FETCO รอลุ้นการเมืองไทยมีเสถียรภาพหลังเลือกต้้ง หนุน’หุ้นไทย ‘ ไปต่อ

FETCO รอลุ้นการเมืองไทยมีเสถียรภาพหลังเลือกต้้ง หนุน’หุ้นไทย ‘ ไปต่อ

“เฟทโก้” จับจังหวะลงทุนครึ่งหลังปี 66 ดีขึ้น เหตุข่าวลบเริ่มนิ่ง ชี้ “ท่องเที่ยว-ฟันด์โฟลว์” หนุนหุ้นไทยดีทั้งปี รอลุ้นการเมืองมีเสถียรภาพหลังเลือกตั้ง พร้อมมองเป้าดัชนีไตรมาสแรกที่ 1,694 จุด ฟากดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า ยังอยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรง"

สำหรับทิศทางการลงทุนตลาดหุ้นไทยในปี 2566 แม้ช่วงครึ่งปีแรก ยังคงมีความผันผวน ทั้งจากข่าวดีและข่าวร้ายผสมเข้ามา เรียกว่า “3 วันดี 4 วันไข้” แต่ถือว่า มีทิศทางที่ดีกว่าปีก่อนที่เรียกได้ว่า “ต้องหาหลุมหลบภัย-เก็บเงิน”

ดังนั้น การลงทุนในปีนี้จึงเป็นปี "กลับเข้าสู่การลงทุน" และ "ตลาดหุ้น" ไม่จำเป็นต้องรอวิกฤติจบก่อนแล้วถึงปรับตัวดีขึ้น หากเป็นสินทรัพย์ที่ดี-มีแนวโน้มโตในอนาคต ยังเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า   
 

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า เมื่อผ่านช่วงกลางปีนี้ไปแล้ว ที่ปัจจัยลบสร้างความผันผวนในตลาดการลงทุนเริ่มนิ่ง ทั้งสภาพเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และ ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย รวมทั้งการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด ตลาดรับข่าวไปหมดแล้ว ทำให้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ตลาดการลงทุนจะปรับตัวได้ดีขึ้น 

ปีนี้ตลาดทุนไทยถือว่ามีจุดเด่นทำให้แตกต่างจากตลาดอื่น ๆ คือ ภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังโตได้ท่ามกลางการถดถอยของเศรษฐกิจโลก จากท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวดีได้รับอานิสงส์ หลังจีนมีการเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเป็นปัจจัยซัพพอร์ตตลาดหุ้นไทย ช่วยดึงดูดกระแสเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และป็นบวกได้ทั้งปี 

จากปัจจุบันมีเม็ดเงินดังกล่าวไหลเข้ามาแล้วกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท และหนุนดัชนีหุ้นไทยตอนนี้ปรับขึ้นมาใกล้เคียงกับที่ทางสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) คาดช่วงสิ้นไตรมาส 1 ปี 66 ดัชนีหุ้นไทยน่าจะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,694 จุด และสิ้นปีนี้คาดจะยังคงปรับขึ้นไปสู่ระดับ 1,740 จุด ซึ่งถือว่าไปได้ดีจากการปรับเพิ่มขึ้นของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เป็นหลัก

ขณะเดียวกัน สถานการณ์การเมืองไทย ต้องรอผลการเลือกตั้งช่วงกลางปีนี้จะออกมาเป็นอย่างไร คงต้องติดตามต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาตลาดหุ้นไม่เลือกข้าง แต่ชอบความชัดเจนของการเลือกตั้ง ดังนั้น หากเลือกตั้งแล้วการเมืองไทยยังมีเสถียรภาพและไปต่อได้ ตลาดหุ้นไทยยังเดินต่อไปได้แน่นอน  

นายกอบศักดิ์ แนะนำนักลงทุนควรจะติดตามปัจจัยต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบตลาดอย่างใกล้ชิด หากผ่านพ้นครึ่งปีแรกของความผันผวนแล้ว ถือเป็นโอกาสที่ดีการลงทุนในปีนี้ ซึ่งนักลงทุนไม่ควรพลาดโอกาสการกลับเข้าไปลงทุนในปีนี้ เนื่องจากในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า การลงทุนทุกสินทรัพย์ในปีนี้จะสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากแน่นอน

"สินทรัพย์ที่ดีและมีอนาคตสามารถทยอยลงทุนได้ ทั้งหุ้นต่างประเทศราคาปรับตัวลงลึกและโตได้ในอนาคต รวมถึงหุ้นไทยที่ได้รับอานิสงส์ฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย เช่น ท่องเที่ยว ค้าปลีก แบงก์  แต่ไม่ควรซื้อๆ ขายๆ เพราะตลาดยังผันผวน รวมถึงเก็บเงินสดไว้บางส่วนเพื่อเข้าลงทุนเมื่อตลาดลง" 

ด้านดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนธ.ค.65 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ( มี.ค. 65 ) ที่ระดับ 121.75 ปรับตัวลดลง 2.1% จากเดือนก่อน แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง”

ทั้งนี้ นักลงทุนมองการฟื้นตัวท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือผลประกอบการบจ. และการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ , การประกาศจัดเก็บภาษีขายหุ้น และ เงินเฟ้อ ส่วนหมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดพาณิชย์ หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ