ภาษี..บานปลาย |ออฟเรคคอร์ด

ภาษี..บานปลาย |ออฟเรคคอร์ด

ขึ้นว่า “ภาษี” ล้วนแต่ไม่มีใครชอบหลีกได้หลีก - เลี่ยงได้ขอเลี่ยงก่อน ปกติชาวหุ้นก็มักจะไม่ค่อยสนใจเรื่องภาษีว่าจะเก็บแค่ไหนถ้าเกณฑ์ออกมาแล้ว “ยุติธรรม” และ “ใช้กับทุกคน” บนบรรทัดฐานที่ “เท่าเทียม ”

๐๐๐ ภาษี..บานปลาย

            ขึ้นว่า  “ภาษี”  ล้วนแต่ไม่มีใครชอบหลีกได้หลีก - เลี่ยงได้ขอเลี่ยงก่อน     ปกติชาวหุ้นก็มักจะไม่ค่อยสนใจเรื่องภาษีว่าจะเก็บแค่ไหน    ถ้าเกณฑ์ออกมาแล้ว   “ยุติธรรม”  และ “ใช้กับทุกคน” บนบรรทัดฐานที่ “เท่าเทียม”

        ด้วยเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหนีอะไรก็หนีได้แต่จะ “หนีภาษี” แทบเป็นไปได้เลย ... แต่เกณฑ์ ภาษีขายหุ้น  0.1 % ที่คลังดันเข้า ครม.แบบปุ๊บปั๊บแบบ “อุบเงียบ” แม้แต่ในแวดวงตลาดทุนไม่โดนสะกิดสักแอะก็ทำเอาฉงนไปทั้งบาง 

       จนมาถึงเกณฑ์ที่มียกเว้นบาง กลุ่มไม่ต้องเสียภาษี ทั้งกองทุนที่บริหารเงินข้าราชการ  - กองทุนบำเหน็จบำนาญ และ Market Maker   เลยย้อนแย้ง และไม่เข้าคอนเซ็ปต์ที่คลังต้องการ “เก็บภาษีให้เกิดความเป็นธรรมในระบบ !!”  

          ยิ่งมาคำนวณเงินที่คลังจะได้จากภาษีนี้ยัง บวกภาษีท้องถิ่น เข้ามาในฐานภาษีเข้าไปอีก..ก็ไม่รู้ว่าคนที่คิดระบบภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแค่ไหน เพราะวัดจากมูลค่าซื้อขาย 50,000 - 60,000 ล้านบาท ที่ 0.1% ดูจะ  “ไม่คุ้มเสียซะเลย”  

         วัดจะฐานเสียงนักลงทุนที่ถูกมองเป็นคนกลุ่มน้อยแค่ 5 ล้านบัญชี นัดรวมพลังไม่เห็นด้วยหยุด ซื้อ-ขาย วันที่ 8 ธ.ค.นี้  เผื่อ   “เสียงเล็กๆ ” (แต่แรงกระเพื่อมใหญ่)    “ส่งถึงนายกฯ”  ว่าตลาดทุนเค้าโบกมือลา “ไม่เลือก” แล้วนะคราวนี้ 

๐๐๐

หลังหยุดยาวหุ้นไทยกลับมาเทรดวันแรกไม่ค่อยสดใส แกว่งลบตามภูมิภาค โดยหุ้นบิ๊กแคปถูกขายถ้วนหน้า ฟันด์โฟลว์เริ่มไหลออก นำโดยกลุ่มพลังงานหลังโอเปคพลัสมีมติคงกำลังการผลิตไว้เท่าเดิม

โดยดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,632.97 จุด ลดลง 8.66 จุด หรือ 0.53% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,640.87 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,628.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,672.68 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขาย 4,199.43 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อ 420.06 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 35.88 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อ 3,743.49 ล้านบาท

๐๐๐

รอบนี้บรรดาแบงก์พาณิชย์ “เทค แอคชั่น” เร็ว หลังสัปดาห์ก่อน กนง. ขึ้นดอกเบี้ยส่งท้ายปีอีก 0.25% สู่ระดับ 1.25% ล่าสุดมีแบงก์ออกมารับลูกแล้ว

นำทีมโดยธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.125 - 0.25% ต่อปี และดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นสูงสุด 0.45% ต่อปี มีผลทันทีวันนี้ (7 ธ.ค.) ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุดย่อลงมาเล็กน้อย ปิด 104 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 0.95%

๐๐๐

ส่วนหุ้นบมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) ราคาดิ่งแรง 5.12% ปิดที่ 4.08 บาท หลังมีกระแสข่าวขายบ้านหรูให้กลุ่มทุนจีนสีเทา ขณะที่บริษัทรีบร่อนจดหมายชี้แจงย้ำ ขายบ้านให้เฉพาะคนไทย และนิติบุคคลไทยเท่านั้น โดยผู้ซื้อต้องชำระเงินผ่านธนาคาร

และที่สำคัญผู้ถือหุ้นของบริษัทไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายบ้านในทุกกรณี หลังถูกนำชื่อไปเชื่อมโยง

๐๐๐

ไม่ต่างกับเพื่อนในกลุ่ม บมจ.แสนสิริ (SIRI) ถูกเทขายทันทีตั้งแต่เปิดตลาด แต่ดูแล้วน่าจะเป็นแรงขายทำกำไรตามปกติ หลังราคาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ขณะที่พื้นฐานยังไม่เปลี่ยน โดยราคามาปิด1.64 บาท ลดลง 0.07 บาท หรือ 4.09%

๐๐๐

บมจ.กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เร่งเครื่องธุรกิจสีเขียวเต็มสูบ ล่าสุดประกาศจับมือกับ 4 พันธมิตรยักษ์ใหญ่จากสหรัฐ เดินหน้าพัฒนาสินค้าที่มีส่วนผสมจากสารสกัดจากกัญชา-กัญชง ดันราคาหุ้นล่าสุดขึ้นมาปิด 5.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 1.83%

๐๐๐

ส่วนหุ้นน้องใหม่ บมจ.เมคทูวิน โฮลดิ้ง (MTW) เปิดเทรดได้อย่างสวยงาม 7.45 บาท เพิ่มขึ้นกว่า 158% จากราคาไอพีโอที่ 2.88 บาท ระหว่างวันขึ้นไปทำจุดสูงสุด 7.80 บาท 

แต่พอเข้าช่วงบ่ายสถานการณ์พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ หลังค่อยๆ ถูกไล่ทุบลงมา ทำจุดต่ำสุดที่ 3.44 บาท ก่อนปิดการซื้อขาย 3.48 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 20.83% แม้ยังยืนเหนือจองได้อยู่ แต่พอเห็นสัญญาณแบบนี้แล้วน่าหวั่นไม่น้อย

๐๐๐

วันนี้ตามต่ออีกหนึ่งหุ้นน้องใหม่ บมจ.ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ (UBA) ทำธุรกิจบริหารจัดการน้ำ เข้าตลาด mai วันแรก รอลุ้นว่ายืนเหนือจอง 1.70 บาทได้หรือไม่?

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์