S&P 500 พุ่งขึ้นเกือบ 2%  แม้ทรัมป์และเซเลนสกีโต้เถียงกันเดือด

ซีเอ็นบีซีรายงานภาวะตลาดหุ้นสหรัฐวันศุกร์ ( 28 ก.พ.) ว่า ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.59%  ปิดที่ 5,954.50 จุด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 601.41 จุด หรือ 1.39% ปิดที่ 43,840.91 จุด และ ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 1.63% ปิดที่ 18,847.28 จุด

การซื้อขายในวันศุกร์มีการย่อตัวลงเล็กน้อยหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนปะทะคารมกันรุนแรงที่ห้องทำงานรูปไข่ ต่อหน้ากล้องทีวีถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงมากขึ้น

แต่ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อปิดตลาดวันศุกร์ ส่วนหนึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการปรับสมดุลของดัชนีและการซื้อทางเทคนิคอื่นๆ มีความไม่สมดุลในการซื้อขายอย่างมากโดยมีคำสั่งซื้อเข้ามามากในช่วงใกล้ปิดตลาดของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

นับตั้งแต่ต้นเดือน ดัชนี Nasdaq ร่วงลงเกือบ 4% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการร่วงลง 3.5% ในสัปดาห์นี้ ถือเป็นเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดของดัชนีที่เน้นหุ้นเทคโนโลยีตั้งแต่เดือนเมษายน 2024

ดัชนี S&P 500 ร่วงลงประมาณ 1% ในสัปดาห์นี้ และ 1.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะเดียวกัน ดัชนี Dow สามารถทำผลงานได้ดีกว่า โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 1% ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นเดือน ดัชนี 30 หุ้นร่วงลง 1.6%

ดัชนีสำคัญติดลบในช่วงสั้นๆ ในวันศุกร์ หลังจากทรัมป์ พร้อมด้วยรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ โต้เถียงกับเซเลนสกีในช่วงเวลาพิเศษต่อหน้าสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาว ผู้นำทั้งสองพบกันในวันศุกร์เพื่อเจรจาข้อตกลงสิทธิเข้าถึงแร่ธาตุในยูเครนของสหรัฐ ซึ่งนักลงทุนหวังว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการยุติสงครามกับรัสเซียในที่สุด

“คุณต้องทำข้อตกลง หรือไม่เช่นนั้นเราก็ต้องถอนตัวออกไป” ทรัมป์กล่าวกับเซเลนสกีในบางช่วง “คุณกำลังพนันกับสงครามโลกครั้งที่ 3”

จากนั้นทรัมป์โพสต์ลงบน Truth Social ว่า เซเลนสกี “ไม่พร้อมสำหรับสันติภาพ หากอเมริกาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”

“เขาสามารถกลับมาได้เมื่อเขาพร้อมสำหรับสันติภาพ” ประธานาธิบดีกล่าวเสริม โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนโดยเร็วในระหว่างการหาเสียงของเขา

ดัชนีความผันผวน ( Cboe Volatility Index)ซึ่งเป็นมาตรวัดความกลัวในตลาดวอลล์สตรีท พุ่งสูงขึ้นเมื่อผู้นำทั้งสองโต้เถียงกัน ดัชนีพุ่งขึ้นแตะระดับ 22.40 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.

“ผมรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เพิ่งเห็น” จิม เลเบนธัล นักลงทุนจาก Cerity Partners กล่าวในรายการ “Halftime Report” ของซีเอ็นบีซี “หากนโยบายด้านกิจการต่างประเทศในขณะนี้ไปเพิ่มอำนาจให้รัสเซียและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผมไม่คิดว่านั่นจะดีสำหรับตลาดหุ้น ผมไม่คิดว่านั่นจะดีสำหรับเศรษฐกิจโลก ผมพบว่ามันยากที่จะหาเหตุผลอื่น” เลเบนธัลกล่าวเสริม