ตลท. ต้อนรับ บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ “TEGH” เริ่มซื้อขาย 30 ก.ย. นี้

ตลท. ต้อนรับ บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ “TEGH” เริ่มซื้อขาย 30 ก.ย. นี้

"ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์"  พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 30 ก.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 5,184 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TEGH”  

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เข้าจดทะเบียน และเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ  ในกลุ่มเกษตร และอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจการเกษตร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TEGH”  ในวันที่ 30 กันยายน 2565  

TEGH มีรายได้ส่วนใหญ่ ประมาณร้อยละ 80 ของรายได้รวมจากธุรกิจผลิต และจำหน่ายยางธรรมชาติ โดยแบ่งผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ยางแท่ง และน้ำยางข้น โดยขายให้แก่ผู้ผลิตสินค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยางล้อ รองเท้า และเส้นด้ายยางยืด อีกทั้งบริษัทมีธุรกิจผลิต และจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ

โดยผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น น้ำมันปรุงอาหาร ส่วนผสมอาหาร เนยสด ครีมเทียม นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และบริหารจัดการกากอินทรีย์ที่เหลือใช้จากกระบวนการผลิตนำมาผลิตพลังงานทดแทน เพื่อให้เกิดเป็นระบบเศรษฐกิจสีเขียว ที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่กลุ่มบริษัท 

TEGH มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 1,080 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 810 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) 270 ล้านหุ้น

โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 21-23 กันยายน 2565 ในราคาหุ้นละ 4.80 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,296 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 5,185 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 7.7 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ซึ่งเท่ากับ 671.8 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขาย IPO คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (fully diluted EPS) เท่ากับ 0.6 บาท

โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการ การจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ

นายเฉลิม โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 30 ปี โดยทีมงานผู้บริหารที่มีความรู้ และประสบการณ์ในธุรกิจมาอย่างยาวนาน ทำให้ปัจจุบันบริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิต และจำหน่ายยางธรรมชาติ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และเป็นผู้ผลิตพลังงานทดแทนประเภทพลังงานชีวภาพแบบครบวงจรรายใหญ่ในพื้นที่ EEC ซึ่งการนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับบริษัท และเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัท ทั้งในแง่ของต้นทุนทางการเงินที่ลดลง และความเชื่อมั่นของคู่ค้า

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะนำมาเพิ่มขีดความสามารถของบริษัท โดยใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับการขยายกำลังการผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

TEGH มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังจากหักภาษี และเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน สภาพคล่อง แผนการขยายธุรกิจ ความจำเป็น และความเหมาะสมอื่นใดในอนาคต และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
 
ทั้งนี้ หลัง IPO บริษัทจะมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ กลุ่มครอบครัวของ นายสมชาย โกกนุทาภรณ์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทถือหุ้นรวมร้อยละ 75 

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์