ตลาดหุ้นไทยใครว่าหมดหวัง เมื่อ "เลือก" ถูกก็เป็นผู้ชนะในรอบทศวรรษได้

ตลาดหุ้นไทยใครว่าหมดหวัง เมื่อ "เลือก" ถูกก็เป็นผู้ชนะในรอบทศวรรษได้

สำรวจกองทุนหุ้นไทย สร้างผลตอบแทนได้ดีในรอบทศวรรษ โดย กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A (TSF-A) เป็นหนึ่งกองทุนที่สร้างผลตอบแทนย้อนหลังได้ดี ด้วยนโยบายการลงทุนเชิงรุก เลือกลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดีผ่านการคัดสรรจากผู้จัดการกองทุน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการลงทุนใน ตลาดหุ้นไทย มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับตลาดการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งในแง่ของผลตอบแทนที่ตลาดหุ้นไทย เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศ เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐ แล้วสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ต่ำกว่า หรือในแง่ของบริษัทจดทะเบียนที่ตลาดหุ้นในต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีล้ำสมัย สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน ส่วนตลาดหุ้นไทย ถึงแม้จะเริ่มมีความหลากหลายของบริษัทจดทะเบียนมากยิ่งขึ้น แต่ยังมักถูกกล่าวถึงว่าเต็มไปด้วยบริษัทที่ทำธุรกิจในรูปแบบเดิมและยังเป็นบริษัทใหญ่ๆ ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงเรียกได้ว่า "Old Economy" เป็นหลัก

ในช่วงกว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ยต่อปีราว 5.05% (ผลตอบแทนของดัชนี SETTRI ย้อนหลัง ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565) ถึงแม้จะเป็นระดับผลตอบแทนที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่กับนักลงทุนหลายคนที่ยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นแล้ว อาจมีความคาดหวังผลตอบแทนที่มากกว่านั้น

โดยการลงทุนในตลาดหุ้นไทยผ่านการลงทุนใน กองทุนรวม ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผลตอบแทนที่ได้เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทยจะมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ขึ้นอยู่กับว่า ตัดสินใจเลือกการลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายบริหารในลักษณะแบบ Active หรือ Passive ซึ่งหากลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายการบริหารแบบ Passive ซึ่งก็คือการสร้างผลตอบแทนให้ได้ใกล้เคียงกับระดับดัชนี ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในกองทุนรวมก็จะใกล้เคียงกับผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทย หากว่ากองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนล้อไปตามกับดัชนี SET INDEX

ส่วนการลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายบริหารแบบ Active ที่มุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนให้ได้มากกว่าผลตอบแทนของการลงทุนในดัชนีนั้นก็มีโอกาสทั้ง 2 ทางคือ ผลตอบแทนที่ได้อาจจะจะน้อยกว่า หรือมากกว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยโดยรวมก็ได้

หากสำรวจไปที่กองทุนหุ้นไทยที่สร้างผลตอบแทนได้ดีรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา พบว่า สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูง 9.67% ต่อปี (ข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565) ซึ่งจะเห็นได้ว่า หากเลือกลงทุนในกองทุนที่มีผลการดำเนินงานที่ดีก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าผลตอบแทนที่ได้จากตลาดหุ้นไทยโดยรวมกว่าเท่าตัว และยิ่งหากว่าในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมาการลงทุนเป็นแบบถือครองระยะยาวโดยที่ไม่มีการขายคืนหน่วยลงทุนก็จะสามารถสร้างผลตอบแทนตลอดช่วงระยะเวลาถือครองได้กว่า 97% เลยทีเดียว

ตลาดหุ้นไทยใครว่าหมดหวัง เมื่อ \"เลือก\" ถูกก็เป็นผู้ชนะในรอบทศวรรษได้

กองทุนหุ้นไทยที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาก็คือ กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A (TSF-A) ซึ่งสาเหตุที่กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีอย่างสม่ำเสมอในช่วงที่ผ่านมาก็คือการ "เลือก" ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดีที่ผ่านการคัดสรรจากผู้จัดการกองทุน ใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก โดยเน้นเลือกลงทุนเพียง 10-15 ตัว ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลังได้อย่างโดดเด่น นอกจากนี้แล้วการลงทุนในหุ้นเพียง 10-15 ตัว ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ถือเป็นการสะท้อนความเป็น "Active Fund" ได้อย่างดี

สำหรับการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนของกองทุนในช่วงที่สถานการณ์การลงทุนเปลี่ยนแปลงไป กองทุนก็ยังจะมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยเช่นเดียวกัน

หากหันกลับมามอง ตลาดหุ้นไทย เฉพาะในปี 2023 นี้ ปัจจัยบวกจากทั้งเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับมาเข้าประเทศไทยเป็นจำนวนมหาศาล หรือการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งในอดีตมักจะเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ตลาดหุ้นไทยดูมีความสนใจไม่แพ้การลงทุนในต่างประเทศ

ส่วนในอีกช่วงระยะเวลาอีก 10 ปีต่อจากนี้ คงไม่สามารถมีใครตอบได้ว่าตลาดหุ้นไทยจะกลับมามีความน่าสนใจและดึงดูดมากขึ้นหรือไม่เมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่ในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านผลตอบแทนที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยและกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยก็คงจะแสดงให้นักลงทุนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการ "เลือก" ที่ถูกต้อง สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ ซึ่งเมื่อการ "เลือก" นั้นถูกต้องก็สามารถเป็นผู้ชนะในรอบทศวรรษได้ ไม่ว่าตลาดหุ้นไทยจะดูมีแรงดึงดูดที่ลดลงเพียงใดก็ตาม

คำเตือน :

* ผลการดำเนินงานย้อนหลังอันดับ 1 ช่วงเวลา 5 ปี, 7 ปี และ 10 ปี ในกลุ่มกองทุนหุ้นไทย Small/Mid-Cap ข้อมูลจาก Morningstar ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565
* ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
* ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต