ช็อก!'สุขภาพคนไทยแย่' ปัญหาจิตพุ่ง 'เด็กเกิดน้อย' สังคมป่วย

รายงานสุขภาพคนไทย ปี 68 พบคนไทย 13.4 ล้านคน เผชิญปัญหาสุขภาพจิต อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง “เด็กและผู้สูงอายุ”
KEY
POINTS
- “รายงานสุขภาพคนไทย ปี 68” พบคนไทย 13.4 ล้านคน เผชิญปัญหาสุขภาพจิต อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จเพิ่มขึ้น “เด็กและผู้สูงอายุ” เปราะบางสุด
- 10 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพปัญหาในไทย สุรา บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา กาสิโน ดิไอคอน อุบัติเหตุรถบัสโดยสาร น้ำท่วมภาคเหนือ ปลาหมอคางดำ การจัดการกากของเสีย-ขยะอันตราย และหนี้ครัวเรือน
- ‘เด็กเกิดน้อย’ จากปัญหาเศรษฐกิจ-สังคม คนรุ่นใหม่มองว่า “ลูก” เป็นภาระที่ไม่สามารถรับผิดชอบได้ และส่งผลต่อความสมดุลในชีวิต
วันนี้ ( 17 กรกฎาคม 2568) ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดตัว “รายงานสุขภาพคนไทย ปี 2568” นำเสนอสัญญาณเตือนสำคัญของสังคมไทย ผ่าน 10 ตัวชี้วัด เรื่อง สุขภาพจิตคนไทย เปิด 10 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ ปี 2568 พร้อมเรื่องพิเศษประจำฉบับ เรื่อง “เกิดน้อยกู่ไม่กลับ ต้องปรับและรับมืออย่างไร” มุ่งสะท้อนปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง และภาพรวมสุขภาวะคนไทย
สสส. จัดทำรายงานสุขภาพคนไทยต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2546 ตามแผนพัฒนาระบบ และกลไกสนับสนุนเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อคืนข้อมูลที่สำคัญด้านสุขภาวะต่อสังคมไทย และเปิดพื้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงวิชาการจากสถานการณ์สุขภาพในหลากหลายมิติ ไม่จำกัดเพียงแค่สุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจของคนไทย แต่สะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของระบบสุขภาพที่มีความสอดคล้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และนโยบายของภาครัฐ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ดูแลเบาหวานด้วยดิจิทัลโซลูชัน รู้ไว รักษาได้ ช่วยให้โรคสงบ
เปิดแล้ว! 'ศูนย์ซึมเศร้า'BMHH ชู 'ยาพ่นจมูก' นวัตกรรมลดซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย
ห่วง เด็ก-ผู้สูงอายุ ซึมเศร้าสูง
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่ารายงานสุขภาพคนไทย ปี 2568 มี 4 ส่วนหลักสำคัญ ได้แก่ 1.หมวดตัวชี้วัด "สุขภาพจิตคนไทย” นำเสนอข้อมูลสถานการณ์และปัจจัยที่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพจิตในไทย พบว่า คนไทยกว่า 13.4 ล้านคน เคยประสบปัญหาสุขภาพจิตหรือโรคจิตเวช และในจำนวนดังกล่าว มี 30,000 คนต่อปีที่พยายามฆ่าตัวตาย ซึ่ง 5,000 รายสามารถฆ่าตัวตายสำเร็จ โดยปัจจัยที่ทำให้ฆ่าตัวตายส่วนใหญ่มาจากโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอายุ 8-24 ปี รวมถึงผู้สูงอายุ สองกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มเปราะบางที่พร้อมแตกหักและเสียหาย
อย่างไรก็ตาม เด็กกำลังจะก้าวไปสู่ผู้ใหญ่ พยายามสร้างตัวตน แต่สังคมไทยพยายามตัดสินว่าเขาเป็นผู้ชนะ หรือผู้แพ้ ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง โรงเรียน ครู และสังคม เช่นเดียวกับกลุ่มผู้สูงอายุ นอกจากนั้น มีการนำเสนอตัวชี้วัดเรื่องนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต ดังนั้น เมื่อรู้ว่าปัญหาสุขภาพจิตเป็นอย่างไร ควรจะให้ความสำคัญ เพื่อให้เด็กไม่เป็นกลุ่มเสี่ยง และไปยุ่งเกี่ยวกับการติดเกม ยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า ที่ตอนนี้หลายๆ คนมองว่าเป็นความสุขที่พวกเขาหาได้จากภาวะสังคมกดดัน
“มีข้อมูลว่าคนไทยมีความสุขมากขึ้น มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นอาจเป็นจริงเฉพาะในกลุ่มคนที่ชนะในสังคม แต่ยังมีปัญหามากมายที่จู่โจมไปยังคนที่อ่อนแอ ถ้าสังคมไทยอยากเป็นสังคมที่ดี ต้องใช้การอยู่ร่วมกันแบบเอื้ออาทร ดูแลซึ่งกันและกัน การบริโภคนิยมอาจจะไม่ใช่เครื่องมือเดียวที่ทำให้สังคมมีความสุข อยากให้ทุกคนร่วมกันสามารถสร้างสังคมอุดมคติที่มีความสุข และร่วมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
10 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ
2.สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ นำประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคมไทยในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมสะท้อนข้อเสนอแนวทางพัฒนานโยบายด้านสุขภาพ ได้แก่
1.แก้กฎหมายสุรา : จับตาผลกระทบด้านสังคมและสุขภาพ
2.บุหรี่ไฟฟ้า ภัยคุกคามสุขภาพที่บุกเกมรุก
3.กัญชาทางการแพทย์กับความสับสนทางนโยบาย
4.ประเทศไทยกับวันที่กาสิโนถูกกฎหมาย: อาจได้ไม่คุ้มเสีย
5.ถอดบทเรียน “ดิไอคอน” เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ แชร์ลูกโซ่
6.อุบัติเหตุรถบัสโดยสาร : หลากหลายคำถามเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย
7.การจัดการน้ำท่วมในภาคเหนือ : ลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
8.ปลาหมอคางดำ กับการรับมือเอเลียนสปีชีส์ในไทย
9.ความซับซ้อนของมาตรการของรัฐในการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมและขยะอันตราย
10.ชีวิตติดหนี้: ปัญหาใหญ่ครัวเรือนไทย ซึ่งเราจะกลับมาหาวิธีให้ภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาคสังคม จะช่วยกันโดยเอาความสุขของประชาชนเป็นตัวตั้งได้อย่างไร
อย่าฝากทุกอย่างไว้กับรัฐ สังคมต้องร่วมกัน
3.เรื่องพิเศษประจำฉบับ เรื่อง “เกิดน้อยกู่ไม่กลับ ต้องปรับและรับมืออย่างไร” นำเสนอปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง
4.ผลงานดีๆ เพื่อสุขภาพคนไทย นำเสนอความสำเร็จทางการแพทย์และสาธารณสุข สสส. มุ่งหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2568 ไปใช้ประโยชน์ ทั้งการพัฒนากำหนดนโยบาย ติดตามหรือขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพที่สอดคล้องกับสถานการณ์สุขภาพของคนไทย เป็นจุดเริ่มต้นของ ‘การสื่อสารทางสังคม’ ที่นำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับประชาชน ผู้สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดรายงานฉบับสมบูรณ์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaihealthreport.com
“สุขภาพจิต สถานการณ์เด่น และอัตราการเกิดน้อย ล้วนเป็นความเหลื่อมล้ำของประเทศที่เกิดขึ้นในไทย ในรายงานสุขภาพ มีการทำให้คุณภาพชีวิตของเด็กดี น่าจะมียุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กอย่างจริงจัง เกิดน้อยไม่เป็นไรแต่ขอให้มีคุณภาพ เพราะการเกิดน้อยอาจจะทำให้ไม่กดดันต่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของผู้คนอาจจะดีขึ้น สิ่งที่เป็นคำถามที่อยากฝากไว้ คือ จะทำอย่างไรให้พัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กไทยในระยะยาว และอย่าฝากทุกอย่างไว้กับภาครัฐ อยากเห็นสังคมดี ทุกคนต้องมาร่วมกัน” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
คนไทยป่วยจิต ฆ่าตัวตายพุ่ง
รศ.ดร.เฉลิมพล แจ่มจันทร์ หัวหน้าโครงการจัดทำรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2568 กล่าวว่า ตัวชี้วัด ปี 2568 นำเสนอสถิติในประเด็น “สุขภาพจิตคนไทย” ทั้งหมด 10 ตัวชี้วัด ที่สะท้อนสถานการณ์ แนวโน้ม และปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของคนไทยในมิติต่างๆ ทั้งในระดับบุคคล ครัวเรือน ชุมชน และสังคม โดยข้อมูลด้านสุขภาพจิต พบคนไทยมีแนวโน้มฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในกลุ่มเยาวชนอายุ 15-29 ปี ที่ต้องเผชิญภาวะเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า และมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสูง มีสาเหตุมาจากการเรียน สื่อสังคมออนไลน์ (Fear of Missing Out : FOMO) ความรุนแรงในครอบครัว และความคาดหวังจากสังคม
ในมิติสุขภาพจิตเชิงบวก พบกลุ่มวัยก่อนสูงอายุ 45–59 ปี มีระดับความสุขต่ำที่สุด สะท้อนถึงความเปราะบางทางอารมณ์ในช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต ในด้านความรู้ พบคนไทย 1 ใน 3 มีความรอบรู้สุขภาพจิตในระดับสูง แต่ยังมีอคติและความเข้าใจผิด เช่น การมองว่าการฆ่าตัวตายคือความอ่อนแอ
188ประเทศ ยิ่งรวย ยิ่งมีลูกน้อย
รศ.ดร.ภูเบศร์ สมุทรจักร สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เรื่องพิเศษฉบับนี้ คือ เรื่อง “เกิดน้อยกู่ไม่กลับ” อัตราการเกิดของคนไทยเดินทางเข้าสู่ภาวะต่ำสุด โดยอัตราเจริญพันธุ์ในปี 2566 อยู่ที่ราว 1.1 น้อยที่สุดเป็นอันดับ2 ในเอเชียอาคเนย์ รองจากสิงคโปร์ (0.9) และอันดับ 4 ของโลก รองจากเกาหลีใต้ เปอร์โตริโก้ อันดอร์รา และไต้หวัน ขณะที่สังคมสูงวัยในไทยจะมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
“188 ประเทศทั่วโลก มีแนวโน้ม ยิ่งรวย ยิ่งมีลูกน้อย โดยสาเหตุที่คนมีลูกน้อยจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น บทบาททางสังคมของผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงไป ค่าครองชีพที่สูงขึ้น การให้คุณค่ากับความสมดุลในชีวิต ความต้องการอิสรภาพของคนรุ่นใหม่ที่มองว่า “ลูก” อาจเป็นภาระที่ไม่สามารถรับผิดชอบได้ และแม้ในต่างประเทศจะมีมาตรการกระตุ้นการเกิดที่หลากหลาย ตั้งแต่การสนับสนุนสถานเลี้ยงเด็ก การขยายเวลาลาคลอด การให้เงินอุดหนุน และการพัฒนาบริการสาธารณสุข แต่ก็ยังไม่สามารถเพิ่มความต้องการมีลูกได้”รศ.ดร.ภูเบศร์ กล่าว
นโยบายหนุนเกิด ไร้ประสิทธิผล
ทั้งนี้ นโยบายและประสิทธิผล การส่งเสริมการเกิดในประเทศต่างๆ ดำเนินการมาสามารถจัดเป็น 4 นโยบายหลักๆ ได้แก่
1.นโยบายเกี่ยวกับสถานเลี้ยงเด็ก (childeare) ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนด้วยการลงทุนของภาครัฐ หรือภาคเอกชน รวมทั้งการยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของสถานเลี้ยงเด็ก
2.นโยบายให้สิทธิการลาคลอดและลาเพื่อดูแลลูก (parental leave) ซึ่งแต่ก่อนให้เฉพาะ คุณแม่ แต่ภายหลังขยายให้กับคุณพ่อเพื่อช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระการเลี้ยงลูก
3.นโยบายการสนับสนุนทางการเงิน เช่น การสงเคราะห์ด้วยการให้เงินตรงๆ (cash transter)หรือการลดหย่อนภาษี (tax deduction) สำหรับครอบครัวที่มีบุตร
4.นโยบายการเข้าถึงบริการสุขภาพที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การคลอด และการรักษาพยาบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาภาวะการมีบุตรยาก
“สังคมต้องปรับตัวและเตรียมรับมือกับผลกระทบในระยะยาว ทั้งการมุ่งไปที่การดูแลคุณภาพชีวิตของเด็กที่เกิดมาแล้วให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ การสร้างระบบนิเวศที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการพัฒนาของเด็กและเยาวชน การดึงดูดผู้ย้ายถิ่นที่มีคุณภาพ การปรับนิยามผู้สูงอายุ การขยายอายุเกษียณ และการเตรียมรับมือกับสังคมสูงวัยระดับสุดยอด”รศ.ดร.ภูเบศร์ กล่าว







