ญี่ปุ่นว้าว 'นวดไทย' สะท้อนผ่านไทยแลนด์ พาวิลเลียน เอ็กซ์โป 2025

“ต้องไปนวด” หนึ่งบทสะท้อนความสำเร็จไทยแลนด์ พาวิลเลียน เอ็กซ์โป 2025 โอซากา ขณะที่ญี่ปุ่นนิยมนวดไทยมากขึ้น แต่ยังติดขัดเรื่องนำเข้าหมอนวดอาชีพจากไทย ทำให้ขาดแคลน
KEY
POINTS
- “ต้องไปนวดไทย” เสียงบอกต่อจน ยอดลงทะเบียนล่วงหน้าเต็มทุกรอบทุกวัน หนึ่งบทสะท้อนความสำเร็จไทยแลนด์ พาวิลเลียน เอ็กซ์โป 2025 โอซากา
- นวดไทย ญี่ปุ่นนิยมใช้บริการมากขึ้น ช่วยรู้สึกดี ช่วยผ่อนคลาย ร้านเปิดทั้งของคนญี่ปุ่น คนไทย สร้างรายได้สูง แต่ยังขาดแคลนหมอนวดไทยจากเมืองไทย
- นวดไทย การเปิดร้านในญี่ปุ่นต้องขออนุญาตได้เฉพาะนวดผ่อนคลายเท่านั้น คนไทยเปิดได้ แต่ไม่ง่าย ยังมีข้อจำกัดเรื่องวีซ่าและภาษา ขอรัฐเจรจาระหว่างประเทศเปิดวีซ่านำเข้าหมอนวดอาชีพจากไทย
การจัดแสดงไทยแลนด์ พาวิลเลียน ในมหกรรมการจัดงานแสดงนิทรรศการระดับนานาชาติ เอ็กซ์โป 2025 โอซากา( Expo 2025 Osaka, Kansai, Japan) ที่เกาะยูเมะชิมะ เมืองโอซากา ภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 13 เม.ย.- 13 ต.ค. 2568 ภายใต้แนวคิด "Designing Future Society for Our Lives การออกแบบสังคมแห่งอนาคตเพื่อชีวิตที่ดี"
เป้าหมายสำคัญของประเทศไทย คือ การสะท้อนอให้ทั่วโลกเห็นถึงศักยภาพและองค์ประกอบของไทยในการเป็นหมุดหมายเรื่องการดูแลสุขภาพและบริการทางการแพทย์(Wellness&Medical Hub) เนื้อหาที่นำเสนอจาก 1-1,000,000 ประกอบด้วย สถาปัตยกรรมไทยทรงจอมแห ภูมิประเทศ ทรัพยากร อาหารเพื่อสุขภาพ ประเพณีวัฒนธรรม ศักยภาพสาธารณสุขไทย สถานบริการทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และวิถีสุขภาพดีอย่างไทย เช่น การนวดไทย เป็นต้น
ต้องไปนวดไทย ที่ไทยแลนด์ พาวิลเลียน
หนึ่งในส่วนจัดแสดงที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวต่างชาติ คือ การให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัส “รสนิ้วมือคนไทย”จากการ “นวดไทย” ซึ่งเดิมจะให้มีการวอล์กอิน(walk in) แต่จากการสื่อสารผ่านสื่อญี่ปุ่นและชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาสัมผัสแล้ว สร้างการรับรู้ว่า “ต้องไปนวดที่ไทยแลนด์ พาวิลเลียน”
การบริหารจัดการจึงปรับเปลี่ยนเป็นการให้ “ลงทะเบียนล่วงหน้า” รับการนวดคนละ 15 นาที วันละ 3 รอบ รอบละ 50 คน ภาพรวมให้บริการได้วันละ 150 คน เต็มทุกรอบทุกวัน ก่อนเริ่มนวดจะมีการซักประวัติและวัดความดัน
มายูมิ อิชิซึกะ ชาวญี่ปุ่นที่เข้าเยี่ยมชมไทยแลนด์ พาวิลเลียน บอกว่า เธอเดินอยู่บนแกรนด์ริงรอบงานแล้วเห็นหลังคาเรือนไทยสีทองโค้งสวยงาม บวกกับส่วนตัวเคยไปเที่ยวประเทศไทยมาแล้ว 4 ครั้งชื่นชอบอาหาร วัด รวมถึง นวดไทยที่ได้ทดลองนวดแล้วชอบมาก ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายตัวมาก
เช่นเดียวกับ ฟุกุดะ ยูโกะ ที่เคยเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยแล้วสนุก ประทับใจมาก จึงเข้ามาเยี่ยมชมไทยแลนด์ พาวิลเลียน ทำให้เห็นถึงนวัตกรรมต่างๆที่ประเทศไทยมีการพัฒนาไปอย่างมาก รู้สึกว่าจะกลายเป็นประเทศที่ใหม่ขึ้นรื่อยๆ ส่วนของนวดไทยสนใจอยากทดลองนวดอย่างมาก แต่รอบที่เข้าชมมีคนจองเต็มแล้ว แต่จะหาโอกาสลองสัมผัส
ญี่ปุ่นนิยมนวดไทย รายได้สูง
สำหรับ“หมอนวดอาชีพ”ที่เข้ามาให้บริการในไทยแลนด์ พาวิลเลียน เป็นจิตอาสาที่ขอเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดภูมิปัญญาชาติ หมุนเวียนเปลี่ยนกันทุกสัปดาห์ ซึ่งระหว่างวันที่ 12-16 พ.ค.2568 เป็นหมอนวดไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
หนึ่งในนั้น คือ “ปนัดดา สินสวัสดิ์” 26 ปี ดีกรีแชมป์โลกนวดไทยเพื่อสุขภาพปี 2024 จ.กระบี่ ประเทศไทย และทำงานเป็น”หมอนวดไทยอาชีพ”ที่ญี่ปุ่นมาเข้าปีที่ 8 ปี ปัจจุบันเปิดร้านนวดไทยเป็นของตัวเองชื่อร้าน “ฝันดี” อยู่ที่เมืองคานากาว่า เฉพาะอำเภอที่ปนัดดาอาศัยอยู่มีร้านนวดมากกว่า 100 ร้าน
ปนัดดา เริ่มต้นเส้นทางการเป็นหมอนวดไทยเพื่อสุขภาพ ตั้งแต่อายุ 19 ปี หลังเดินทางมาเรียนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีคุณอาเปิดร้านนวดไทยและมีคนรู้จักทำงานนวดได้แนะนำให้ทำเป็นงานพาร์ทไทม์ จากการเรียนรู้พื้นฐานผ่านหมอนวดไทยในร้าน ก่อนจะลงเรียนเรื่องนวดไทยในหลายศาสตร์ที่มีครูไทยหลายคนเปิดสอนในญี่ปุ่น
“ตอนนี้นวดไทยเพื่อสุขภาพเป็นอาชีพหลัก เปิดร้านเอง 3 ห้อง มีพนักงานนวดวันละ 2- 3 คน ส่วนตัวถือเป็นงานที่รายได้สูงมาก โดยคิดอัตราค่าบริการ 1 ชั่วโมงราว 6,000 เยน เกือบ 2,000 บาท”ปนัดดากล่าว
นวดไทย ญี่ปุ่น “ว้าว”
เปิดร้านตั้งแต่ 11.00-23.00 น. ลิมิตให้บริการได้เพียง 5 คนเท่านั้น บางคนนวดครั้งละ 2-3 ชั่วโมงและต้องจองล่วงหน้าก่อนร่วมเดือน ลูกค้าญี่ปุ่นมีตั้งแต่อายุ 20-80 ปี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นวัยกลางคน วัยทำงาน เพราะจะมีปัญหาเรื่องออฟฟิสซินโดรม
สำหรับกความนิยมของนวดไทย คนญี่ปุ่นให้ความสนใจอย่างมาก ปนัดดา บอกว่า จากเสียงสะท้อนของลูกค้าที่ร้าน จะเกิด “ความว้าว”และประทับใจมาก เพราะนวดไทยแล้วรู้สึกดี ผ่อนคลาย ช่วยคลายเครียด รู้สึกสบาย ซึ่งการให้บริการนวดไทยที่นี่ไม่ได้เป็นการรักษาโรค แต่จะเน้นเพื่อสุขภาพ รีแล็กซ์(Relaxing) เกิดการไหลเวียนของเลือด
กู้ภาพลักษณ์ นวดไทย ไม่ใช่สีเทา
ทั้งนี้ จากนโนบายของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการยกระดับหมดนวดอาชีพเป็นหมอนวดวิชาชีพเชี่ยวชาญเฉพาะใน 7 สาขา ปนัดดา บอกว่า จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆให้ได้ไกลมากที่สุด จึงแสวงหาคอร์สการอบรมเพิ่มเติมความรู้อยู่เสมอ และมีแผนขยายสาขาร้านนวดไทยในอนาคตด้วย ต้องการที่จะสืบสานภูมิปัญญาไทยให้ทั่วโลกรับรู้ว่า “นวดไทยไม่ใช่สีเทา”
“ตอนเริ่มนวด ไม่กล้าบอกใครว่าทำงานนวด เพราะสมัยนั้นการรับรู้เรื่องอาชีพนวดจะเป็นคนที่ขายบริการทางเพศ จนเมื่อปีนวดไทยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ช่วยแก้ภาพลักษณ์ให้คนเป็นหมอนวดได้ว่าเป็นอาชีพที่สุจริต จึงกล้าบอกใครๆว่านวดไทยเพื่อให้คนรู้สึกผ่นคลาย”ปนัดดากล่าว
ข้อจำกัด อาชีพนวดไทยในญี่ปุ่น
เรื่องการเปิดร้านนวดไทยในญี่ปุ่น ที่มีเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งร้านของคนไทยที่อาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่น และร้านคนญี่ปุ่นที่เดินทางไปเรียนนวดถึงประเทศไทยแล้วกลับมาเปิดร้าน อย่างไรก็ตาม ก่อนการเปิดร้านจะต้องมีการขออนุญาต โดยการนวดเพื่อรักษาจะไม่สามารถทได้ จะให้มีการนวดเพื่อผ่อนคลาย(Relax)เท่านั้น และคนไทยสามารถเปิดได้แต่ต้องดูขีดจำกัดว่ามีวีซ่าอะไร ส่วนตัวปนัดดาเปิดร้านในนามของสามีที่เป็นชาวญี่ปุ่น
กฎหมายของญี่ปุ่นในปัจจุบัน ยังไม่สามารถนำเข้าหมอนวดจากไทยมาทำงานในญี่ปุ่นได้ หมอนวดคนไทยในญี่ปุ่นจึงเป็นคนไทยที่มีวีซ่าอาศัยอยู่ที่นี่อยู่แล้วเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีวีซ่าทำงานหมอนวด หากจะใช้วีซ่าทำงานแล้วให้เจ้าของร้านรับรองจะเป็นเรื่องที่ยากมาก ด้วยข้อจำกัดต้องสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ เพราะคนญี่ปุ่นไม่ใช้ภาษาอังกฤษเลย
“การนวดไทยเป็นโอกาสของคนไทยในญี่ปุ่นบูมมาก แม้ว่าจะมีคนญี่ปุ่นเปิดร้านนวดมากก็จริง แต่คนรับบริการก็ยังมองหานวดไทยจากคนไทยแท้ๆ ซึ่งจะมีความแตกต่างในความหนักเบาของรสมือที่สัมผัส ปัจจุบันที่นี่หมอนวดไทยคนไทยยังขาดแคลน จึงอยากให้รัฐบาลสนับสนุนด้วยการเจรจาระหว่างประเทศไทย ให้สามารถใช้วีซ่าทำงารเพื่อเข้ามาทำงานหมอนวดไทยที่ญี่ปุ่นได้”ปนัดดากล่าว
แผนยกระดับหมอนวดไทย
ทั้งนี้ นวดไทย เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ที่ต้องการยกระดับให้ไปสู่สากล วาดหวังตัวเลขมูลค่าเศษฐกิจสุขภาพจาก “นวดไทย” อย่างน้อยปีละมากกว่า 1 แสนล้านบาท
โฆษิต สุวินิจจิต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการยกระดับนวดไทยว่า สธ.) ปัจจุบันการจดทะเบียนขึ้นธุรกิจบริการสุขภาพทั้งเวลเนส(wellness) สปา และต่างๆเพิ่มขึ้นจำนวนมาก มีความสนใจไประดับต่างประเทศ แต่จากการประชุมของคณะกรรมการส่งเสริมและยกระดับการนวดไทย พบว่า ในประเทศไทยยังขาดหมอนวดไทยสุขภาพราว 50,000 คน
สิ่งที่จะต้องเริ่มดำเนินการ คือ การปรับภาพลักษณ์นวดไทย แยกให้ชัดเจนระหว่าง “นวดไทยน้ำดี” และนวดไทยที่แฝงสีเทา
จากนี้ขอความร่วมมือหากเป็นนวดไทยที่เป็นการนวดเพื่อสุขภาพหรือนวดรักษา ให้ใช้ภาษาอังกฤษทับศัพท์ว่า Nuad Thai ตามคำยูเนสโกที่ขึ้นทะเบียน ให้เป็นเรื่องที่ทั่วโลกคุ้นเหมือนกับมวยไทย โดยหากจะอธิบายนวดไทยให้ลงลึกก็ต้องระบุว่า Thai Traditional Medicine Massage ไม่ใช่ Thai Massageเฉยๆ เพื่อทำให้นับจากนี้นวดไทยต้องดังระดับโลก
หมอนวด 5 ระดับ – มีดาว-อัปราคา
สำหรับหมอนวดอาชีพ ดำเนินการเรื่องมาตรฐานจะมีการแยกหมอนวดที่ผ่านการอบรมจำนวนชั่วโมงที่ต่างกันเป็นDtam 1 ฝึกอบรมหลักสูตร 60 ชั่วโมงDtam 2 ฝึกอบรมหลักสูตร 150 ชั่วโมง Dtam 3 ฝึกอบรมหลักสูตร 300 ชั่วโมงDtam 4 ฝึกอบรมหลักสูตร 500-800 ชั่วโมง และ Dtam 5 จำนวนฝึกอบรมหลักสูตรก็มากขึ้นอีก ซึ่งการผ่านอบรมแต่ละระดับก็จะได้รับค่าตอบแทนในการให้บริการที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นการจูงใจ ส่งเสริมการอัปสกิล รีสกิล นิวสกิลให้กับหมอนวด
อนาคตจะมีการกำหนดดาวให้กับหมอนวด ด้วยเหมือนมิชลินสตาร์ในวงการอาหาร ที่มีมิชลินสตาร์ 1 ,2 หรือ 3 ดาว เป็นต้น ก็จะทำให้หมอนวดอยากพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกครั้งที่พัฒนาสามารถเพิ่มค่าตอบแทนได้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้รับบริการที่มีกำลังซื้อก็สามารถเลือกรับบริการได้
หมดนวดเฉพาะทาง 7 สาขา
ส่วนกรณีหมอนวดวิชาชีพที่ยังขาดและส่งเสริมอีก 20,000 คนให้เป็นหมอนวดเฉพาะทาง 7 อาการ โดยกำหนดค่าตอบแทนให้หมออยู่ที่ 800 บาทต่อเคสรักษา ประกอบด้วย กลุ่มปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Office syndrome) โรคหัวไหล่ติด โรคนิ้วล็อก ภาวะกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (ปวดสลักเพชร) หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อัมพฤกษ์ อัมพาต และกลุ่มระบบสืบพันธุ์
เปิดให้ร้านนวดยืมเงินพัฒนาหมอนวดไทย
ในการอบรมเป็นหมอนวด โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะพิจารณาให้ร้านนวดยืมเงินจากกองทุนภูมิปัญญาไทย เพื่อนำไปส่งคนเข้าอบรมเป็นหมอนวด เป็นการพัฒนาอาชีพ ไม่ต้องกู้ ไม่มีดอกเบี้ย แต่ต้องคืนเงินหลังหมอนวดได้เข้าทำงานแล้ว จะได้นำไปหมุนเวียนต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนระยะต่อไปจะยึดร้านบริการเป็นศูนย์กลาง โดยกรมจะหาคนไปอบรมเป็นหมอนวดให้แล้วให้ร้านสัมภาษณ์ขั้นต้นแล้วพิจารณาเลือกเอง ส่วนสถานฝึกอบรมของหมอนวดก็ให้ร้านเลือกเอง เมื่ออบรมเรียบร้อยแล้วก็ส่งกลับหมอนวดไปทำงานที่ร้าน การันตีเรื่องการมีงานทำ
รวบรวม “หมอนวดพื้นบ้านมือทอง”
ไม่เพียงเท่านี้ กำลังดำเนินการโครงการ “หมอนวดมือทอง” ทั่วประเทศ นำร่อง 100 คน โดยรวบรวมองค์ความรู้จากประสบการณ์ หมอนวดพื้นบ้านที่เป็นบุคคลซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากตำรามรดกตระกูล หรือได้รับการถ่ายทอดจากสำนักหรือวัด จะแตกต่างจากหมอนวดที่ผ่านการฝึกอบรมตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนด โดยรวบรวมองค์ความรู้มาเป็นในรูปวิดีโอ เพื่อให้เป็นสมบัติของชาติ
ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้กฎระเบียบ โดยเฉพาะในส่วนของหมอพื้นบ้านที่ได้รับการรับรองจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกแล้ว แต่กลับถูกจำกัดพื้นที่ในการรักษา ห้ามออกนอกพื้นที่ ห้ามเป็นการค้า ทำให้ลูกหลานไม่มีใครอยากสืบทอดต่อ ภูมิปัญญาไทยก็จะสูญหาย
ติดตามต่อ ซีรีส์ เอ็กซ์โป 2025 โอซากา ตอนที่ 4 ไทยแลนด์ พาวิลเลียน กระตุ้น“เวลเนสทัวร์ริสซึม”
ตอนที่ 1 'ไทยแลนด์ พาวิลเลียน' เอ็กซ์โป 2025 สิ่งที่กำลังจะเปลี่ยน
ตอนที่ 2 'สุขสมบูรณ์'ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน ตีโจทย์ สังคมอนาคต เอ็กซ์โป 2025