บล.บัวหลวง มองไทยโดนภาษีทรัมป์ เทียบเวียดนาม ใครได้ประโยชน์?

บล.บัวหลวง ประเมินไทยโดนภาษีทรัมป์เทียบเวียดนาม 3 กรณี เก็บ ”เท่า“ กระทบกำไร SET “จำกัด” เก็บ ”ต่ำกว่า“ เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันราคา แต่เก็บ”สูงกว่า“ จะเป็นความเสี่ยง
นายพิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐาน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง กล่าวว่า มาตรการภาษีทรัมป์คาดกระทบส่งออกและกำไรบริษัทมากสุดในไตรมาส 3/2568 หากประเมินผลกระทบต่อกำไร SET
หากไทยเทียบกับเวียดนาม ไทยโดนภาษีนำเข้าที่ 20% และภาษีทางผ่าน 40% หรือเท่าเวียดนาม ประเมินผลกระทบโดยตรงจำกัด โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทที่ส่งออกไปสหรัฐฯ คิดเป็นราว 2% ของรายได้รวมของ SET
กลุ่มที่ส่งออกไปสหรัฐฯ สูง ได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA KCE HANA ราว 20% ของรายได้) กลุ่มอาหาร (TU ITC ราว 30-50%) กลุ่มยานยนต์ (SAT ราว 5%)
นอกจากนี้ อาจกระทบทิศทางการลงทุนต่างชาติ การย้ายฐานการผลิตจากมาตราการภาษีทางผ่าน ซึ่งกดดันกำไรกลุ่มนิคมฯ
แต่อีกกรณี เราประเมินว่า หากภาษีนำเข้าที่ไทยใหญ่โดนเรียกเก็บ “ต่ำกว่า” เวียดนามในระดับที่มีนัย (มากกว่า 10% ขึ้นไป) จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของไทยสูงขึ้น ประเมินว่ามีโอกาสที่จะเห็นการเปลี่ยนคำสั่งซื้อมาที่ผู้ประกอบการไทยมากขึ้น
กลุ่มสินค้าที่ทั้งไทยและเวียดนามส่งออกไปสหรัฐฯ ที่อยู่ใน segment เดียวกัน/ระดับคุณภาพใกล้เคียงกัน ได้แก่ กลุ่มอาหารกระป๋อง (TU ส่งออกไปสหรัฐฯ ราว 40% ของรายได้), กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง (ITC ราว 50% ของรายได้) , กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (KCE ราว 20%, CCET)
อย่างไรก็ตาม หากภาษีที่ไทยโดนเรียกเก็บ “สูงกว่า” ก็อาจเป็นความเสี่ยงต่อไทยเช่นกัน







