“30บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” Shopping Around โจทย์ที่ไม่ปล่อยผ่าน

“30บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” Shopping Around โจทย์ที่ไม่ปล่อยผ่าน

เปิดผลดำเนินการ 30 บาทบัตรประชาชนใบเดียว รักษาทุกที่ พบคนเข้ารักษารพ.ข้ามเขต 3 % สามารถสกัดการรับบริการหลายแห่งใน 1 วันด้วยโรคเดียวกัน (Shopping Around)ก่อนขยับสู่เฟส 2 อีก 8 จังหวัด  เริ่มมี.ค.นี้

KEY

POINTS

  • 30บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ระยะ 1 ใน 4 จังหวัด พบคนเข้ารักษารพ.ข้ามเขต 3 % สามารถสกัดการรับบริการหลายแห่งใน 1 วันด้วยโรคเดียวกัน (Shopping Around)
  • ระยะ 2 บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ขยายอีก 8 จังหวัด เริ่มมี.ค.นี้ รพ.สธ.เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับรพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไปครบถ้วน 
  • หน่วยบริการเอกชนใน 8 จังหวัด บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ สมัครเข้าร่วมแล้ว  451 แห่งทั้งร้านขายยา คลินิก ทันตกรรม

เปิดผลดำเนินการ 30 บาทบัตรประชาชนใบเดียว รักษาทุกที่ พบคนเข้ารักษารพ.ข้ามเขต 3 % สามารถสกัดการรับบริการหลายแห่งใน 1 วันด้วยโรคเดียวกัน (Shopping Around)ก่อนขยับสู่เฟส 2 อีก 8 จังหวัด  เริ่มมี.ค.นี้

 

“คนแห่เข้ารับบริการใน รพ.ใหญ่จำนวนมาก” และ “การ Shopping Around หรือการรับบริการซ้ำซ้อนภายในวันเดียวกัน” เป็นสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญอย่างมาก

ในการขับเคลื่อนนโยบาย “30 บาท บัตรประชาชนใบเดียว รักษาทุกที่” จากการที่ การนำร่องระยะ 1 เมื่อต้นเดือนม.ค.2567 ใน 4 จังหวัดคือ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส

รักษาข้ามเขตไหลเข้า รพ.ใหญ่ไม่มาก

ล่าสุด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข และประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานมีการเข้ารับบริการแบบข้ามชาติใน 4 จังหวัดที่นำร่อง 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ภาพรวมราว 3-4% และเมื่อพิจารณาลึกลงไปในกลุ่มนี้ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่ได้มีภูมิลำเนาในพื้นที่นั้น แต่ย้ายมาทำงานอยู่ในพื้นที่นั้น ซึ่งก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนโยบายอยู่แล้ว 

ประชาชนให้การตอบรับอย่างมากเนื่องจากช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการใกล้บ้าน ขณะเดียวกันก็ช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะงานด้านเอกสาร จากการเชื่อมโยงระบบข้อมูลประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (PHR)


“30บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” Shopping Around โจทย์ที่ไม่ปล่อยผ่าน

30 บาท 4 จ.จ่ายแล้ว 71 ล้านบาท

ส่วนที่เป็นบทบาทของ สปสช. มีหน่วยนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ เช่น คลินิกทันตกรรม คลินิกเวชกรรม ร้านยา ฯลฯ ที่มาเข้าร่วมให้บริการเพิ่มขึ้นถึง 541 แห่ง เกินจากเป้าหมายที่วางไว้ที่ 478 แห่ง

ช่วยให้ประชาชนมีหน่วยบริการปฐมภูมิใกล้บ้านใกล้ใจมากขึ้น รวมถึงการเชื่อมข้อมูลทุกระบบเพื่อการเบิกจ่ายในทุกหน่วยบริการ การใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตรวจสอบก่อนจ่ายให้หน่วยบริการ และการใช้ระบบการแสดงตนยืนยันสิทธิหลังสิ้นสุดบริการ

ทำให้หน่วยบริการใน 4 จังหวัดนำร่องกว่า 70% ได้รับค่าบริการจาก สปสช. ภายใน 3 วัน ตามเป้าหมายที่วางไว้ และป้องกันการซ้ำซ้อนของข้อมูลได้อย่างดี โดยข้อมูลจากวันที่ 7 ม.ค. – 17 ก.พ. 2567 สปสช. จ่ายค่าบริการให้กับหน่วยบริการแล้วถึง 71,556,068 บาท

สกัดกรณี Shopping Around

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบกำกับติดตามกระบวนการ เพื่อป้องกันการรับบริการซ้ำซ้อนภายในวันเดียวกัน หรือที่หลายคนเรียกว่า Shopping Around ตลอดจนการร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) ในการจัดให้มีกลไกการกำกับการเข้าถึงบริการ และคุณภาพมาตรฐานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

การดำเนินงานระยะ 1 ใน 4 จังหวัด มีการตรวจพบกรณีการเข้ารับบริการซ้ำซ้อนภายในวันเดียวกัน ราว 14 ราย โดยพบ หน่วยบริการส่งเบิกค่าบริการของผู้ป่วยที่มีเลข ID เดียวกันในวันเดียวกัน ซึ่งระบบของ สปสช.จะรายงานข้อมูลนี้ได้

อย่างไรก็ตาม หากเป็น 1 ครั้งที่มีการตรวจเจอ สปสช.ก็จะมีจ่ายค่าบริการให้กับหน่วยบริการ เพราะอาจจะเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยไปรักษาหน่วยบริการแห่งแรกแล้วไม่ดีขึ้น ก็ไปแห่งที่ 2 ทว่าระบบก็จะติดตามการส่งเบิกค่าบริการของผู้ป่วยรายนั้น หากพบว่ามีพฤติการณ์เช่นนี้ซ้ำๆ 3-4 ครั้ง ก็น่าจะมีความผิดปกติบางอย่าง จะประสานไปยังเขตสุขภาพ สสจ. สสอ.ในพื้นที่ เพื่อเข้าไปเยี่ยมบ้านติดตามอาการของผู้ป่วยรายนั้น 

บัตรประชาชนใบเดียว 8 จังหวัดระยะ 2 

รพ.สธ.เชื่อมประวัติสุขภาพครบถ้วน

สำหรับการเดินหน้าบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ต่อในระยะที่ 2 อีก 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา ซึ่งตั้งเป้าจะคิกออฟในเดือนมี.ค.2567

ในส่วนของการเชื่อมโยงประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (PHR) โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน 8 จังหวัดรวม 96 แห่งดำเนินการครบถ้วนแล้ว

แต่ละจังหวัดยังมีความก้าวหน้าอย่างมากในหลายๆ เรื่อง อาทิ

  • พังงา ประชาชนยืนยันตัวตนแล้ว 52%,
  • นครราชสีมา บุคลากรทางการแพทย์ยืนยันตัวตน 95% ให้บริการการแพทย์ทางไกลสูงสุด 11,517 ครั้ง
  •  สระแก้ว ออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัลสูงสุด 29,594 ใบ
  •  หนองบัวลำภู ให้บริการนัดหมายออนไลน์สูงสุด 1,489 ครั้ง และจัดบริการส่งยา และเวชภัณฑ์ผ่าน Health Rider ครบทั้ง 6 โรงพยาบาล

 “8 จังหวัดนำร่อง 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียว รักษาทุกที่ ในระยะ 2 ขณะนี้มีความพร้อมในการดำเนินการอย่างมาก แต่ได้กำชับให้เร่งจัดทำข้อมูลเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนในแต่ละจังหวัดได้เข้าใจเกี่ยวกับการเข้ารับบริการผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว และสามารถสอบถามรายละเอียดได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งออกหน่วยบริการประชาชนในการยืนยันตัวตน Health ID เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการรักษา” นพ.ชลน่าน กล่าว

หน่วยบริการเอกชนเข้าร่วมแล้ว 451 แห่ง 

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2567 บอร์ด สปสช.ได้เห็นชอบให้ขยายพื้นที่ขับเคลื่อน “การขยายพื้นที่ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ในระยะที่ 2” และร่างประกาศฯ เรื่องการดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว

“30บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” Shopping Around โจทย์ที่ไม่ปล่อยผ่าน

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ข้อมูลภาพรวมมีหน่วยบริการนวัตกรรมวิถีใหม่ได้สมัครเข้าร่วมให้บริการใน 8 จังหวัดแล้ว จำนวน 451 แห่ง ประกอบด้วย

  • ร้านยา 281 แห่ง
  • คลินิกการพยาบาล 86 แห่ง
  • ทันตกรรม 50 แห่ง
  •  กายภาพบำบัด 12 แห่ง
  • คลินิกเวชกรรม 8 แห่ง
  • คลินิกเทคนิคการแพทย์ 5 แห่ง
  • และคลินิกแพทย์แผนไทย 4 แห่ง เป็นต้น

เมื่อแยกข้อมูลรายจังหวัด พบว่าแต่ละจังหวัดมีหน่วยบริการนวัตกรรมวิถีใหม่รวมให้บริการเพิ่มเติม ดังนี้

1.เพชรบูรณ์ 55 แห่ง

 2.นครสวรรค์ 73 แห่ง

3.สิงห์บุรี 13 แห่ง

4.สระแก้ว 35 แห่ง

 5.หนองบัวลำภู 35 แห่ง

6.นครราชสีมา 205 แห่ง

7.อำนาจเจริญ 19 แห่ง

และ 8.พังงา 16 แห่ง

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์