สงครามการค้าไม่จบ จีนขึ้นภาษีพลาสติกจากสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น

จีนยังเดินหน้าสู้สงครามการค้าที่เริ่มโดยสหรัฐฯต่อไป ล่าสุดขึ้นอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดสำหรับพลาสติกนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และไต้หวัน
รอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ ( 18 พ.ค.) จีนประกาศขึ้นอัตราภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดสูงถึง 74.9% สำหรับการนำเข้าโคพอลิเมอร์ POM ซึ่งเป็นพลาสติกวิศวกรรมชนิดหนึ่งจากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และไต้หวัน
กระทรวงพาณิชย์ของจีนสรุปผลการสอบสวนที่เริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2567 ไม่นานหลังจากที่สหรัฐอเมริกาเพิ่มอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้า ชิปคอมพิวเตอร์ และสินค้านำเข้าอื่นๆ ของจีนอย่างรวดเร็ว
กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าโคพอลิเมอร์ POM สามารถทดแทนโลหะ เช่น ทองแดงและสังกะสีได้บางส่วน และมีการใช้งานต่างๆ รวมถึงในชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์
ในเดือนมกราคม กระทรวงฯ กล่าวว่าการสอบสวนเบื้องต้นได้กำหนดว่าการทุ่มตลาดกำลังเกิดขึ้น และได้ดำเนินการมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดเบื้องต้นในรูปแบบของวางเงินประกันเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม
ตามประกาศเมื่อวันอาทิตย์ อัตราภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดสูงสุดที่ 74.9% ถูกเรียกเก็บจากการนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การส่งออกของยุโรปจะต้องเผชิญกับภาษี 34.5%
จีนกำหนดภาษีนำเข้า 35.5% สำหรับการนำเข้าจากญี่ปุ่น ยกเว้นจากบริษัท Asahi Kasei Corp ที่ถูกเรียกเก็บในอัตราภาษีเฉพาะบริษัทที่ 24.5%
ภาษีนำเข้าทั่วไป 32.6% ถูกเรียกเก็บจากการนำเข้าจากไต้หวัน ในขณะที่บริษัท Formosa Plastics ถูกเก็บภาษี 4% และ Polyplastics Taiwan เสียภาษี 3.8%
ตลาดมีความหวังมากขึ้น จากที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มคลี่คลายลงหลังทั้งสองฝ่ายประกาศเมื่อวันจันทร์ (12 พ.ค.) ว่าได้ตกลงที่จะลดภาษีศุลกากรซึ่งกันและกันในช่วงสงบศึก 90 วัน ซึ่งสื่อโกลบอลไทมส์ กระบอกเสียงของรัฐบาลจีน กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าควรขยายข้อตกลงออกไป
ขณะที่กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) เตือนถึง “ความท้าทายพื้นฐาน” ที่ระบบการค้าโลกกำลังเผชิญในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์หลังการประชุมที่เกาหลีใต้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐประกาศตั้งกำแพงภาษีศุลกากรกับทั่วโลกเมื่อวันที่ 2 เมษายน ถือเป็นจุดเริ่มต้นสงครามการค้าโลกครั้งใหญ่







