หุ้นไทยวันนี้ (24 ก.ค.) ปิดตลาด ลบ 5.44 จุด ผู้ตรวจฯ ส่งคำร้องศาลรธน. กรณีพิธา

หุ้นไทยวันนี้ (24 ก.ค.) ปิดตลาด ลบ 5.44 จุด ผู้ตรวจฯ ส่งคำร้องศาลรธน. กรณีพิธา

หุ้นไทยวันนี้ (24 ก.ค.) ตลาดหุ้นปิดที่ 1,523.81 จุด ลบ 5.44 จุด หรือ 0.36% บล.ลิเบอร์เรเตอร์ ชี้ ประเด็นผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องการเสนอชื่อ พิธา เป็นนายกอีกครั้งเป็นการเสนอญัตติซ้ำหรือไม่ ซึ่งจะทราบผลว่าศาลฯ จะรับพิจารณาหรือไม่ในวันพุธ คาดพรุ่งนี้ไซด์เวย์รอ

“หุ้นไทยวันนี้” (18 ก.ค.) ความเคลื่อนไหวตลาด ตลาดหุ้นปิด อยู่ที่ 1,523.81 จุด ลบ 5.44 จุด หรือ 0.36% โดย หุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวขึ้นในตอนเช้า และย่อตัวลงในตอนบ่ายซึ่ง ดัชนีตลาดหุ้นไทย ทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,520.77 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,537.15 จุด มูลค่าซื้อขาย 50,479.55 ล้านบาท

หุ้นไทยวันนี้ (24 ก.ค.) ปิดตลาด ลบ 5.44 จุด ผู้ตรวจฯ ส่งคำร้องศาลรธน. กรณีพิธา

หุ้นไทยที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

  1. KBANK   มูลค่า 9,632.03 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 124.50 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 3.49%
  2. BBL มูลค่า 2,532.48 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 2.13%
  3. SCB มูลค่า 2,511.17 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 107.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 2.71%
  4. KKP มูลค่า 1,623.43 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 55.75 บาท ลดลง 4.75 บาท หรือ 7.85%
  5. KTB มูลค่า 1,611.25 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 20.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงไปจากราคาปิดก่อนหน้า

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ลิเบอร์เรเตอร์ กล่าวว่า ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า แต่พอหลังจากเปิดการซื้อขายช่วงบ่ายปรับตัวลดลงเนื่องจากประเด็นที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการลงมติของที่ประชุมรัฐสภา ว่าการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นการเสนอญัตติซ้ำหรือไม่

โดยประเมินว่าวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) ดัชนีฯ มีโอกาสเคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์ออกข้างรอฟังข่าวในวันพุธที่ 26 ก.ค. ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องหรือไม่ แล้วถ้ารับเรื่องจะวินิจฉัยออกมาในทิศทางใด ซึ่งการประชุมจะเกิดขึ้นในวันพุธ ดังนั้นพรุ่งนี้อาจแกว่งตัวในกรอบ 1,515 - 1,535 จุด

ด้านคำแนะนำในการลงทุน แนะนำหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 2 ในกลุ่มภาคการผลิต (Real Sector) จะดี แนะนำ Plan B ในขณะเดียวกันในระยะยาว แม้ช่วงนี้การเมืองจะผันผวน แต่ท้ายที่สุดก็มีแนวโน้มว่าเพื่อไทยอาจมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นหุ้นกลุ่มการเมืองจึงเหมือนปรับตัวลดลงเพื่อรอวันรีบาวด์ ดังนั้นแนะนำ ADVANC และ GULF