ไทยปักธง 'ศูนย์กลางสุขภาพโลก' ขาย 'อนาคตที่สุขภาพดี' ให้คนทั่วโลก

ท่ามกลางกระแสความท้าทายด้านสุขภาพทั่วโลก ทั้งจากความเร่งรีบ ความเครียด และโรคเรื้อรัง ประเทศไทยกำลังถูกจับตาในฐานะ “จุดยุทธศาสตร์สำคัญ”
KEY
POINTS
- Wellness คือ ภารกิจร่วมกันของคนทั้งชาติ ประกาศให้โลกรู้ว่า “Welcome to Thailand…เมืองที่เยียวยาโลกได้อย่างแท้จริง นี่คือ พลัง Soft Power ใหม่ ที่จะพลิกโฉมประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก
- ผู้คนทั่วโลกต้องการ “ทางเลือกสุขภาพที่ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว ฟื้นตัวเร็ว” Medical Spa และ Scientific Nuad Thai 4.0 คือ “สะพาน” ที่เชื่อมภูมิปัญญาไทยเข้ากับเทคโนโลยีระดับโลก
- “Mindfulness City” เมืองที่ออกแบบให้คนรู้จัก “หยุด” อย่างมีคุณภาพ ท่ามกลางชีวิตเร่งรีบ มีพื้นที่สาธารณะเพื่อความสงบ ออกแบบเมืองลดฟุ้งซ่าน และสอนสมาธิในโรงเรียน
ท่ามกลางกระแสความท้าทายด้านสุขภาพทั่วโลก ทั้งจากความเร่งรีบ ความเครียด และโรคเรื้อรัง ประเทศไทยกำลังถูกจับตาในฐานะ “จุดยุทธศาสตร์สำคัญ” ที่มีศักยภาพสูงในการก้าวขึ้นเป็น “ศูนย์กลางสุขภาพโลก” (Global Health Center) และ “จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” (Wellness Destination of the World) นี่ไม่ใช่แค่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) เท่านั้น แต่คือการ “ขายชีวิตที่ดีขึ้น” หรือ “อนาคตที่สุขภาพดี” ให้กับผู้คนทั่วโลก
รายงานล่าสุดจาก Global Wellness Institute (GWI, 2024) ชี้ให้เห็นถึง โอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ระดับโลก โดยเฉพาะ ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ (Wellness Real Estate) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตสูงสุดในเศรษฐกิจสุขภาพโลก ด้วยอัตราเฉลี่ย 18.1% ต่อปี คิดเป็นมูลค่า กว่า 438.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 นี่คือ โอกาสทองที่ไทยสามารถคว้าไว้ได้ด้วยต้นทุนที่โดดเด่นระดับโลก
ประกอบด้วย ต้นทุนสุขภาพ : บุคลากรทางการแพทย์คุณภาพ การแพทย์เชิงป้องกัน นวดไทย และสมุนไพร วัตถุดิบธรรมชาติ : ผัก สมุนไพร พืชอินทรีย์ที่อุดมสมบูรณ์ Soft Power ที่จับต้องได้ : ความสุข ความสงบ รอยยิ้ม การไหว้ ใจอารีย์ และวิถีชีวิตใกล้ธรรมชาติ ทำเลทางภูมิศาสตร์ : เข้าถึงได้ง่ายจากเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
'นวดไทย' โอกาสทองตลาดโลก ทำงานได้ทุกที่ เกิดขึ้นได้จริงหรือแค่ฝัน?
4 ทุ่มตั้งสติ ทดสอบสมาธิ ‘TikTok’ เปิดฟีเจอร์ฮีลใจ แก้ปัญหาวัยรุ่นป่วยจิต
Wellness Complex : คือ “เมืองสุขภาพ”
วิสัยทัศน์การพลิกโฉมนี้ ได้รับการผลักดันผ่านแนวคิดหลัก 3 เสาหลัก ได้แก่ Wellness Complex, Medical Spa & Nuad Thai 4.0, และ Mindfulness City ซึ่งเชื่อมโยงพลัง Soft Power ไทยเข้ากับเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ระดับโลก..Wellness Complex: ไม่ใช่แค่โรงพยาบาลหรู แต่คือ “เมืองสุขภาพ” ตามแนวคิดของ นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ หรือ “หมอแอมป์” ประธานคณะผู้บริหาร BDMS Wellness Clinic และ BDMS Wellness Resort บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ที่เห็นว่า Wellness Complex คือ “เมืองต้นแบบแห่งชีวิตคุณภาพ” ที่มีองค์ประกอบครบวงจร
ประกอบด้วย โรงแรมสุขภาพ (Wellness Hotel) สำหรับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Retreat, Recovery, Rejuvenation) ที่พักถาวรเพื่อสุขภาพ (Wellness Residence) ออกแบบด้วยวัสดุปลอดสารพิษ เน้นอากาศสะอาด แสงธรรมชาติ ร้านอาหารสุขภาพ + สมุนไพรไทย ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ หลีกเลี่ยงสารเคมี/ยาปฏิชีวนะ/ฮอร์โมน/อาหารแปรรูป มี Longevity Food Station และผลิตภัณฑ์จากชุมชนเกษตรอินทรีย์โซนออกกำลังกาย & ปรับสมดุลร่างกาย รวมถึงการใช้ AI tech
การแพทย์เชิงป้องกัน (Scientific Wellness) เช่น ตรวจยีน พิมพ์เขียวสุขภาพ Sleep Test Hormone Lab Precision Medicine กายภาพบำบัด + นวดไทย + สปาไทย ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ผสมผสานแผนไทย และแผนปัจจุบัน Educational Wellness Hub ศูนย์เรียนรู้ด้านสุขภาพ การฝึกจิต โภชนาการ
ระบบเศรษฐกิจสุขภาพ สร้างรายได้จากการดูแลชีวิตผู้คน
พื้นที่สีเขียว (Natural Healing Space) ป่าในเมือง สวนสมุนไพร ที่นั่งสมาธิกลางธรรมชาติ อาคารที่ยั่งยืน (Sustainable & Smart Building) ใช้พลังงานสะอาด ออกแบบตามมาตรฐาน WELL/LEED/Fitwel
ซูเปอร์มาร์เก็ตสุขภาพ เน้น Whole Food ปลอดสาร Low Toxin ปรุงน้อย ร้านค้าสุขภาพ (Wellness Lifestyle Shop) รวมสินค้าเพื่อชีวิตยืนยาว เช่น วิตามิน อุปกรณ์ฟื้นฟูผู้สูงวัย ผลิตภัณฑ์นวดไทย ชุดตรวจสุขภาพตนเอง โซนเทคโนโลยีสุขภาพ & ปัญญาประดิษฐ์ เช่น Wearable Device Home Wellness Gadget AI Wellness App
Wellness Complex ถูกมองว่าเป็นระบบเศรษฐกิจสุขภาพที่สร้างรายได้จากการดูแลชีวิตผู้คน และเชื่อมโยงกับ Medical Tourism, Property Development, Green Economy, Innovation & AI in Health รวมถึงมีศักยภาพ สร้างงานกว่า 1 ล้านตำแหน่งใน 10 ปี รูปแบบที่สามารถดำเนินการได้ทันที เช่น Wellness Complex ในเมืองท่องเที่ยวหลัก, Wellness Smart City ใน EEC, และ Wellness + Senior Living Village
ยกระดับสปาไทย และนวดไทย สู่ Medical Spa & Nuad Thai 4.0
ในยุคที่ผู้คนทั่วโลกต้องการ “ทางเลือกสุขภาพที่ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว ฟื้นตัวเร็ว” Medical Spa และ Scientific Nuad Thai 4.0 คือ “สะพาน” ที่เชื่อมภูมิปัญญาไทยเข้ากับเทคโนโลยีระดับโลก รายงาน GWI ชี้ว่า Medical Spa ในไทยเติบโตสูงสุดถึง 22.2% ต่อปี ซึ่งสะท้อนความต้องการ “สปาเชิงการแพทย์” ที่เน้นการบำบัดทางวิทยาศาสตร์
โมเดลการยกระดับสู่ Spa ไทย 4.0 คือ การผสาน “ศาสตร์แพทย์” กับ “ศิลป์สปาไทย” โดยใช้ระบบวิเคราะห์สุขภาพเชิงป้องกัน วางแผนโปรแกรมรายบุคคล และวัดผลด้วย Biomarker หรือ Digital Wellness Platform4 นอกจากนี้ยัง เพิ่มมูลค่าด้วย “เทคโนโลยีทางการแพทย์” เช่น HBOT, Cryotherapy, Dry Floating Pod, PEMF, IV Drip/Vitamin Infusion, Hair & Skin Biotherapy, AI Wellness Checkup
สำหรับ Thai Massage 4.0 จะเป็น “แพทย์ร่วมสมัย” โดยผสานองค์ความรู้ Orthopedic, Neuro, Physical Therapy ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางการแพทย์ก่อนนวด มีโปรแกรมป้องกัน/ฟื้นฟูกล้ามเนื้อเฉพาะบุคคล และ เพิ่มหลักสูตร “หมอนวดเชิงการแพทย์” พร้อม Certification ระดับประเทศ
บริการดั้งเดิมได้รับการยกระดับเป็น Medical Wellness Service เช่น อบสมุนไพรชะลอวัย นวดไทยแบบ Ortho-Medical ใช้เครื่องมือกายภาพบำบัด สครับผิว/Facial Spa ด้วยเทคโนโลยี และสารอาหารระดับเซลล์ สระผม/นวดหัวด้วย Hair Growth Laser ผลลัพธ์ที่ได้เหนือกว่าแค่การผ่อนคลาย แต่ช่วยฟื้นฟูสมอง กล้ามเนื้อ ลำไส้ ภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลฮอร์โมน เพิ่มคุณภาพการนอน การไหลเวียน ลด Office Syndrome และภาวะเครียดเรื้อรัง การยกระดับนี้สร้างโอกาสใหม่ ทั้งการเพิ่มมูลค่านวดไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียม สร้างงาน สร้างแบรนด์ไทย และขยายการเรียนรู้ร่วมกับสถาบันการแพทย์ชั้นนำ
Mindfulness City:เมืองแห่งสติ เยียวยาจิตใจโลก
นอกเหนือจากสุขภาพกาย โลกกำลังเผชิญกับ โรคเครียดที่กลายเป็น Pandemic เงียบ หมอแอมป์ จึงเสนอแนวคิด “Mindfulness City” เมืองที่ออกแบบให้คนรู้จัก “หยุด” อย่างมีคุณภาพ ท่ามกลางชีวิตเร่งรีบ องค์ประกอบหลักของ Mindfulness City ได้แก่
- Public Space for Stillness: พื้นที่สาธารณะเพื่อความสงบ เช่น สวนไร้เสียงรบกวน โซนนั่งสมาธิริมธรรมชาติ ทางเดินจงกรม
- Mindful Urban Design: การออกแบบเมืองที่ลดความฟุ้งซ่าน เช่น ไร้โฆษณากระตุ้น ใช้สีสบายตา ลดมลภาวะ แปะป้ายเตือนให้มีสติ
- Wellness Curriculum: สอนสมาธิในโรงเรียน ฝึก Breathwork/Movement Break ในที่ทำงาน มี “ห้องสติ” Mindful Community Culture: ส่งเสริมกิจกรรมชุมชนแบบไม่แข่งขัน ผู้นำมีทักษะ Deep Listening
ประโยชน์ระดับประเทศจาก Mindfulness City คือ การลดภาวะ Burnout/Depression/Suicide เพิ่ม Productivity เสริมภูมิคุ้มกัน และสร้างความสงบในสังคม ประเทศไทยมี Soft Power ด้าน Mindfulness อย่างแท้จริง เพราะมีจิตวิญญาณความเข้าใจในทุกขณะ สามารถเป็น ต้นแบบ Global Mindfulness Destination ได้ทันที
ก้าวสู่ภารกิจระดับชาติ : สุขภาพไทย = พลังระดับโลก
แนวคิดทั้งหมดนี้สะท้อนถึง ความพร้อมของประเทศไทยที่จะเป็นผู้นำการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลก ดังที่ สมาคมสปาไทย ได้จัด Forum รวบรวมผู้นำในวงการ และเตรียมจัดงานใหญ่ระดับโลกในปี 2025 เช่น World Spa & Well-being Congress และ ASEAN Wellness Tourism Congress
\หมอแอมป์เน้นย้ำว่า Wellness ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่คือ ภารกิจร่วมกันของคนทั้งชาติ หากคนไทยสุขภาพดี ประเทศไทยก็จะกลายเป็น “หมู่บ้านสุขภาพของโลก” เราไม่จำเป็นต้องพยายามสร้าง Wellness Hub เพราะเรา “คือ” Wellness Hub อยู่แล้วในสายเลือด สิ่งสำคัญคือ ต้อง “กล้าพอ” ที่จะประกาศให้โลกรู้ว่า “Welcome to Thailand…เมืองที่เยียวยาโลกได้อย่างแท้จริง” นี่คือ พลัง Soft Power ใหม่ ที่จะพลิกโฉมประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลกอย่างแท้จริง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







