หางเลข TOA |ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ หางเลข TOA

   มหากาพย์ - กลทุจริต ที่เกิดขึ้นกับ STARK ยิ่งสาวลึกยิ่งพากันตื่นตะลึงกันทั้งตลาดเงิน - ตลาดทุน หลังมีการออกมาให้ข้อมูลของฝ่าย “จำเลย” ระบุผู้อยู่เบื้องหลัง มี 3 ตัวละครหลัก ที่ทั้งสั่งการ และได้รับผลประโยชน์ 

   ถึงขั้นซัดข้อมูลกันคนละหมัดเพราะความผิดระดับนี้  “โทษหนักเอาการ” ยิ่งมีเกี่ยวคนในตระกูลดังพาเอาระทึกไปหมด และพาเกี่ยวพันกับหุ้นใหญ่ TOA ในฐานะมีรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ STARK  คือ “ตั้งคารวคุณ” 

    ​ปลายสัปดาห์ DSI ออกหมายเรียกผู้ต้องหาเข้ารับทราบทั้ง "ชนินทร์ เย็นสุดใจ“  อดีตประธานกรรมการบริษัท และ ”ศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ" อดีตกรรมการบริษัท 

     ฝ่ายหลังเดินสายให้ข้อมูลกับ ก.ล.ต. และสื่อมวลชน ไล่ความเป็นมาตั้งแต่ STARK เข้าทำการ Back Door   และการตกแต่งบัญชีโยงไปยังประเด็นอื่นๆ จนใครฟังพากันฮือฮาทั้งวงการ  !! 

    เรื่องยังไม่เคลียร์ - มีประเด็นเพิ่มเติม  ไม่แปลกใจที่หุ้นเกี่ยวตรงๆ ต้องเจอหางเลขไปตามระเบียบ 

๐๐๐

ตลาดหุ้นไทยบวกต่อเป็นวันที่ 4 ตอบรับปัจจัยการเมืองคืบหน้า หลังสภาฯ มีมติเอกฉันท์เลือก “วันนอร์” นั่งเก้าอี้ประธานสภาฯ ส่วนรองประธานคนที่ 1 เป็นของ “ก้าวไกล” และคนที่ 2 เป็นของ “เพื่อไทย” หลังจากนี้ต้องรอติดตามการโหวตเลือกนายกฯ ต่อไป

โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,515.31 จุด เพิ่มขึ้น 8.47 จุด หรือ 0.56% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,520.02 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,502.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,294.35 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขาย 294.89 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 478.21 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 2,073.93 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขาย 1,300.83 ล้านบาท

๐๐๐

“หุ้นแบงก์” วิ่งนำตลาด พร้อมใจบวกกันอย่างคึกคัก เก็งกำไรงบฯ ไตรมาส 2 ปี 2566 โตเด่น ขณะที่ ธปท. ให้ความมั่นใจว่าแม้แนวโน้มหนี้เสียจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่จัดการได้

ส่วนอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องรอติดตามคือ มาตรการแก้หนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะครอบคลุมกลุ่ม “ลูกหนี้เรื้อรัง” หลังมีกระแสข่าวว่าหากปิดหนี้ไม่ได้ภายใน 4 ปี แบงก์หรือเจ้าหนี้ต้องลดดอกเบี้ยให้ลูกหนี้สูงสุด 12% แน่นอนว่าหากเกิดขึ้นจริงย่อมมีผลกระทบต่อแบงก์ และนอนแบงก์

๐๐๐

ส่วน CRC ช่วงนี้วอลุ่มดูจะคึกคักเป็นพิเศษ ล่าสุดราคาหุ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญ 40 บาท มาปิด 40.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 3.21% ซึ่งทุกโบรกเกอร์ ประสานเสียงงบไตรมาส 2 ปี 2566 โตแกร่ง ตามการฟื้นตัวของการบริโภค 

ส่วนยอดขายในต่างประเทศจะได้รับอานิสงส์ หลังเวียดนามประกาศลด VAT จาก 10% เหลือ 8% ตั้งแต่ ก.ค.-ธ.ค. นี้

๐๐๐

WHA-AMATA ควงคู่บวกตามกันมาติดๆ โดย WHA ปิด 4.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท หรือ 3.49% และ AMATA ปิด 22.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 3.65% ตอกย้ำว่าหุ้นนิคมฯ ไทยช่วงนี้ยังเนื้อหอมสุดๆ หลังบิ๊กอีวีจีนหลายค่ายสนใจอยากเข้ามาตั้งฐานการผลิต ซึ่งแน่นอนว่าย่อมต้องมองหานิคมฯ ที่มีศักยภาพ

ล่าสุดบีโอไอได้เดินสายโรดโชว์ที่จีน มีโอกาสพูดคุยกับ 2 แบรนด์ใหญ่ “ฉางอัน” และ “เฌอรี” ออโตโมบิล ค่ายอีวีอันดับ 5 และ 6 ของจีน

โดย “ฉางอัน” คอนเฟิร์ม! แผนตั้งโรงงานในไทย ซึ่งเฟสแรกจะใช้เงินลงทุนกว่า 9 พันล้านบาท

ส่วน “เฌอรี” ก็สนใจเช่นกัน ตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน อีกค่ายใหญ่ “GAC Aion” ประกาศปักหมุดลงทุนในอีอีซีเช่นกัน

๐๐๐

ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการสายการบินออกมาเรียกร้องให้รัฐขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินจาก 4.726 บาท/ลิตร เหลือ 0.20 บาท/ลิตร ออกไปอีกจากเดิมจะสิ้นสุด 1 ก.ค. ที่ผ่านมา

แต่ล่าสุดกรมสรรพสามิตยืนยันแล้วว่า จะไม่มีการต่อเวลาออกไปอีก หรือให้การช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากธุรกิจการบินฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว กลายเป็นจิตวิทยาเชิงลบ ฉุดหุ้น BA ดิ่งสวนกระดาน ปิด 15.70 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 0.63% ส่วน AAV ปิดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.70 บาท

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์