8 หุ้นชิ้นส่วนฯ พุ่งแรง PTECH นำกลุ่มชนซิลลิ่ง 30% หลังกลับเข้าเทรด ปั้น New S-Curve
8 หุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์พุ่งแรง PTECH นำกลุ่มชนซิลลิ่ง 30% โบรกเผย หลังกลับเข้าเทรด ปั้น New S-Curve ใหม่ แนะแค่เทรดดิ้ง
KEY
POINTS
- หุ้น PTECH กลับมาซื้อขายวันแรก (9 ต.ค. 68) หลังจากถูกปลดเครื่องหมาย SP โดยราคาพุ่งขึ้นชนเพดาน (Ceiling) 30.53% มาอยู่ที่ 1.24 บาท
- การปรับตัวขึ้นแรงของ PTECH เป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เข้าสู่ธุรกิจรับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (EMS) โดยเฉพาะการประกอบแผงวงจรพิมพ์ (PCB assembly) เพื่อสร้างการเติบโตแบบ New S-Curve
- ธุรกิจใหม่ของ PTECH ได้รับอานิสงส์จากกระแสเมกะเทรนด์ด้านเทคโนโลยี, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ Data Center ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง HANA และ DELTA
- PTECH นำกลุ่มหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้นยกแผง โดยมีหุ้นอื่นที่ปรับตัวขึ้นแรงในวันเดียวกัน เช่น KCE, DELTA, SVI, HANA, CCET, SMT และ TEAM
- บรรยากาศเชิงบวกของกลุ่มยังได้รับแรงหนุนจากหุ้น DELTA ที่ราคาปรับขึ้นอย่างรุนแรงหลังโบรกเกอร์ต่างชาติอัปเกรดราคาเป้าหมาย
- ผู้บริหาร PTECH ระบุว่าการเข้าสู่ธุรกิจ EMS จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว กระจายความเสี่ยง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้น โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตและส่งออกได้ภายในปี 2568
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 9 ต.ค.2568 เวลา 10.25 น.หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง นำโดย หุ้น PTECH หรือ บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงพุ่งชนซิลลิ่ง 30.53% เพิ่มขึ้น 0.29 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.24 บาท ตามมาด้วย
หุ้น KCE บวก 5.00% เพิ่มขึ้น 1.25 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 26.25 บาท
หุ้น DELTA บวก 4.44% เพิ่มขึ้น 8.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 200.00 บาท
หุ้น SVI บวก 4.10% เพิ่มขึ้น 0.25 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 6.35 บาท
หุ้น HANA บวก 3.31% เพิ่มขึ้น 0.80 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 25.00 บาท
หุ้น CCET บวก 2.56% เพิ่มขึ้น 0.15 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 6.00 บาท
หุ้น SMT บวก 2.13% เพิ่มขึ้น 0.03 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.44 บาท
หุ้น TEAM บวก 0.85% เพิ่มขึ้น 0.02 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.38 บาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้น PTECH ได้กลับเข้าสู่การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก หลังจากการถูกปลดเครื่องหมาย SP และมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ทำให้การซื้อขายในวันแรกพบราคาหุ้นชนซิลลิ่ง
ทั้งนี้ หุ้น PTECH ได้รับความสนใจเนื่องจากมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยบริษัทได้ปรับเปลี่ยนมาดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ PCB assembly การประกอบแผงวงจรพิมพ์ และตั้งเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทที่ให้บริการด้าน อิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร
อย่างไรก็ดี ธุรกิจใหม่ของ Ptech มีความสำคัญและจำเป็น เนื่องจาก PCB assembly เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จำเป็นสำหรับ เทคโนโลยีในอนาคต อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ Data Center ดังนั้นการปรับโครงสร้างธุรกิจนี้จึงอยู่ในกลุ่มที่ได้รับผลดีจากกระแสเมกะเทรนด์เป็นหลัก และมีลักษณะคล้ายคลึงกับธุรกิจของผู้เล่นรายใหญ่อย่าง HANA และ DELTA
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังได้รับอานิสงส์เชิงบวกในวันนี้ทั้งกลุ่ม โดยเฉพาะหุ้น DELTA ที่ราคาปรับตัวขึ้นมาอย่างรุนแรงหลังมีรายงานว่าโบรกเกอร์ต่างชาติได้ทำการอัปเกรดราคา ส่งผลต่อบรรยากาศเชิงบวกของกลุ่มธุรกิจเดียวกัน เช่น KCE และรวมถึง PTECH
สำหรับคำแนะนำการลงทุนในกลุ่มดังกล่าวเน้นเทรดดิ้งระยะสั้นโดยเฉพาะหุ้น การเล่นหุ้น DELTA ส่วน PTECH ถือเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจใหม่ หากผู้ลงทุนต้องการติดตาม สามารถติดตามได้ แต่ควรให้ลักษณะเป็นการเทรดดิ้งเหมือนกับ DELTA
อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังคงต้องระมัดระวังผลประกอบการงบไตรมาส 3/68 เนื่องจากผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็ง ทำให้ผลประกอบการที่ออกมายังมีความไม่แน่นอน
นายวิเลิศ อรวรรณวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTECH เปิดเผยว่า PTECH จะถูกปลดเครื่องหมาย “SP” (Suspension) และกลับมาดำเนินการซื้อขายหลักทรัพย์ได้ตามปกติ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. 68 ภายหลังจากการแก้ไขสัดส่วนกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ได้ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่ ตลท.กำหนด โดยมีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่น้อยกว่า 150 ราย และมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่า 15% ของทุนชำระแล้ว
ทั้งนี้ข้อมูลรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 2 ต.ค. 2568 บริษัทมีผู้ถือหุ้นรายย่อย (Non-Strategic Shareholder) จำนวน 457 ราย ถือหุ้นรวมกันจำนวน 59,613,968 หุ้น หรือคิดเป็น 16.23% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วของบริษัท
ปัจจุบัน PTECH ดำเนินธุรกิจผลิตบัตรเครดิต (Visa & MasterCard) และเป็นผู้นำด้านการผลิตบัตรพลาสติกประเภทต่างๆ รวมถึงให้บริการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลลงบนบัตร ซึ่งมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง จากการเข้ารับงานในโครงการสำคัญต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน อาทิ บัตร Rabbit ของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บัตรพลาสติกของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ เช่น CardX ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บัตรจากสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. และ ธอส. รวมถึงโครงการภาครัฐ เช่น บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) ของกรมการปกครอง
อย่างไรก็ตามจากการประเมินแนวโน้มของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พบว่าธุรกิจรับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Manufacturing Services: EMS) อยู่ในช่วงของการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในส่วนของ PCB assembly และ system assembly ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรม จึงได้มีมติขยายธุรกิจเข้าสู่สายธุรกิจ EMS
“การเข้าสู่ธุรกิจ EMS ถือเป็นการต่อยอดที่สำคัญของบริษัท และคาดว่าจะเป็นธุรกิจที่สามารถสร้าง New S-Curve ที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความยั่งยืนในระยะยาว รวมถึงเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ลดการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจหลักเพียงประเภทเดียว พร้อมเพิ่มความสมดุลระหว่างรายได้ที่มั่นคงจากธุรกิจดั้งเดิม กับรายได้ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงจากธุรกิจใหม่ นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ถือหุ้น และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและคู่ค้าได้อย่างยั่งยืน” นายวิเลิศ กล่าว
ปัจจุบัน PTECH อยู่ระหว่างการปรับพื้นที่และติดตั้งโรงงาน รวมถึงลงทุนในเครื่องจักร SMT ระบบทดสอบคุณภาพ และการจัดตั้งทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจใหม่ด้าน EMS โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตและส่งออกได้ภายในปี 2568