"หุ้นไทย" กลับมาร่วง 14 จุด ผวา "เคดิต สวิส" เกิดวิกฤติลามต่อ
“หุ้นไทย” ปิดตลาดเช้านี้ (16 มี.ค. 66) เวลา 12.30 น. ดัชนีเปิดอยู่ที่ 1,550.86 จุด ปรับตัวลดลง 14.14 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.90 % มูลค่าการซื้อขาย 38,721.10 ล้านบาท
โดยระหว่างวันดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,550.92 จุด และทำจุดต่ำสุด 1,538.10 จุด
5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ
- PTTEP ปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 5.54%
- KBANK ปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 1.52%
- SCB ปิดที่ 99.00 บาท ลดลง 1.98%
- BANPU ปิดที่ 10.20 บาท ลดลง 3.77%
- AOT ปิดที่ 70.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย ในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นไปตาม Sentiment ของตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่ปรับลดลงตามกัน จากความกังวลของ ธนาคารเครดิต สวิส ที่ประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้เกิดความกังวลอีกครั้งว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะลุกลามในวงกว้างกับธนาคารอื่นๆในยุโรป แม้ธนาคารกลางสวิสจะยื่นมือเข้ามาช่วย แต่คนก็ยังไม่มั่นใจ และขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา
โดยที่ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันเข้ามามาก จากแรงขายหุ้นแบงก์ออกมากดดัน แม้ว่าจะไม่ได้มีผลกระทบต่อแบงก์ไทยก็ตาม แต่มีผลกระทบในเชิงของ Sentiment ที่ได้รับมา และแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่ปรับตัวลงหลังราคาน้ำมันปรับตัวลงแรงกดดัน
แนวโน้มในช่วงบ่ายมองว่าดัชนียังเคลื่อนไหวแดนลบต่อ โดยที่สถานการณ์ปัจจัยภายนอกตอนนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ตลาดมีความผันผวนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งยังอยู่ในช่วงที่ wait and see เพื่อรอความชัดเจนของปัจจัย แต่ยังมองโอกาสเป็นการเก็บหุ้นพื้นฐานดีได้ในจังหวะที่ย่อตัวลงมา
โดยให้แนวต้าน 1,560-1,565 จุด แนวรับ 1,535-1,540 จุด