'NRF' ปักหมุด Flagship store อังกฤษ ตั้งเป้าปี 66 รายได้ 3-4 พันลบ.

'NRF' ปักหมุด Flagship store อังกฤษ ตั้งเป้าปี 66 รายได้ 3-4 พันลบ.

NRF กางแผนปี 2566 พัฒนาช่องทาง eCommerce ต่อยอดสู่ Omni-Channel เปิด flagship store สินค้าเอเชีย ปักหมุดอังกฤษ 4 สาขา ตั้งเป้ารายได้ 3-4 พันล้านบาทในปีนี้ พร้อม นำ AI เสริมทัพธุรกิจ ดันซอสศรีราชา และ Pet Food สู่ Product champion เดินหน้าเป้าหมาย Net Zero Emission ปี 2573

key point

  • การบริโภคร้านอาหารเอเชีย ของผู้บริโภคโซนยุโรปมีมูลค่ากว่า 7,100,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และตลาดอาหารชาติพันธุ์ มีมูลค่าราว 2,990,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
  • Pain point สำคัญของผู้ส่งออกอาหารของไทย คือ การไม่รู้ว่าลูกค้าเป็นใคร ซึ่งส่งผลต่อการทำตลาด เรียกได้ว่าเป็น Pain point ของผู้ส่งออกเกือบทุกราย
  • NRF ในฐานะผู้นำอุตสหากรรมอาหาร กางแผนปี 66 พัฒนาช่องทาง eCommerce ต่อยอดสู่ Omni-Channel เปิด flagship store สินค้าเอเชีย นำร่องปักหมุดอังกฤษ 4 สาขาในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้ 3-4 พันล้านบาท
  • นำ Big Data และ AI ต่อยอดตลาด เสริมทัพธุรกิจ ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า พร้อมดันซอสศรีราชา และ Pet Food สู่ Product champion เดินหน้าเป้าหมาย Net Zero Emission ภายในปี 2573

 

เมื่อพูดถึง ‘ธุรกิจอาหาร’ หลายคนมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดีเพราะมีความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติและวัตถุดิบ มีผู้ประกอบการจำนวนมาก และถือเป็นครัวของโลก แต่การแข่งขันในยุคปัจจุบัน สำหรับธุรกิจอาหารเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก รุนแรง และ ดุเดือดมากขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน เทรนด์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น การรักสุขภาพ รักสิ่งแวดล้อม

 

ข้อมูลผู้บริโภคโซนยุโรปจาก NRF ระบุว่า มูลค่าการบริโภคร้านอาหารเอเชียอยู่ที่ 7,100,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และตลาดอาหารชาติพันธุ์ (Ethnic Food Market) มีมูลค่าอยู่ที่ 2,990,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ผู้บริโภคกลุ่ม อาหารชาติพันธุ์กว่า 90% เลือกที่จะบริโภคอาหารกลุ่มนี้ที่บ้าน และกว่า 54% รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และ 29% รับประทานอาหารเย็นเป็นอาหารจากพืช

 

'NRF' ปักหมุด Flagship store อังกฤษ ตั้งเป้าปี 66 รายได้ 3-4 พันลบ.

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

ขณะเดียวกัน ในประเทศอังกฤษ ไทยติด Top 3 ประเทศที่ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร รองจาก อินเดีย จีน และในตอนนี้ เกาหลีใต้ เรียกว่ากำลังเติบโต โจทย์ใหญ่จึงอยู่ที่ว่า ทำอย่างไรในการยกระดับสินค้าเกษตร ภาคส่งออกเพื่อแข่งกับประเทศอื่น ความท้าทายผู้ส่งออกอาหารไทย ไม่ใช่การสู้กับผู้ประกอบการไทยด้วยกัน แต่ต้องสู้กับคู่แข่งจากต่างประเทศ

 

NRF เปิด flagship store นำร่องปักหมุดอังกฤษ

 

สำหรับ บมจ. เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ หรือ NRF ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอาหารระดับโลกและการผลิตอาหารเพื่ออนาคต ที่มีการส่งออกไปกว่า 30 ประเทศ มากกว่า 10,000 จุดทั่วโลก ที่ผ่านมา Pain point สำคัญที่พบ คือ การไม่รู้ว่าลูกค้าเป็นใคร ซึ่งส่งผลต่อการทำตลาด เรียกได้ว่าเป็น Pain point ของผู้ส่งออกเกือบทุกราย

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF ประกาศแผนกลยุทธ์ปี 2566 “NRF Next Step in the World of Asian Food Consumerism” ยกระดับธุรกิจ มุ่งเป้าลูกค้าที่หนึ่ง รุกตลาดครั้งใหญ่ ภายใต้แนวคิด ธุรกิจอาหารเปลี่ยนโลกอย่างยั่งยืน โดยทำงานร่วมกับเกษตรกรและผู้ส่งออกไทยที่สนใจเข้าสู่ตลาดอังกฤษ พัฒนาช่องทาง eCommerce และต่อยอดสู่ Omni-Channel

 

โดยการเปิดร้านจำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์จาก เอเชีย (Asian Grocery Store) เป็นแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงและกว้างขวาง เพื่อดันยอดขายให้แก่ผลิตภัณฑ์ของ NRF ทั้งยังเสริมศักยภาพการแข่งขันให้แก่สินค้าเอเชียในตลาดยุโรป สร้างโอกาสให้แก่ผู้ส่งออกไทยทั้งรายใหญ่และรายย่อย ที่สามารถส่งออกสู่ตลาดยุโรปโดยผ่านคนกลาง

 

'NRF' ปักหมุด Flagship store อังกฤษ ตั้งเป้าปี 66 รายได้ 3-4 พันลบ.

 

"flagship store สาขานำร่องจะเริ่มในประเทศอังกฤษจำนวน 4 สาขาในปีนี้ และคาดว่าจะมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความคืบหน้า ณ ขณะนี้ ทางบริษัทฯ กำลังเจรจา LOI (Letter of intent) กับร้านค้าอยู่ 2 แห่ง ที่มียอดขายรวมอยู่ที่ 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปี 2566 นี้ ตั้งเป้ารายได้ราว 3-4 พันล้านบาท" 

 

 

“สำหรับมูลค่าการส่งออกของสินค้าเกษตรและสินค้าอาหารของไทยในปี 2565 มีมูลค่าอยู่ที่ 1,553,822 ล้านบาท และในปี 2566 ตลาดส่งออกมีแนวโน้มเติบโตขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าราว 10,281,109,608 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 2% นับเป็นโอกาสในการรุกตลาดส่งออกยิ่งขึ้นเพื่อดันรายได้ให้แก่ธุรกิจหลักของ NRF”

 

ใช้ AI เสริมทัพธุรกิจ

 

แดน กล่าวต่อไปว่า เราตั้งเป้าหมายลูกค้าต้องเป็นที่หนึ่ง ผ่านการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ทันสมัย เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้บริโภค ทำให้จุดมุ่งหมายในปีนี้ของ NRF เป็นเสมือนจิ๊กซอว์ สำคัญในการพัฒนาและขยายธุรกิจของ NRF โดยกลยุทธ์นี้จะเชื่อมต่อ ให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ใหม่ นั่นคือ การพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่จะทำให้ผู้บริโภค เข้าถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเอเชียได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

อีกทั้ง ปัจจุบัน NRF เห็นถึงปัญหาการส่งออกในประเทศ ที่ยังคงมีปัญหาจากการขาดแพลตฟอร์มเพื่อช่วยอุตสาหกรรม ส่งออก เราจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะพัฒนาและนำ Big Data มาต่อยอดแผนการตลาด นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่บริษัทฯ จะสามารถพลิกให้เป็นโอกาสในการช่วยผู้ส่งออกและเกษตรกรไทย โดยมีแผนจะนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมทัพธุรกิจ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และเข้ามามีบทบาทในธุรกิจ

 

'NRF' ปักหมุด Flagship store อังกฤษ ตั้งเป้าปี 66 รายได้ 3-4 พันลบ.

 

ดัน ซอสศรีราชา-อาหารสัตว์ Product champion

 

แดน กล่าวต่อไปว่า อีกหนึ่งกลยุทธ์ใหญ่ ในธุรกิจ Specialty Food คือ การดันซอสศรีราชาเป็น Product champion การขยายฐานการผลิตโรงงานซอสพริกศรีราชาในสหรัฐ อเมริกา เพื่อเป็น local product ที่มีคุณภาพ ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสรสชาติซอสพริกสูตรดั้งเดิมที่แท้จริง สอดรับกับตลาดซอสพริกที่สหรัฐอเมริกาซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 101,200 ล้านบาท เติบโตกว่า 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน

 

และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขยายธุรกิจและผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ นับเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการเป็นผู้นำในฐานะผู้ผลิตซอสระดับสากลและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับ NRF

 

ถัดมา คือ การชูผลิตภัณฑ์ Pet Food ส่งออก 5 ประเทศชั้นนำ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย อินเดีย และ กลุ่มตะวันออกกลาง อีกทั้ง ยังมีแผนที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์เข้าสู่ Modern Trade อีกหลาย ประเทศ สอดรับกับตลาดผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงโปรตีนทางเลือกที่มีส่วนแบ่งการตลาด 23.4% เมื่อเทียบกับ ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงสูตรทั่วไป และในอนาคตผลิตภัณฑ์ อาหารสัตว์เลี้ยงทางเลือก จะมีอัตราความต้องการที่มากขึ้น อย่างต่อเนื่อง

 

ขับเคลื่อนบริษัทสู่เป้าหมาย Net Zero

 

ทั้งนี้ ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอาหารที่มีวิสัยทัศน์ในการใช้อาหารต่อสู้กับโลกร้อน Food Fighting Climate Change ที่ต้องการเปลี่ยนโลกให้ยั่งยืนด้วยธุรกิจ Decarbonization ที่ได้เข้าลงทุนใน frontline technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนขั้นสูงที่ได้รับรางวัล X Prize Award ที่มีเป้าหมายมาจากการความต้องการที่จะแก้ปัญหาและลดผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนจากอุตสาหกรรมอาหาร

 

โดยเทคโนโลยีขั้นสูงขนาดย่อมนี้ เรามีแผนตั้งจังหวัดลำพูน ที่นับเป็นต้นน้ำที่สำคัญของบริษัท ซึ่งผลิตภัณฑ์ Bio Carbon มีส่วนช่วยในการพัฒนาดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ส่งเสริมให้การเพาะปลูกมีประสิทธิภาพและสามารถดักจับคาร์บอนในกระบวนการเกษตร อีกทั้งเรายังมีเป้าหมายเพื่อลดการเผาของเกษตรกร และเล็งเห็นโอกาสให้แก่บริษัทอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอีกด้วย

 

'NRF' ปักหมุด Flagship store อังกฤษ ตั้งเป้าปี 66 รายได้ 3-4 พันลบ.

 

ผู้นำอุตสาหกรรม บนพื้นฐาน ESG

 

แดน กล่าวต่อไปว่า หลังจากพัฒนาและขยายธุรกิจกว่า 6 ปี วันนี้ NRF ได้สร้างบริษัทฯ ได้อย่างแข็งแกร่งและเติบโตมาโดยตลอด ด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการเป็นผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์ปรุงอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร ที่นับจุดแข็งอยู่ที่รสชาติคู่ครัวไทยส่งออกไปยังครัวโลก และประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซทั้งในและนอกประเทศ

 

"โดยในปีนี้ เรามีเป้าหมายสำคัญที่จะรุกตลาดส่งออกมากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมแกร่งให้แก่บริษัทยิ่งขึ้น และเรามุ่งมั่นที่จะเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่จะสามารถสร้างโอกาสและเป็นทางออกให้แก่ผู้ประกอบการส่งออกของไทยให้มีประสิทธิภาพ และสร้างประสิทธิผลสูงสุดให้กับอุตสาหกรรมภายในประเทศ"

 

ซึ่ง NRF ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ และพร้อมที่จะผลักดันคู่ค้า พันธมิตร และบริษัทในเครือ ให้ร่วมพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ “ใช้อาหารต่อสู้กับโลกร้อน” พร้อมทั้งการพัฒนาและต่อยอดอาหารที่ดี เพื่อทุกคน ทุกเจเนอเรชั่น เพื่อเป็นผู้นำอุตสาหกรรม ผลิตอาหารชั้นนำบนพื้นฐานด้าน ESG พร้อมขับเคลื่อนบริษัทไปสู่เป้าหมาย Net Zero Emission ภายในปี 2573 เพื่อเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ

 

'NRF' ปักหมุด Flagship store อังกฤษ ตั้งเป้าปี 66 รายได้ 3-4 พันลบ.