กรที่ดำเนินงานเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินและจัดการเกี่ยวกับเงินชองชาติ เช่น กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย - การติดต่อแลกเปลี่ยนหรือปริวรรตเงินตรา -พันธบัตรหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ เช่น ธนบัตร

อีกทั้งยังหมายถึงการพูดจา-คารม หรือแปลง่ายๆหมายถึงเจรจาความเมืองหรือลีลาทางการทูต

จึงในบรรดาเรื่อง-ดีร้าย ที่จะเกิดในเมืองได้ตลอดเวลานั้นผลของมฤตยูจร (เข้าเดินในราศีพฤษภคือเมืองจะถูกจะเขย่าอย่างหนักด้วยเรื่อง เศรษฐกิจ- การทำมาหาได้- ฐานะของประเทศ -ความมั่ง

ทั้งนี้ รวมทั้งลีลาการทูตหรือการเจรจาความเมืองด้วย ซึ่งข้อนี้ในอดีตเคยพาได้รอดมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งรอบนี้ที่สงครามเศรษฐกิจจะปะทุเป็นระยะๆในเจ็ดปี

วิธีสังเกตอาการจะเกิดของมฤตยูจร

ตลอดระยะเจ็ดปีนี้คาดว่าเมืองจะพบการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของประเทศในเรื่องเศรษฐกิจ-การเงิน-ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ในระดับอะไรไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น อะไรไม่เคยพบเราก็จะได้พบ

โดยแต่ละรอบที่เกิดเหตุการณ์การต่างๆจะมีความยุ่งยากเสียหาย หากจะดีก็หลังจากยุ่งยากเสียหายก่อน หรือยุ่งยากเสียหายแล้วดี (เพราะผลมฤตยูจรเป็นดาวบาปเคราะห์)

ทั้งนี้ สังเกตได้ถึงลางหรืออาการของมฤตยู คือ จะมีการสะสมพลังของการเปลี่ยนแปลงก่อน จนเมื่อได้ที่แล้วจะระเบิดพลังของการเปลี่ยนแปลงออกมากวาดล้างสิ่งเก่า สถาปนาสิ่งใหม่ขึ้นมา แล้วสะสมพลังของการเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อระเบิดพลังอีกครั้ง

ฉะนั้น วิธีรับมือกับมฤตยูจรมีทางเดียวเท่านั้น คือหากมีเรื่องใดที่ล้าสมัยชวนอึดอัดหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทางเศรษฐกิจ-องค์กร-คณะบุคคลต่างๆ จะต้องเร่งชิงลงมือเปลี่ยนแปลง เพราะหากไม่เปลี่ยนจะถูกบีบหรือบังคับให้เปลี่ยน ถ้าฝืนได้ก็จะตกสมัยไปอย่างเจ็บปวด

ตัวอย่างนำมาก่อนแบบอาเพศทางเศรษฐกิจ คือการประกันโควิด19-เจอ-จ่าย-จบ ที่เล่นงานบริษัทที่คิด-ทำแบบเดิมง่ายๆนึกว่าหมูต้องเจ็บปวดพลิกเกมส์อุตลุด

ผลที่คาดว่าจะได้รับมีโอกาสหลุดจากประเทศกับดักรายได้ปานกลาง

ผลของการปฏิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจรอบนี้ คาดว่าจะออกมาในราวประมาณกรกฎาคม 2572 คือเมื่อมฤตยูจรพ้นจากราศีพฤษภไปแล้ว เมื่อยืนอยู่ข้างกำแพงเมืองพระนครเราจะถามตัวเองว่า - เศรษฐกิจของชาติมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร - และแม้มฤตยูจะเป็นดาวบาปเคราะห์การฎิวัติในแต่ละรอบย่อมจะมีความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งคนในเมืองอาจจะไม่อยากเปลี่ยนแปลง

แต่เพราะมฤตยูในดวงเมืองรัตนโกสินทร์ มาจากดินแดนแห่งโชคลาภ และความสำเร็จ( เกษตรเจ้าเรือนที่สิบเอ็ด-ลาภะ-ทางสากล) และตั้งอยู่ในจุดที่เรียกว่าให้คุณ-ความเข้มแข็งกับดวงเมือง (ราศีมิถุนหรือโยคหน้าลัคนาเมือง) จึงมีโอกาสที่เมืองผ่านความยุ่งยากของการปฏิวัติแล้ว-สงครามเศรษฐกิจแต่ละศึกแล้ว ผลจะออกมาดี

สุดท้ายเชื่อว่าหลังจากผ่านเจ็ดปีของการฟันฝ่า-สู้สงครามเศรษฐกิจเพื่อพาประเทศหลุดพ้นจากกับดับรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูง

ตอนต่อไปจะได้คาดหมายว่าเรื่องราวใด-องค์กรใดในเมืองที่จะได้ผลกระทบ-และกระทบซิ่งจากเจ็ดปีที่มฤตยูจรจะเดินในราศีพฤษภ…โปรดรอติดตาม