SAVตั้งใจ | ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ SAVตั้งใจ

    ปลุกปั้นพร้อมหมายมั่นมาตลอด “เฮียเผือก” วัฒน์ชัย  วิไลลักษณ์ กลุ่มสามารถ เตรียมการนำหุ้น SAV เข้าตลาดหุ้นไทยได้สำเร็จ 

       ถือว่าเป็น “ธุรกิจดาวเด่น” ดวงใหม่ของกลุ่มภายใต้สัมปทานยิงยาว 28 ปี บริหารการจราจรทางอากาศแต่เพียงผู้เดียวของประเทศกัมพูชา ราคาเลยสมน้ำสมเนื้อ 19.00 บาท 

       ปรากฎทำเซนติเมนต์ ราคาหุ้นต่ำจองแบบผิดฟอร์มไปไกล ราคาเปิด 18.80 บาทต่ำจองแล้ว ราคาปิดยังหลุดจอง ลงไปอยู่ที่ 15.30 บาท ลดลง เกือบ 20 %!!

       โฉมหน้าบรรดา ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คับคั่งไปด้วยกลุ่ม "SAMART -กองทุน -ประกันสังคมและรายใหญ่" ซึ่งทุกรายต่างยืนยันล็อกหุ้นไว้แน่

      ส่วนที่ทำเอา “ราคาร่วง”  น่ากลัวจะมี ใครมี “หุ้นเกินมาแอบขาย ” แบบเตี๊ยมไว้แล้วละซิ 

๐๐๐

     ตลาดหุ้นไทยอาการไม่ค่อยจะสู้ดี! ดิ่งแรงจนหลุดแนวรับสำคัญ 1,500 จุด หลังตลาดหุ้นโลกร่วงหนัก จากบอนด์ยีลด์ที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง เนื่องจากมองว่าเฟดน่าจะคงดอกเบี้ยสูงไปอีกนานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ สร้างแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

     ขณะที่ฟันด์โฟลว์ไหลออก เงินบาทอ่อนค่าแรง แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอ ล่าสุดศูนย์วิจัยกสิกรไทยหั่นคาดการณ์จีดีพีปี 2566 เหลือ 3% จาก 3.7% ส่วนวันนี้ (27 ก.ย.) ต้องรอติดตามการประชุม กนง. ซึ่งตัวเลือกน่าจะเป็นไปได้แค่ 2 ทาง คือ “คง” หรือ “ขึ้น” ดอกเบี้ย?

๐๐๐

 

     โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,494.02 จุด ลดลง 13.34 จุด หรือ 0.88% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,514.90 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,494.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,612.57 ล้านบาท

     นักลงทุนต่างชาติขาย 834.51 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขาย 37.90 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 872.05 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อ 1,744.47 ล้านบาท

๐๐๐

     CPALL เป็นหนึ่งในหุ้นไม่กี่ตัวที่ระหว่างวันยืนบวกได้ ​ทำจุดสูงสุด 61.50 บาท ส่วนหนึ่งได้รับจิตวิทยาเชิวบวก หลัง ครม. ไฟเขียวพักหนี้เกษตรกร 2.7 ล้านราย เป็นเวลานาน 3 ปี ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายพี่น้องเกษตรกรไทย หนุนกำลังซื้อคึกคักขึ้นตามไปด้วย

     รวมทั้งยังเป็นหุ้นใหญ่ที่คาดได้อานิสงส์จากการทำ Window Dressing แต่สุดท้ายปิดเสมอตัว 61 บาท

๐๐๐

    หุ้นนิคมฯ WHA ยังคงเนื้อหอมสุดๆ โดยล่าสุดทางผู้บริหารหญิงคนเก่ง “จูน” จรีพร จรีพร จารุกรสกุล ประกาศปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินรอบใหม่เป็น 2,750 ไร่ จาก 2,500 ไร่ หลังดีมานด์จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนชาวจีนที่ขยายฐานการผลิตและย้ายฐานการผลิตออกมานอกประเทศ คาดว่าภายในปีนี้น่าจะปิดดีลขายที่ให้ค่ายอีวีจีนอีก 2 บริษัท รวม 800-900 ไร่

    นอกจากนี้ หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ร่วมเดินทางไปสหรัฐกับคณะของนายกฯ และได้มีโอกาสพบกับผู้บริหารบริษัทชั้นนำมากมายของโลก ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หวังว่าจะทำให้บริษัทได้ฐานลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม

๐๐๐

    ส่วนหุ้น NEX ดิ่งแรง 6.56% ปิด 11.40 บาท หลังเกิดอุบัติเหตุรถเมล์ไฟฟ้า NEX-MINEBUS ของเครือไทยสมายล์บัสเบรกแตกพุ่งชนรถ 14 คัน บนถนนพระราม 2 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

    ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของตัวรถ ทั้งระบบไฟฟ้าและระบบเบรก แต่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานขับรถ