'ฝีดาษวานร' ยังระบาด! หลังสงกรานต์ติดเชื้อพุ่ง แนะวิธีป้องกัน-สังเกตอาการ

'ฝีดาษวานร' ยังระบาด! หลังสงกรานต์ติดเชื้อพุ่ง แนะวิธีป้องกัน-สังเกตอาการ

แพทย์เตือนอย่าประมาท 'ฝีดาษวานร' หรือ 'ฝีดาษลิง' ยังระบาด! กรมควบคุมโรค เผยข้อมูลต้นปี 67 พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แนะวิธีป้องกัน-สังเกตอาการ

วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 นายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ 'โรคฝีดาษวานร' หรือ ฝีดาษลิง ในประเทศไทย ตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกในเดือนกรกฎาคม 2565 จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 มีรายงานผู้ป่วยรวม 787 ราย เป็นเพศชาย 768 ราย (ร้อยละ 97) ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เชียงใหม่ ระยอง และอุดรธานี ตามลำดับ

และข้อมูลตั้งแต่ต้นปี 2567 ที่ผ่านมา มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อฝีดาษวานร หรือ โรคฝีดาษลิง เพิ่มขึ้นเป็นระยะ และเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน (หลังเทศกาลสงกรานต์) จนถึงเดือนพฤษภาคม จึงต้องเฝ้าระวัง พร้อมป้องกัน ลดเสี่ยง ลดโรค

 

 

วิธีสังเกตอาการเสี่ยงติดฝีดาษวานร หรือ โรคฝีดาษลิง

วิธีสังเกตอาการเสี่ยงติดฝีดาษวานร หากมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้สงสัยฝีดาษวานร หรือการสัมผัสใกล้ชิด แนบแน่น กอดจูบ ลูบ คลำ พูดคุยระยะ 1 เมตร โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือเคยดูแลผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานร ให้สังเกตอาการตนเองเบื้องต้น ภายหลังสัมผัสผู้ป่วย หรือมีความเสี่ยงภายใน 21 วัน หากมีผื่น มีตุ่มน้ำ ตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือบริเวณรอบๆมือ เท้า หน้าอก ใบหน้า ปาก มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณหลังหู คอ ขาหนีบ ให้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล หรือสถานบริการสุขภาพใกล้บ้านทันที เพื่อตรวจหาเชื้อได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

จากนั้นจะทราบผลตรวจภายใน 1-5 วัน ซึ่งระหว่างรอผลตรวจนั้น แนะนำให้แยกของใช้ส่วนตัว และแยกพื้นที่กับผู้ที่อยู่ร่วมบ้าน ที่พัก หรือสถานที่ทำงาน ไม่ใช้จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ และของใช้ต่างๆ ร่วมกับผู้อื่น และสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการส่งต่อเชื้อ เนื่องจากสามารถติดได้จากการสัมผัสใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำถึงผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือภูมิคุ้มกันต่ำ หากมีอาการให้รีบพบแพทย์ทันที อย่าชะล่าใจเนื่องจากมีอาการรุนแรงได้

 

\'ฝีดาษวานร\' ยังระบาด! หลังสงกรานต์ติดเชื้อพุ่ง แนะวิธีป้องกัน-สังเกตอาการ

 

 

เตือนอย่าประมาท โรคฝีดาษวานร มีโอกาสติดได้ทุกคน

นายแพทย์วีรวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า ประชาชนทุกคนไม่ควรประมาท โรคฝีดาษวานรติดได้ทุกคน หากมีพฤติกรรมเสี่ยง โดยสามารถป้องกันโรคฝีดาษวานรได้ ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนไม่รู้จัก
  2. ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วย เช่น เสื้อผ้า ผ้าขนหนู เครื่องนอน เป็นต้น
  3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีผื่นสงสัยโรคฝีดาษวานร
  4. ไม่คลุกคลี หรือสัมผัส ตุ่ม หนอง หรือบาดแผลของสัตว์ที่ติดเชื้อ ซากสัตว์ป่า และบริโภคเนื้อสัตว์ปรุงสุก โดยเฉพาะกลุ่มสัตว์ฟันแทะที่นำเข้าหรือมีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาตอนกลาง เช่น หนูแกมเบียน กระรอกดิน
  5. หมั่นล้างมือบ่อยๆ

นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงไปในสถานที่ที่มีกิจกรรมการรวมตัว หรือกิจกรรมพบปะสังสรรค์ที่อาจเสี่ยงติดโรคฝีดาษวานร ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถป้องกันฝีดาษวานรได้ กรมควบคุมโรคห่วงใย อยากเห็นคนไทยสุขภาพดี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

 

\'ฝีดาษวานร\' ยังระบาด! หลังสงกรานต์ติดเชื้อพุ่ง แนะวิธีป้องกัน-สังเกตอาการ

 

\'ฝีดาษวานร\' ยังระบาด! หลังสงกรานต์ติดเชื้อพุ่ง แนะวิธีป้องกัน-สังเกตอาการ นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค