'เอส สไปน์'ขยายรักษาโรคเสื่อม ไตรมาส 3 ลุยขยายฐานต่างชาติ

'เอส สไปน์'ขยายรักษาโรคเสื่อม  ไตรมาส 3 ลุยขยายฐานต่างชาติ

ก้าวสู่ปีที่ 9 โรงพยาบาลเอส สไปน์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งแรกในประเทศไทย ได้ขยายโรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

KEY

POINTS

  • โรงพยาบาล เอส โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านระบบประสาท และรักษาความพิการ” (S Nerve Hospital) เข้าสู่ไตรมาส 3 สามารถรองรับผู้ป่วยได้มากกว่าเดิม 4 เท่า
  • เราไม่ต้องการเป็นเพียงแค่โรงพยาบาล แต่ต้องการเป็นแหล่งความรู้ที่ช่วยให้คนไทยดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องมารักษากับผมก็ได้ แต่ขอให้ได้นำความรู้จากเว็บไซต์ของเราไปใช้ เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพของตัวเอง
  • บริหารโรงพยาบาลภายใต้แนวคิด “Bring Back Quality Time” คืนเวลา คุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อเพิ่มเวลาแห่งความสุขให้มากขึ้น ไม่เพียงให้ผู้ป่วยหายจากโรค แต่ยังต้องการให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้อย่างเต็มที่ 

ก้าวสู่ปีที่ 9 โรงพยาบาลเอส สไปน์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งแรกในประเทศไทย ได้ขยายโรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการขยายบริการด้านการรักษาโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อมของอายุอีกด้วย พร้อมให้บริการภายในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยขึ้น ชูนวัตกรรมเฉพาะทางและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านกระดูกสันหลังและข้อ มุ่งสร้างผลการรักษาที่ยั่งยืน ขยายฐานต่างชาติ ขานรับนโยบายเทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ นำไทยสู่ Medical Hub เต็มรูปแบบ

“นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล” ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเอส สไปน์ (S Spine Hospital) เปิดเผยว่าเอส สไปน์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งแรกในเมืองไทย โดยได้ให้บริการผ่าตัดกระดูกสันหลังกว่า 10,000 รายด้วยคอนเซ็ปต์ Bring Back to Qualty Time นำคุณภาพชีวิตที่ดีคืนกลับมาให้กับผู้ที่มาใช้บริการ โดยปีนี้และมีการขยายบริการด้านการรักษาโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อมของอายุอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เด็ก GenZ เสพโซเชียลมีเดียหนัก สศช.เตือนเสี่ยง 'สุขภาพจิต' เสียหาย

เช็กด่วน! 10 โรคแปลกทางจิต ที่มีอยู่จริง

ผู้ป่วยกระดูกสันหลังโตต่อเนื่อง3เท่า

ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลมีอัตราการเติบโตของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง 3 เท่า โดยในช่วงแรกผู้ป่วยส่วนใหญ่มาด้วยปัญหากระดูกสันหลังส่วนล่าง แต่ปัจจุบันพบว่า มีผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเพิ่มขึ้น จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปดังนั้นเพื่อรองรับความต้องการของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น จึงมีแผนขยายการรักษาด้านกระดูกและข้อ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยยังคงมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย มาใช้ในการรักษา รวมถึงยกระดับมาตรฐานการให้บริการเพื่อตอบโจทย์การเป็น Medical Hub ของไทยอย่างเต็มรูปแบบ  

โดยจะมีการเปลี่ยนชื่อโรงพยาบาลเอส สไปน์ เดิมเป็น “โรงพยาบาล เอส โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านระบบประสาท และรักษาความพิการ” (S Nerve Hospital) รักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โดยจะเน้นการดูแลและรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาทางระบบประสาทที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทั้งโรคทางระบบประสาท สมอง และอุบัติเหตุ กายภาพบำบัดขั้นสูง รักษา ฟื้นฟูความพิการ คนไข้ที่เคยได้รับการผ่าตัดรักษาความพิการมาแล้ว หรือคนไข้ที่เป็นโรคสมอง ไขสันหลัง ระบบประสาท ที่ไม่เคยผ่าตัด แต่ต้องการการรักษาด้านกายภาพขั้นสูง เพื่อลดความพิการ และพัฒนาศูนย์เฉพาะทางใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ เพื่อเข้าสู่การเป็นกลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทาง (Group of Specialty Hospital)

'เอส สไปน์'ขยายรักษาโรคเสื่อม  ไตรมาส 3 ลุยขยายฐานต่างชาติ

เปิดรพ.เฉพาะทาง“กระดูกสันหลังและข้อ”

นอกจากนี้ จะเปิดโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อ (S Spine & Joint Hospital) เพื่อตอบสนองจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นและรองรับมาตรฐานการรักษาระดับสากล ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้คาดว่าจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้มากกว่าเดิม 4 เท่า พร้อมเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยและครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น การผ่าตัดส่องกล้อง Endoscope ครบวงจร ผ่าตัดส่องกล้อง Endoscopic Spine Surgery แบบครบวงจร ช่วยให้การรักษาโรคกระดูกสันหลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ ลดอาการปวดหลังผ่าตัด และทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ภายใน 1 วัน และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น

รวมทั้งผ่าตัดแบบ Minimally Invasive Surgery (MIS) เป็นเทคนิคที่ลดขนาดของแผลผ่าตัดให้เล็กลง ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และลดโอกาสเกิดพังผืดหลังการผ่าตัด ซึ่งเหมาะสำหรับการรักษา เช่น การเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพกเทียม ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น

ขยายฐานต่างชาติมุ่งเป้า Medical Hub

“นพ.ดิตถพงษ์" กล่าวด้วยว่าเพื่อให้สอดคล้องนโยบาย Medical Hub และเทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ จะมีการนำเข้าเครื่อง MRI แบบยืน (Standing MRI) ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยโรคได้แม่นยำขึ้น สามารถประเมินการทำงานของกระดูกสันหลังในท่าทางที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นท่ายืน นั่ง หรือ ก้มเงย สามารถตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกสันหลังที่อาจไม่แสดงอาการในขณะนอน และมีศูนย์กายภาพบำบัดรองรับการฟื้นฟูผู้ป่วยหลังการผ่าตัดกระดูกสันหลังและข้อ รวมถึงผู้ที่มีอาการปวดจากโรคกล้ามเนื้อและกระดูก โดยมีบริการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายหลังผ่าตัด หรือกายภาพบำบัด โดยใช้เทคนิค Shockwave Therapy, Hydrotherapy และ High-intensity Laser Therapy และการฝึกเดินด้วยระบบหุ่นยนต์ (Robotic Gait Training) สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการเดิน

อย่างไรก็ตาม ในการบริหาร “นพ.ดิตถพงษ์" ย้ำว่าใช้แนวคิด “Bring Back Quality Time” คืนเวลา คุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อเพิ่มเวลาแห่งความสุขให้มากขึ้น ไม่เพียงให้ผู้ป่วยหายจากโรค แต่ยังต้องการให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องการเป็นเพียงแค่โรงพยาบาล แต่ต้องการเป็นแหล่งความรู้ที่ช่วยให้คนไทยดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง เป็นศูนย์กลางการรักษาโรคกระดูกสันหลัง ข้อ และรักษาความพิการในภูมิภาคเอเชีย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีที่สุด และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มคุณค่า     

“เรามี S Academy – ศูนย์วิชาการเฉพาะทาง เพื่อวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านระบบประสาท กระดูกสันหลัง และข้อ รวมถึงจัด Master Class เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชน เราไม่ต้องการเป็นเพียงแค่โรงพยาบาล แต่ต้องการเป็นแหล่งความรู้ที่ช่วยให้คนไทยดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องมารักษากับผมก็ได้ แต่ขอให้ได้นำความรู้จากเว็บไซต์ของเราไปใช้ เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพของตัวเอง”