S&P 500 ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน แม้สหรัฐถูกหั่นเครดิต

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นตลาดวอลล์สตรีทสหรัฐวันจันทร์(19 พ.ค.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงจากระดับสูงสุด และนักลงทุนพยายามมองข้ามการปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ของมูดี้ส์

S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงตลาดโดยรวมปรับตัวขึ้น 0.09% และปิดที่ 5,963.60 จุด ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ดัชนี Nasdaq Composite

ปรับตัวขึ้น 0.02% ปิดที่ 19,215.46 จุด ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ปรับตัวขึ้น 137.33 จุด หรือ 0.32% และปิดที่ 42,792.07 จุด

ดัชนี 30 หุ้นได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้น UnitedHealth ซึ่งดีดขึ้น 8% หลังจากการขายอย่างหนักเมื่อไม่นานนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ลงหนึ่งขั้นจาก Aaa เป็น Aa1 ทำให้มูดี้ส์อยู่ในสภาพเดียวกันกับคู่แข่งที่ปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐไปก่อนแล้ว โดยมูดี้ส์อ้างถึงความท้าทายด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกับการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลกลาง และผลสืบเนื่องของการต่ออายุหนี้สหรัฐ ที่มีอยู่ในช่วงที่มีต้นทุนการกู้ยืมสูง

การปรับลดอันดับหนี้กดดันราคาพันธบัตร และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนสูงขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังรอผลกระทบเต็มรูปแบบจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

โดย ณ จุดสูงสุดในรอบการซื้อขาย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 30 ปีพุ่งสูงขึ้นกว่า 5% ในวันจันทร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งสูงขึ้นถึง 4.5% ซึ่งเป็นระดับที่กระทบต่อตลาดหุ้นในเดือนที่แล้ว และช่วยผลักดันให้ทรัมป์ลดมาตรการภาษีศุลกากรที่เข้มงวดที่สุดลง อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อที่อยู่อาศัยนั้นใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี

หุ้นปรับขึ้น หลังบอนด์ยีลด์ถอยกลับ

ณ จุดต่ำของตลาดหุ้นในวันจันทร์ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงมากกว่า 300 จุด และดัชนี S&P 500 ร่วงลงประมาณ 1% อย่างไรก็ตาม ดัชนีหลักๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงจากจุดสูงสุด

“รายงานของมูดี้ส์ไม่ได้เน้นย้ำถึงสิ่งที่นักลงทุนทุกคนไม่ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของสหรัฐ” รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักวิเคราะห์การลงทุนของโบรกเกอร์ Baird กล่าว “สำหรับผม รายงานนี้เป็นเพียงการช่วยคลายความกังวลเล็กน้อยสำหรับตลาด ไม่ได้เปลี่ยนมุมมองเชิงบวกของเราที่มีต่อแนวโน้มในอีก 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้า”

ปัจจุบัน นักลงทุนมองว่าข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ตลาดหุ้นกลับมาฟื้นตัว หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นไม่ทำให้บรรดานักลงทุนหวาดกลัวก่อน

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์