'ช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์'แรงงานที่ธุรกิจซ่อมยานยนต์ต้องการ

Keypoint:

• ช่างไทยเก่งซ่อมได้ทุกอย่าง มีทักษะแต่ขาดเรื่องมาตรฐาน ฉะนั้น แรงงานช่างยานยนต์ในไทยไม่ขาดแคลน แต่ขาดแคลนแรงงานที่มีคุณภาพ
• ยกระดับแรงงานช่างซ่อมถังตัวและสี และงานช่างซ่อมยานยนต์ให้ได้มาตรฐาน คุณภาพระดับสากล  เพราะหากไม่พัฒนาฝีมือแรงงาน ไทยจะไม่สามารถแข่งขันได้
• ศูนย์บริการ ACE ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสี และงานซ่อมครบวงจร แหล่งเทรนนิ่ง สอบมาตรฐานฝีมือ เปิดบริการซ่อมยานยนต์มาตรฐานสากล

แม้ปัจจุบันหลายอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีการนำเทคโนโลยีมาแทนที่มนุษย์ แต่ในสายงานอาชีพที่ใช้ทักษะยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยเฉพาะ วิชาชีพช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ที่ตลาดยังเปิดกว้างและมีความต้องการแรงงานอีกมากถึง 50% ขณะที่การผลิตสายช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์มีเพียง 15-20% เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจยานยนต์ของไทย

ในประเทศไทยเวลาจะซ่อมรถยนต์ จะมีให้เลือกว่าจะ ‘ซ่อมห้าง(ซ่อมศูนย์)’ หรือ ‘ซ่อมอู่’ และหากทำเกี่ยวกับการซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ จะมีให้เลือก ‘อู่สี’ เพิ่มเข้ามา  แต่เมื่อมีการพูดถึง ‘ซ่อมตัวถัง’ ในประเทศแทบจะไม่มีใครพูดถึง ทั้งที่ การซ่อมตัวถังรถยนต์มีความสำคัญอย่างมาก เพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่รถยนต์  

อีกทั้ง ปัจจุบันยานพาหนะ ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันของคน อีกทั้งยังมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รถ Eco car ทำให้ปริมาณยานยนต์มีมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของธุรกิจซ่อมบำารุงยานยนต์ เนื่องจากรถยนต์จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไหล่  ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ และมีการบำรุงรักษาตามระยะเวลา หรือในกรณีเกิดอุบัติเหตุก็จำเป็นต้องซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เริ่มแล้ว! TAPA2023 งานแสดงชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ อุปกรณ์ตกแต่ง 5–8 เม.ย.นี้

พลิกวิกฤติ 'ยานยนต์ไทย' ด้วยการยกระดับ 'ทักษะแรงงาน'

ตลาดอีวีโตแรง ยอดจองมอเตอร์โชว์แตะ 9,234 คัน

 

เปิดศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสี งานช่อมครบวงจร

“สัจจวัชร  ศรีสวัสดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CEO บริษัท เค คอนซัลติ้ง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการจัดตั้งศูนย์บริการ ACE ซึ่งเป็นศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสี และงานซ่อมครบวงจร ว่าภาพรวมของงานซ่อมรถยนต์นั้น 2 ประเภท คือ งานซ่อมทั่วไป  และงานซ่อมตัวถังและสี ซึ่งในส่วนของงานซ่อมตัวถังและสีนั้น จริงๆ ในต่างประเทศมีธุรกิจนี้มาอย่างยาวนาน และมีจำนวนมาก แต่ในประเทศไทยกลับไม่มีงานซ่อมตัวถังและสีให้บริการอย่างชัดเจน ถ้าเห็นชัดมากสุด ก็คืองานซ่อมสี อย่างที่เรียกันว่า อู่สี ซึ่งงานดังกล่าวจะเป็นการซ่อมที่เกิดจากการชน หรืออุบัติเหตุ

โดยความแตกต่างระหว่างงานซ่อมตัวถังและสี และงานซ่อมสีที่มีการเปิดอยู่ในขณะนี้ คือ อู่ที่ซ่อมตัวถังและสีโดยเฉพาะนั้นจะไม่มี และโดยพื้นฐานในส่วนของการผลิตช่างซ่อมตัวถังและสีไม่ได้คณะหรือหลักสูตร ตำราอย่างชัดเจน ช่างที่ทำงานด้านนี้ จะเรียนจบหลักสูตรยานยนต์และต้องเลือกเรียนในสาขาย่อยตัวถังและสี เมื่อจบการศึกษาก็อาจต้องเสียเวลาไปอย่างน้อย 2 ปี ถึงจะทำงานได้ เพราะไม่ได้มีการฝึกปฎิบัติด้านการซ่อมตัวถังและสีมากนัก ส่วนหากเป็นช่างที่มีประสบการณ์มากๆ จะเป็นในลักษณะครูพักลักจำ พี่สอนน้อง แล้วมาทำงาน

“คนไทย ช่างไทยมีความเก่งสามารถซ่อมได้ทุกอย่าง มีทักษะในการซ่อมและมีมาตรฐานในการทำงาน แต่เมื่อยุคสมัยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อู่สีในไทย จะให้ความสำคัญกับการซ่อมสี ส่วนตัวถังจะซ่อมในลักษณะให้สามารถใช้งานได้ ทั้งที่ในต่างประเทศ ตัวถังรถยนต์ หรือ Body Shop   มีความสำคัญอย่างมาก เพราะนั่นคือความปลอดภัยของผู้ใช้รถ แต่ในประเทศไทยกลับโฟกัสผิดที่”สัจจวัชร กล่าว

 

บริการงานช่างครบวงจร ฝึกเทรนนิ่งพร้อมซ่อมตัวถังและสี

การจัดตั้งศูนย์บริการ ACE ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสี และงานซ่อมครบวงจร เพื่อเป็นทั้งแหล่งฝึกอบรม เทรนนิ่ง สอบมาตรฐานฝีมือ แหล่งปฎิบัติให้แก่ช่างซ่อมตัวถัง และสี หรือกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์ที่ต้องการยกระดับ พัฒนาทักษะให้แก่ช่างซ่อมตัวถังและสี  การให้บริการของศูนย์ ACE จึงไม่ใช่เพียงให้บริการซ่อมตัวถังและสี และงานซ่อมครบวงจร แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ เท่านั้น แต่เป็นแหล่งฝึกอบรมฝึกปฎิบัติร่วมด้วย

“นอกจากเรื่องการบริการที่ได้มาตรฐาน มีช่างชำนาญการที่มีศักยภาพแล้ว ยังเน้นเรื่องการทำหลักสูตร การเรียนการสอนที่ได้มาตรฐาน และโฟกัสเรื่องซ่อมตัวถังและสีเป็นพิเศษ รวมถึงมีการใช้เครื่องมือ เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ช่างซ่อมตัวถังและสี รวมถึงช่างเชื่อมโครงสร้างรถยนต์ให้ได้ใบอนุญาต เหมือนกับช่างเชื่อมในอุตสาหกรรม ซึ่งเรื่องมาตรฐานของช่างซ่อมมีความสำคัญอย่างมาก” สัจจวัชร กล่าว

เป้าหมายของการเปิดศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสี และงานซ่อมครบวงจร ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับโลก ภายใต้ชื่อ ACE (Automotive Center of Excellence) โดยแห่งแรกในจังหวัดขอนแก่นนั้น เพื่อให้ลูกค้า ผู้ใช้รถยนต์ได้ซ่อมกับช่างที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ซึ่งในขณะนี้กำลังขาดแคลนช่างซ่อมรถยนต์ โดยเฉพาะช่างซ่อมตัวถังและสี

สัจจวัชร เล่าต่อว่าเรื่องของการขาดแคลนกำลังแรงงานนั้น ต้องยอมรับว่า เรามีแรงงานด้านช่างซ่อมรถยนต์จำนวนมาก แต่หากถามเรื่องคุณภาพ เราอาจจะขาดแรงงานที่มีคุณภาพ ฉะนั้น ในมุมมองของภาคเอกชน แรงงานด้านช่างยานยนต์กำลังขาดแคลนอย่างมาก เพราะต่อให้มีเด็กจบใหม่ออกมาจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ยังขาดทักษะที่สถานประกอบการต้องการ ต้องมีการฝึกอบรม ฝึกปฎิบัติ และต้องอาศัยความชำนาญ ยิ่งงานช่างซ่อมตัวถังและสี มีช่างที่ฝึกปฎิบัติด้านนี้น้อยมาก

“ศูนย์บริการACE มีพนักงานอยู่ 2 ระดับ คือ 1.ครูฝึก 16 คน แบ่งเป็นครูฝึกช่างตัวถัง 8 คน และครูฝึกช่างสี 8 คน และ2.ช่างผู้ปฎิบัติ หรือช่างชำนาญการ ซึ่งมีประมาณ 35 คน โดยช่างทั้งหมดจะผ่านการฝึกอบรม ฝึกสอนวิธีการซ่อมตัวถังและสี มีรูปแบบ แนวคิด และมีการใช้เทคโนโลยีชั้นนำของโลก เมื่อได้ช่างเหล่านี้เป็นต้นแบบ ก็มีการรับคนรุ่นใหม่เข้ามาฝึกปฎบัติ เป็นการสร้างบุคลากรสายช่างซ่อมตัวถังและสีเพิ่มมากขึ้น รองรับความต้องการของธุรกิจซ่อมยานยนต์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” สัจจวัชร กล่าว

เล็งขยายเปิดศูนย์บริการ ACE  อีก 5 แห่งภายในปี2567

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของศูนย์บริการ ACE คือ กลุ่มคนรักรถที่มุ่งเน้นคุณภาพและมาตรฐานของงานซ่อมที่เชื่อถือได้ พร้อมดูแลลูกค้าที่มีประกันเบี้ยซ่อมห้างและประกันเบี้ยซ่อมอู่จากทุกบริษัทประกัน มีความสะดวกสบายในการนัดหมายและติดตามสถานะงานซ่อมได้จาก Application พร้อมแจ้งเตือนเมื่อรถซ่อมเสร็จ ลูกค้าสามารถเรียกดู ประวัติงานซ่อมของรถตัวเอง

โดยศูนย์ฯแห่งนี้ ขนาด 3,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ จังหวัดขอนแก่น นอกจากจะ ให้บริการลูกค้าแล้ว ยังมีแผนที่จะร่วม พัฒนาช่างฝีมือในประเทศไทย สามารถแข่งขันได้กับนานาประเทศ ส่งเสริมทักษะอาชีพจาก K-CNS Training Center มาแล้วกว่า 7 ปี ผลิตช่างฝีมือไปแล้วกว่า 500 คน และได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน WorldSkills ระดับโลกในสาขา Automotive Technology, Body Repair, Car Painting และ Mechatronics ในปี 2022 ที่ผ่านมา

ขณะที่แผนผังของศูนย์บริการ ACE แบ่งพื้นที่การทำงานเป็น 3 ส่วน คือ พื้นที่ซ่อมเบา พื้นที่ซ่อมปานกลาง และพื้นที่ซ่อมหนัก โดยปัจจุบันศูนย์บริการ ACE สามารถรองรับงานซ่อมทั่วไปประมาณ 15 คันต่อวัน และงานซ่อมตัวถังและสี 200 คันต่อเดือน

ในส่วนของราคา บริษัทพร้อมนำเสนอราคาที่คุ้มค่า ถูกกว่าการซ่อมในศูนย์บริการโดยทั่วไป ภายใต้คุณภาพและมาตรฐานที่มากกว่าหรือเทียบเท่า โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาในการซ่อมรถหลายแห่ง สามารถซ่อมได้ครบวงจรในที่เดียว และลูกค้ายังสามารถมั่นใจได้ว่ารถทุกคันจะกลับมาอยู่ในสภาพใกล้เคียงกับมาตรฐานการประกอบจากโรงงานมากที่สุด พร้อมรับประกัน 2 ปีสำหรับงานซ่อมตัวถังและสี และ 1 ปี สำหรับงานซ่อมทั่วไป

เปลี่ยนมุมมอง จบสายช่าง เป็นช่างฝีมือก็รวยได้

โดยหลังจากที่ได้ทำการเปิดสาขาแรกที่ขอนแก่นแล้ว ACE ยังมีแผนที่จะขยายไปอีก ในกรุงเทพมหานคร  2 แห่ง และหัวเมืองใหญ่อีก 5 แห่ง ทั่วประเทศภายในปี 2567 และร่วมสร้างแรงงานฝีมือของไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล ซึ่งที่เลือกเปิดสาขาแรกที่ขอนแก่นนั้น เนื่องจากขอนแก่น เป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน  เส้นทางจากตะวันตกไปตะวันออกจากพม่าไปเวียดนาม จะมีขอนแก่นอยู่ตรงกลาง อีกทั้งแรงงาน 60-70% จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดทางภาคอีสาน เพื่อให้แรงงานได้มาฝึกอบรม ฝึกปฎิบัติโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพให้คนในพื้นที่

“เป้าหมายของผม จริงๆ แล้ว คือ การยกระดับแรงงานช่างซ่อมถังตัวและสี และงานช่างซ่อมยานยนต์ครบวงจรให้ได้มาตรฐาน คุณภาพระดับสากล รวมถึงเป็นการผลิตแรงงาน เพิ่มศักยภาพรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมด้านนี้ร่วมด้วย เพราะหากไม่พัฒนาฝีมือแรงงาน ไทยจะไม่สามารถแข่งขันได้ รวมถึงอยากเปิดมุมมองของคนรุ่นใหม่ให้มาทำงานด้านสายช่าง สายอาชีพมากขึ้น อยากเปลี่ยนคำกล่าวที่ว่าจบช่างแล้วจะเอาอะไรกิน เพราะตอนนี้หากเป็นช่างฝีมือ ช่างที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ จบแล้วมีงานทำและมีรายได้สูง"สัจจวัชร กล่าว

'ช่างฝีมือ' ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใดก็ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ เป็นฟันเฟืองที่มีคุณภาพ เพราะหากประเทศมีแต่บุคลากรที่นั่งทำงานบนโต๊ะกันหมด ไม่มีคนทำงานด้านช่าง เศรษฐกิจจะขับเคลื่อนไปทางไหน 

โดยส่วนตัว 'สัจจวัชร' ทำงานในบริษัทรถยนต์ และอยู่ในส่วนของงานซ่อมทั่วไป จนกระทั่งเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ถูกย้ายให้ไปอยู่ในสายงานซ่อมตัวถังและสี ซึ่งขณะนั้นเป็นสายงานที่มีคนทำน้อยมาก เพราะธุรกิจไม่ให้ความสนใจด้านนี้ แต่ปัจจุบันไม่ใช่ ธุรกิจซ่อมตัวถัวและสี และงานซ่อมยานยนต์ กำลังมีการเติบโต มีตลาดมากมาย

"บริษัท เค คอนซัลติ้ง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ได้เป็นศูนย์ฝึกอบรม และให้บริการด้านซ่อมตัวถังและสี และงานซ่อมครบวงจร มากว่า 6 ปี และปัจจุบันได้เปิดศูนย์บริการ ACE เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และบริษัทรถยนต์ที่ต้องการให้ช่างมาฝึกอบรม ฝึกปฎิบัติ ขณะเดียวกัน ได้ร่วมมือกับสถาบันอาชีวศึกษา ในการจัดทำหลักสูตรทวิภาคี เพื่อเปิดให้คนรุ่นใหม่ นักศึกษาได้เข้ามาฝึกปฎิบัติ ทำงานจริง มีเงินเดือนจริง"สัจจวัชร กล่าว

หากใครชื่นชอบ รัก สนใจเรื่องรถยนต์  และมีไอเดีย มีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ มีความละเอียด อยากให้ลองมาเรียนหลักสูตรด้านยานยนต์ และเลือกสาขาตัวถังและสี เลือกมาฝึกงานที่ศูนย์บริการ ACE แต่หากใครที่ไม่ได้เลือกเรียนสายนี้ แต่อยากทำงานสายนี้ก็สามารถมาทำได้ แต่ขอให้มีความสนใจเรื่องรถยนต์ และอยากทำงานจริงๆ