'10 รพ.สธ.' วิกฤติการเงินระดับ 7 รมว.สธ.สั่งนักบัญชีเอกชนตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข  นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีสถานะการเงินโรงพยาบาล(รพ.)สังกัด สธ.ว่า รพ.ที่ขาดทุนอาจจะเป็น รพ.ที่มีประชากรค่อนข้างน้อย จึงได้รับการจัดสรรงบประมาณอาจจะไม่เพียงพอกับต้นทุนที่รพ.มีอยู่  อีกส่วนเป็นเรื่องของงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวที่อาจจะไม่เพียงพอ  จำเป็นต้องเข้าไปดูแลในรายละเอียด ซึ่งได้หารือกับ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)มีหลายแนวทางที่จะดำเนินการแก้ปัญหา เช่น รพ.ขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียงอาจจะจัดสรรลงไปให้ในรพ.ที่มีประชากรน้อยเป็นไปได้หรือไม่

“ยืนยันว่าโครงสร้างโดยภาพรวมของการให้บริการมีความแข็งแรงดี มีเพียงบาง รพ.ที่มีประชากรน้อยหรือมีโรคที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ จะทำให้มีการขาดทุนเป็นครั้งคราวหรือต่อเนื่องได้  แต่ด้วยภาพรวมของทั้งประเทศ หรือเขตภูมิภาค ระบบยังมีความแข็งแรง มั่นคง” นายพัฒนา กล่าว 

สำหรับกรณีปัญหา สปสช.ค้างจ่าย รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งประกาศหยุดให้บริการผู้ป่วยนอกในระบบบัตรทอง ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.เป็นต้นไป จนกว่า สปสช.จะจ่ายหนี้ให้นั้น นายพัฒนา กล่าวว่า  ในฐานะประธาน บอร์ด สปสช. ได้สั่งการให้ สปสช.ดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งตนก็จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเราต้องดูแลคนไข้บัตรทองให้ได้เต็มที่มากที่สุด ส่วนกรณีการแก้ปัญหาการบริหารจัดการบัตรทองในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีรูปแบบที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่นๆนั้น ก็จะได้หารือกับ สปสช.เพื่อดูแลพื้นที่นี้เป็นพิเศษอีกที

นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า  รพ.ที่ขาดทุนมาจาก 3 เรื่องหลัก  คือ 

1.รพ.ที่มีประชากรเบาบาง ไม่คุ้มต้นทุน รพ. มีการแก้ไขช่วยเหลืออยู่แล้ว มีการกันเงินกลางไปช่วย รพ.เหล่านี้

2. การให้บริการแล้ว เงินที่จ่ายมาสำหรับค่าบริการ ที่ควรจะอยู่ที่ 10,000 -12,000  บาท แต่มีการจ่ายให้ รพ.อยู่ที่ราว 8,000 บาท และหากลดลงไปอยู่ที่ 7,000 บาทก็จะยิ่งมีปัญหา จึงได้มีการหารือร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ว่าควรจะอยู่ที่ 10,000 บาท ต่อAdjRW  ซึ่งกำลังจะมีการลงในรายละเอียดว่ามีการให้บริการเพิ่มขึ้นจริงด้วยโรคต่างๆ  เพื่อนำเสนอต่อไป

และ 3.การบริหารงานของ รพ.แต่ละแห่ง ซึ่งพบว่าภาพรวม รพ.สธ.ต้นทุนบุคลากรสูงราว 50 % ของรายจ่าย ขณะเดียวกัน ผู้บริหารบางท่านจะใช้งบประมาณไปในเรื่องที่ไม่ได้สร้างประสิทธิผล และเป็นเหตุให้เกิดการขาดทุน จึงต้องพิจารณาในทุกเรื่อง

“ในกรณี รพ.ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงินระดับ 7 ในไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 2568 จำนวน 10 แห่งนั้นมีบางแห่งที่อาจจะเกิดปัญหาซ้ำๆ อยู่ ซึ่งรมว.ได้สั่งการให้มีนักบัญชีจากบริษัทเอกชนเข้าไปตรวจสอบบัญชี  ซึ่งจะดูถึงการบริหาร เพราะหลายท่านที่เป็นผอ.อาจจะไม่ได้มีหลักการบริหาร อาจจะบริหารแบบไม่เข้าใจ เมื่อนักบัญชีวิเคราะห์ว่าการลงทุนถูกต้องหรือไม่ ปัญหาเรื่อง fixed cost สูงเกินไปหรือไม่  เมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จก็นำมาเสนอ และชี้แจงให้กับผู้บริหาร รพ.เข้าใจต่อไป ”นพ.สมฤกษ์ กล่าว
 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์