'Longevity' สุขภาพยั่งยืนมีคุณภาพ ความมั่นคงแบบใหม่ของทุกวัย

การมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ (healthspan) ไม่ใช่เพียงแค่การมีอายุยืน (lifespan) โดยเริ่มลงทุนสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย
KEY
POINTS
- สุขภาพคือความมั่งคั่งแบบใหม่ (Health is the New Wealth) เชื่อมโยงกับการลงทุนและผลลัพธ์ระยะยาว ซึ่งต้องเริ่มดูแลสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย
- อยากให้ทุกคนต้องรับผิดชอบชีวิตของตนเอง ทั้งสุขภาพกายและใจ เพื่อ "คนคนนั้นในอนาคต" ของเราเอง
- การดูแลตนเองให้ดีตั้งแต่วันนี้ จะช่วยให้เราไม่เป็นภาระต่อตนเองและผู้อื่นในอนาคต โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ เพราะชีวิต คือ การวิ่งมาราธอน
“Longevity หรือ สุขภาพยั่งยืนอย่างมีคุณภาพ” ไม่ใช่แค่เทรนด์สุขภาพ แต่คือ "การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญระดับโลก" ที่ส่งผลกระทบทั้งต่อสังคม เศรษฐกิจ และระบบสาธารณสุข โดยมุ่งเน้นที่การมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ (healthspan) ไม่ใช่เพียงแค่การมีอายุยืน (lifespan) ซึ่งหมายถึงการสามารถใช้ชีวิตได้เต็มที่ ไม่ถูกจำกัดด้วยโรคเรื้อรังและอาการปวดตามวัย ไม่เป็นภาระของใคร
“Sustainability Expo 2025 (SX2025)” มหกรรมความยั่งยืนที่จัดอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ภายใต้แนวคิดหลัก “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) และธีม Adaptation & Collaboration สะท้อนถึงความจำเป็นของการ “ปรับตัว” และ “ร่วมมือ” เพื่อเผชิญความท้าทายจากวิกฤตโลกรวน ระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 5 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แหล่งรวมกิจกรรมครอบคลุมทุกมิติของการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม พลังงาน อาหาร สุขภาพ นวัตกรรม และวัฒนธรรม
เริ่มลงทุนสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย
ในวันที่ 27 กันยายน 2568 เวที SX TALK STAGE นำเสนอหัวข้อ "Adaptation for Longevity” โดยมี หมอฟ้า - พญ.วรรณวิพุธ สรรพสิทธิ์วงศ์ แพทย์ผู้ชำนาญการเวชศาสตร์ป้องกันและเวชศาสตร์วิถีชีวิต ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ VitalLife รพ.บำรุงราษฎร์ ที่มาแชร์มุมมองร่วมกับ พญ.พิศศรี คุ้มอนุวงศ์ เจ้าของเพจ Dr.Mom-หมอแม่ และ อมรเทพ สัจจะมุนีวงศ์ CEO of Sati App แลกเปลี่ยนมุมมองของการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เมดพาร์คเปิดคลินิก Longevity รับสูงวัย 'สตรอง-พึ่งตนเอง-ชีวิตมีคุณค่า'
อ่านหนังสือ = อายุยืน? วิจัยชี้ ช่วยกระตุ้นสมอง ลดเครียด ดีต่อใจ
“หมอฟ้า-พญ.วรรณวิพุธ” เล่าเกี่ยวกับ Longevity ว่า การดูแลสุขภาพที่ดีไม่ได้จำกัดเพียงเรื่อง "Anti-Aging" ภายนอกเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงสุขภาพกาย สังคม และจิตใจ (Mind, Body, Spirit) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำคัญของสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ที่ดีต่อความเป็นอยู่โดยรวม
เมื่อก่อนทุกคนลงทุนในสุขภาพด้วยการชะลอความแก่ โดยเน้นการแก้ไขภายนอก เช่น การทำหน้าหรือฉีดสารต่างๆ เข้าร่างกาย เพื่อชะลอความแก่ แต่ปัจจุบันไม่ใช่ ทุกคนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการชะลอความแก่มากขึ้น และมุ่งการดูแลสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม ทั้งสุขภาพกาย สังคม และจิตใจ
“สุขภาพคือความมั่งคั่งแบบใหม่ (Health is the New Wealth) ที่เชื่อมโยงกับการลงทุนและผลลัพธ์ระยะยาวอย่างชัดเจน โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการลงทุนเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อสถานะทางการเงินและความมั่นคงในชีวิตระยะยาว เพราะการดูแลสุขภาพไม่ได้เป็นเพียงเรื่องส่วนตัว แต่เป็นการลงทุนที่จำเป็น ทั้งการลงทุนด้วยเวลา และต้องเริ่มลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ หรือตั้งแต่อายุยังน้อย ทุกคน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่”
อย่าปล่อยให้ตัวเองป่วย รอรัฐดูแล
เมื่อปัญหาสุขภาพที่สะสมมาเป็นเวลา 10 ปีมาถึง แม้ว่าคุณจะเก็บความมั่งคั่งทางการเงินไว้แล้ว แต่เงินเก็บเหล่านั้นอาจไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในการรักษา ซึ่งอาจทำให้สถานะทางการเงินเปลี่ยนจากเดิมที่อาจจะไม่เป็นหนี้กลายมาเป็นหนี้ ได้
“หากเราปล่อยให้ตัวเองป่วยและรอให้รัฐดูแล เช่น ระบบ 30 บาทรักษาทุกโรค รัฐอาจไม่ได้มีความพร้อมที่จะดูแลเราได้ในตอนนั้น เนื่องจากโรงพยาบาลของรัฐมีภาระงานหนักมาก ตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลศิริราชดูแลคนไข้ถึง 3 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งมากกว่าโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ถึง 3 เท่า ดังนั้น การป้องกันปัญหาสุขภาพจึงสำคัญกว่าการรอรับการรักษาจากรัฐ ดังนั้น การลงทุนในสุขภาพจึงเท่ากับการสร้างเกราะป้องกันทางการเงินในระยะยาว”หมอฟ้า-พญ.วรรณวิพุธ กล่าว
“แพนิค ซึมเศร้า” ศัตรูชีวิตยืนยาว
“โลกออนไลน์” เป็นเสมือนภาพลวงตา เพราะเรื่องราว ภาพที่เห็นบนโซเชียลมีเดียมักเป็นเพียงด้านที่จัดแสดงอย่างดี ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่คนส่วนใหญ่มักจะเปรียบเทียบตนเองกับภาพที่เห็นจนส่งผลเสียต่อจิตใจ
หมอฟ้า-พญ.วรรณวิพุธ กล่าวต่อไปว่าโซเซียลมีเดียถ้าเปรียบเป็นเพื่อน ก็จะเป็นเพื่อนที่ไม่จริงใจ และ อัลกอริทึมของโซเชียลมีเดียจะป้อนข้อมูลที่เราอยากเห็น อยากได้ยิน ทำให้ตกอยู่ใน "ห้องเสียงสะท้อน" (echo chamber) ซึ่งจำกัดมุมมองและปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การเสพสื่อมากเกินไปโดยปราศจากการกรองมีส่วนทำให้เกิดภาวะตื่นตระหนก ซึมเศร้า และวิตกกังวลเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นศัตรูของชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพ
6 เสาหลักปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
หมอฟ้า-พญ.วรรณวิพุธ กล่าวด้วยว่าเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการลดความเสี่ยงทางการแพทย์และเพิ่มคุณภาพการดูแลผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะช่วยลดข้อผิดพลาดทางการแพทย์และการยกระดับคุณภาพของบุคลากร เช่น การเข้าถึงข้อมูลประสบการณ์ AI จะเข้ามาช่วยทำให้ คุณหมอที่มีประสบการณ์น้อย สามารถเข้าถึงฐานข้อมูล หรือประสบการณ์ของคุณหมอที่มีประสบการณ์มากได้ ,ลดภาระงานที่ไม่จำเป็น , ปัญหาการสื่อสารจากลายมือของแพทย์ที่อาจจะอ่านไม่ออก ,ลดภาระงานบันทึก และคืนเวลาให้แพทย์ได้ทำหน้าที่แพทย์อย่างแท้จริง
“เทคโนโลยีทำให้แพทย์เข้าใจระดับเซลล์ การดูแลเฉพาะบุคคลตามความเสี่ยง และการป้องกันล่วงหน้า การจะมีอายุยืนยาวอย่างยั่งยืน จะต้องมี 6 เสาหลักในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ได้แก่ 1.สุขภาพจิตและความสัมพันธ์: เป็นรากฐานสำคัญ 2.การกิน: เลือกกินอาหารที่ไม่แปรรูป 3.การออกกำลังกาย: เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ (เช่น ยืนทำงานสลับนั่ง)4.การหลีกเลี่ยงสารพิษ: เช่น ควันบุหรี่ แอลกอฮอล์ และ "คนที่เป็นพิษ" ต่อจิตใจ 5.การจัดการความเครียด: ฝึกการผ่อนคลายและสร้างสติ และ 6.สิ่งแวดล้อม: สภาพแวดล้อมที่ดีส่งเสริมสุขภาพที่ดี”หมอฟ้า-พญ.วรรณวิพุธ กล่าว
อยู่ในความสัมพันธ์ที่ดี รับผิดชอบตนเอง
พญ.พิศศรี เจ้าของเพจ Dr.Mom-หมอแม่ กล่าวว่าการมีความสัมพันธ์ที่ดีมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการสร้างความต้องการที่จะดูแลตนเอง ซึ่งนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะการที่ความสัมพันธ์ที่ดีเป็นแรงจูงใจให้บุคคลต้องการมีชีวิตอยู่ไปนานๆ เพื่อที่จะได้อยู่กับคนที่รัก และทุกคนต่างมีความรับผิดชอบต่อผู้อื่น แรงผลักดันที่สำคัญคือการอยากมีชีวิตยืนยาว โดยที่ไม่ทำให้คนที่เรารักเดือดร้อน ซึ่งแรงจูงใจนี้ทำให้เราต้องดำเนินการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ
“ความสัมพันธ์ที่ดีส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ เพราะการมีความสัมพันธ์ที่ดีจะทำให้เราลดความเครียดได้ และลดการเจ็บป่วยได้ ซึ่งเมื่อเราป่วยน้อยลง ก็จะอารมณ์ดีมากขึ้น ดังนั้น หากอยู่ในความสัมพันธ์เป็นพิษ ควรพยายามออกห่างจากความสัมพันธ์ที่บั่นทอนจิตใจ แต่ถ้าไม่สามารถออกหางมาได้ ควรฝึกการปล่อยวาง และให้อภัย หาวิธีปรับตัวตามสถานการณ์ และต้องรู้จักกล้าขอโทษผู้อื่น แสดงถึง "Growth Mindset" ที่สำคัญสุดท้ายทุกคนก็ต้องแก่ อยากให้ทุกคนต้องรับผิดชอบชีวิตของตนเอง ทั้งสุขภาพกายและใจ เพื่อ "คนคนนั้นในอนาคต" ของเราเอง”พญ.พิศศรี กล่าว
ชีวิต คือการวิ่งมาราธอน
การดูแลสุขภาพกายและใจเพื่อชีวิตที่ยืนยาวและสมดุล ไม่ได้เน้นเฉพาะสุขภาพด้านร่างกายเท่านั้น แต่การจัดการอารณ์และรู้เท่าทันตนเองมีความสำคัญอย่างมาก
“อมรเทพ” CEO of Sati App กล่าวว่า การแก้ปัญหาของในวันนี้ ไม่ควรจะไปเป็นปัญหาในอนาคต ฉะนั้น การดูแลตนเองให้ดีตั้งแต่วันนี้ จะช่วยให้เราไม่เป็นภาระต่อตนเองและผู้อื่นในอนาคต โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ เพราะชีวิต คือ การวิ่งมาราธอน
“คนเรามักจะแสดงอารมณ์ด้านลบหรือหงุดหงิดกับคนใกล้ชิด เช่น พ่อแม่ คนรัก ได้ง่ายกว่าคนนอก ซึ่งเวลาเป็นเรื่องของคนอื่น เรามักจะรู้สึกเห็นใจหรือสงสารผู้อื่นที่ถูกคนใกล้ชิดของเขาปฏิบัติต่อด้วยอารมณ์ การเพิ่มความยืดหยุ่นทางอารมณ์ (Emotional Resilience) เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้ เพียง Stop (หยุดตัวเองก่อนที่จะตอบโต้ด้วยอารมณ์), Think (คิดถึงสถานการณ์และสาเหตุ), Reflect (ลองมองจากมุมมองของอีกฝ่าย พยายามเข้าใจความรู้สึกของเขา) และ Act (ลงมือทำ หาทางแก้ปัญหา หรือให้กำลังใจร่วมกัน)”
อย่างไรก็ตาม โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้น ล้วนมาจาก "ความไม่พอเพียง หรือความไม่สมดุล” ทั้งการกิน การนอน การใช้อารมณ์ หากทุกคนดูแลตนเองอย่างพอเพียง ย่อมส่งผลดีต่อตัวคุณเอง คนรอบข้าง และโลกใบนี้ด้วย เพราะเมื่อทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างยืนยาวมากขึ้น หลายคนอาจจะมีชีวิตอยู่ถึง 100 ปี ลองถามตัวคุณเองว่าอยากเปลี่ยนในชีวิตอ่างไรบ้าง เพื่อให้ตัวเองมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ และควรเปลี่ยนตั้งแต่ตอนนี้







