สุขภาพแข็งแรง และ Big Data รากฐานเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมยั่งยืน

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านสุขภาพ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมกลายเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
KEY
POINTS
- เทคโนโลยีดาวเทียมและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่เครื่องมือเหล่านี้จะมีประโยชน์จริงก็ต่อเมื่อเรานำมาใช้อย่างชาญฉลาดและจริงจัง
- “illness” และ “wellness” แตกต่างกันเพียงตัวอักษรเดียว จาก “I” เป็น “We” เพราะ “i” (ฉัน) คือการทำงานคนเดียว ระบบที่แยกส่วน ไม่ยั่งยืน ส่วน “we” (พวกเรา) คือการทำงานร่วมกัน ระบบที่เชื่อมโยง ยั่งยืนอย่างแท้จริง
- การชะลอวัยไม่ใช่แค่การทำให้ดูอ่อนเยาว์ แต่เป็นการมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น แนวคิดนี้สะท้อนถึงมิติของความยั่งยืนที่แท้จริง
ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านสุขภาพ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมกลายเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
งาน CHG Global Summits 2025 ภายใต้แนวคิดหลัก “Connecting Ideas Empowering Nations” จัดขึ้นวันที่ 21-24 ต.ค. 2025 เป็นเวทีนานาชาติที่เชื่อมโยงความคิดและพลังแห่งการพัฒนา ครอบคลุม 7 สาขาหลัก ได้แก่ สุขภาพและสุขภาวะ การท่องเที่ยว การศึกษา สตาร์ทอัพ เศรษฐกิจ พลังงาน และการลงทุน ตอกย้ำความร่วมมือระหว่างประเทศในการขับเคลื่อนอนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
'Longevity' สุขภาพยั่งยืนมีคุณภาพ ความมั่นคงแบบใหม่ของทุกวัย
พลังของดาวเทียม
“ดร.ปกรณ์ เพ็ชรประยูร” ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมภูมิสารสนเทศ ภายใต้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. (GISTDA) ได้เปิดมุมมองในหัวข้อ Space and Wellness: Leveraging Geo-Informatics for Healthier and Sustainable Living โดยเน้นย้ำว่า เทคโนโลยีอวกาศที่คนคิดว่าไกลตัว แต่กลับเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนได้
ปัจจุบันมีดาวเทียมมากกว่า 10,000 ดวงโคจรรอบโลก และหลายดวงทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลมหาศาลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ครอบคลุมมากกว่า 55 พารามิเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการวัดอุณหภูมิ ความเร็วลม ฝน ความชื้น และทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติและสุขภาพของมนุษย์
เทคโนโลยีดาวเทียมทำให้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมได้อย่างต่อเนื่องและครอบคลุม ดาวเทียมค้างฟ้าที่ประจำการอยู่เหนือศีรษะสามารถส่งข้อมูลทุก 10-15 นาที ในขณะที่ดาวเทียมโคจรให้ความละเอียดสูงถึง 15 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นรายละเอียดที่สำคัญได้
“เทคโนโลยีดาวเทียมและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่เครื่องมือเหล่านี้จะมีประโยชน์จริงก็ต่อเมื่อเรานำมาใช้อย่างชาญฉลาดและจริงจัง ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิต และที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาโรคภัยไข้เจ็บ คือ Big Data ที่เชื่อมโยงโดยตรงกับชีวิต สุขภาพ และอนาคต”
กระบวนการ 5Ms
“ดร. ปกรณ์” กล่าวถึงกระบวนการ 4 ขั้นตอนที่สำคัญ ได้แก่ การเฝ้าติดตาม (Monitor), การทำแผนที่ (Map), การวัดผล (Measure), และการสร้างแบบจำลอง (Model) แต่ทั้งสี่อย่างนี้จะไม่มีประโยชน์เลยหากไม่สามารถจัดการ (Manage) ข้อมูลเหล่านั้นได้ การจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพต้องนำไปสู่การกระทำที่เป็นรูปธรรม คือ ออกแบบพื้นที่เมืองที่สมดุล มีพื้นที่สีเขียวเพียงพอ และระบบสาธารณูปโภคที่เหมาะสม ปกป้องพื้นที่ป่าไม้ แหล่งน้ำ และระบบนิเวศที่สำคัญ และเตรียมพร้อมและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ความยั่งยืนที่แท้จริงเริ่มต้นที่สุขภาพ
“รศ.ดร.นพ. กำพล ศรีวัฒนกุล” ประธานกฎบัตรสุขภาพ กล่าวในหัวข้อ Medical Wellness Innovation ว่า ความยั่งยืนที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการรักษาโรค แต่เกิดจากการป้องกันโรคและการสร้างระบบสุขภาพที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน
“เมื่อเราพูดถึง Sustainability หลายคนมักนึกถึงสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ หรือพลังงาน แต่จากประสบการณ์ในแวดวงการแพทย์มายาวนาน ความยั่งยืนที่สำคัญที่สุดคือความยั่งยืนของสุขภาพมนุษย์ หากประชากรไม่มีสุขภาพดี เราจะไม่สามารถดูแลสิ่งแวดล้อม พัฒนาเศรษฐกิจ หรือสร้างสรรค์สังคมที่ดีได้ สุขภาพคือรากฐานของทุกมิติแห่งความยั่งยืน”
ปรัชญา “I” สู่ “We”
“รศ.ดร.นพ. กำพล" อธิบายว่า “illness” และ “wellness” แตกต่างกันเพียงตัวอักษรเดียว จาก “I” เป็น “We” นี่คือหัวใจของความยั่งยืน เพราะ “i” (ฉัน) คือการทำงานคนเดียว ระบบที่แยกส่วน ไม่ยั่งยืน ส่วน “we” (พวกเรา) คือการทำงานร่วมกัน ระบบที่เชื่อมโยง ยั่งยืนอย่างแท้จริง เมื่อแพทย์ ผู้ป่วย นักวิจัย ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทำงานร่วมกัน จะเปลี่ยนความเจ็บป่วย ให้เป็นความมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
“การสร้างความยั่งยืนที่แท้จริงคือการถ่ายทอดความรู้สู่คนรุ่นต่อไป นี่คือสิ่งที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญทุกคนมีหน้าที่แบ่งปันความรู้กับคนรุ่นใหม่ เพราะโลกจะดีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรุ่นต่อไปฉลาดกว่าเรา การป้องกันโรคที่เรียนรู้ตั้งแต่เด็กจะติดตัวไปตลอดชีวิต และวัฒนธรรมสุขภาพที่ดีเป็นมรดกที่มีค่าที่สุดที่เราจะมอบให้ลูกหลาน”
ชะลอวัยและฟื้นฟูสภาพ
“พญ. นลินี สุทธิพิศาล” นายกสมาคมเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Thai Association of Anti-Aging and Regenerative Medicine: TAARM) กล่าวในหัวข้อ Anti-Aging ว่า การชะลอวัยไม่ใช่แค่การทำให้ดูอ่อนเยาว์ แต่เป็นการมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น แนวคิดนี้สะท้อนถึงมิติของความยั่งยืนที่แท้จริง ซึ่งไม่เพียงแต่มุ่งเน้นที่ภาพลักษณ์ภายนอก แต่เป็นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนจากภายในสู่ภายนอก
การบรรลุสุขภาวะที่ยั่งยืนนั้นสามารถทำได้ผ่านการผสมผสานของสามองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ พลังของการแพทย์ฟื้นฟูสภาพที่ใช้ศักยภาพของร่างกายในการฟื้นฟูและสร้างเซลล์ใหม่ การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อสร้างนิสัยที่ดีต่อสุขภาพอย่างยั่งยืน และการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพ การผสมผสานทั้งสามองค์ประกอบนี้จะนำไปสู่สุขภาวะที่ดีขึ้น ความสงบสุข และความหลงใหลในชีวิตที่มากขึ้น
2 แนวทางเปลี่ยนแปลงสุขภาพ
“พญ. นลินี” นำเสนอ “Holistic Harmony” หรือความกลมกลืนแบบองค์รวม โดยยึดหลักการสำคัญว่าการรักษาที่แท้จริงนั้นเริ่มต้นจากภายใน แนวคิดนี้สอดคล้องกับหลักการของความยั่งยืนที่แท้จริง ผ่านการเชื่อมโยงจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกเข้าด้วยกัน เพื่อใช้พลังของจิตใจในการรักษา โดยปลุกปัญญาแห่งการรักษาตนเองของร่างกายที่มีอยู่แล้วในทุกคน และกระตุ้นให้ร่างกายใช้ความสามารถในการซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งนำไปสู่การส่งเสริมการฟื้นฟูสภาพด้วยตนเองและสร้างความยั่งยืนในการดูแลสุขภาพระยะยาว
อีกหนึ่งแนวทางคือ “Energy Medicine: The Power to Transform Awareness” หรือการแพทย์พลังงานที่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงความตระหนักรู้ แนวทางนี้เป็นการใช้พลังงานและความตระหนักรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงสุขภาพ ซึ่งสะท้อนมิติของความยั่งยืนที่ไม่ใช้ทรัพยากรมากเกินไป แต่ใช้พลังที่มีอยู่ในตัวเราเองอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด







