‘ยาดมสมุนไพร’ Soft Power ด้านสุขภาพ เอเชีย-ยุโรปตลาดขยายต่อเนื่อง

นพ.พีรชา คูเกษมกิจ ผู้ช่วยอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า  ยาดมสมุนไพรไทย นับเป็นสินค้าที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 4,500 ล้านบาท และถูกยกให้เป็นหนึ่งใน Soft Power ด้านสุขภาพและวัฒนธรรมของประเทศไทย

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ภาคเอกชนยังสามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ทั้งเอเชียและยุโรป ซึ่งมีกระแสความสนใจในผลิตภัณฑ์สุขภาพเชิงป้องกัน และสินค้าจากธรรมชาติ สรรพคุณยาดม บรรเทาอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ คัดจมูก และช่วยบำรุงธาตุลม

“กระแสข่าวที่เกิดขึ้นว่าพบการปนเปื้อนนั้น เป็นเหตุการณ์เฉพาะบางล็อตการผลิตเท่านั้น ไม่ได้สะท้อนถึงภาพรวมของผลิตภัณฑ์ยาดมสมุนไพรทั้งหมด  ไม่ควรเหมารวมว่ายาดมสมุนไพรทุกชนิดจะไม่ปลอดภัย หรือมีการปนเปื้อน ”นพ.พีรชากล่าว 

นพ.พีรชา กล่าวอีกว่า  ยาดมสมุนไพรที่ได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ยังคงมีความปลอดภัย ผู้บริโภคสามารถใช้ได้อย่างมั่นใจ เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากชัดเจน โดยต้องระบุ ชื่อผู้ผลิต แหล่งผลิต และวันหมดอายุ พร้อมทั้งเก็บรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อคงคุณภาพและความปลอดภัย

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการผลิตยาดมสมุนไพรทุกราย ต้องให้ความสำคัญสูงสุดต่อ มาตรฐานสากลในการผลิต (Good Manufacturing Practice - GMP) โดยเน้นย้ำถึงกระบวนการควบคุมคุณภาพและความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด ภายใต้กรอบของพ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 การผลิตที่ดีควรมีระบบควบคุมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

เช่น การล้างวัตถุดิบอย่างถูกวิธี การอบสมุนไพรด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม อาจพิจารณาใช้เทคโนโลยี เช่น การฉายรังสี เพื่อลดปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ มีการกำหนดและควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ และ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ในด้านสำคัญ ได้แก่ ปริมาณโลหะหนัก, ปริมาณเชื้อจุลินทรีย์, และยากำจัดศัตรูพืชเพื่อรับรองความปลอดภัยตามหลักวิชาการ ผู้ประกอบการจึงควรใส่ใจและทำตามกระบวนการผลิตมาตรฐานอย่างเคร่งครัด

อนึ่ง จุลสารออนไลน์ยาแผนไทยและสมุนไพร กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยฯ ระบุว่า ยาดมที่จำหน่ายตามท้องตลาดหรือมีการแจกตามงานมงคลต่างๆ บางชนิดมีกลิ่นหอมชื่นใจ บางชนิดลดอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย สูตรและวิธีการทำที่แตกต่างกันทำให้มีสูตรยาดมมากมายหลายกลิ่น

ปัจจุบันยาดมมีการใช้ 2 แบบ คือ

1.แบบน้ำ มีส่วนผสมของกลุ่มน้ำมันหอมระเหย เช่น น้ำมันลาเวนเดอร์ น้ำมันส้ม เปเปอร์มิ้น เมนทอล พิมเสน การบูร

2.แบบมีเนื้อสมุนไพร ประกอบด้วยสมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะตัว มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการต่างๆ เช่น

• กระวาน กลิ่นหอมฉุน ช่วยให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า
• กานพลู กลิ่นหอมผ่อนคลาย
• พริกไทยดำ กลิ่นอบอุ่นลดอาการหวัดและไอ
• ลูกจันทน์โทนอบอุ่น เผ็ด และหวาน มีสรรพคุณ ความรู้สึกสดชื่นและเพิ่มพลังงาน
• ดอกจันทน์ กลิ่นหอมระงับความกังวล
• เปลือกสมุลมะแว้ง กลิ่นหอมฉุน แก้ลมวิงเวียน
• เปลือกชะลูด มีกลิ่นสดชื่น อบอุ่น บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก