ADVANC วิ่งทะลุ 200 บาท | ออฟเรคคอร์ด

ADVANC วิ่งทะลุ 200 บาท | ออฟเรคคอร์ด

แม้ยังไม่ถึงเส้นชัยในการ “ปิดดีล” ซื้อ TTTBB และ JASIF แต่ล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 23 ก.ย.) ก็มีสัญญาณดี๊ดี

๐๐๐ 

     แม้ยังไม่ถึงเส้นชัยในการ “ปิดดีล” ซื้อ TTTBB และ JASIF แต่ล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 23 ก.ย.) ก็มีสัญญาณดี๊ดี หลังที่ประชุมผู้ถือหุ้น JAS มีมติเห็นชอบให้ JAS ขายหุ้นกลุ่ม TTTBB และ JASIF ให้แก่ AWN (บริษัทลูก ADVANC) คงเหลือแค่รอลุ้นผลโหวตจากผู้ถือหุ้นของ JASIF 18 ต.ค. นี้ !

     เรียกว่านักลงทุนไม่รอช้า... แห่เก็งกำไร หุ้น ADVANC คึกคัก รอลุ้นผลโหวตผู้ถือหุ้น JASIF เพื่อหวังปิดดีลดังกล่าวสำเร็จ เห็นได้จากราคาหุ้น ADVANC 3 วันทำการ วิ่งทะลุ 200 บาทไปได้ ! แต่ก็ไม่สามารถยืนได้กลับมาปิดตลาดต่ำกว่า 200 บาทตลอด โดยระหว่างวันทำราคาสูงสุด 201 บาท ( 27 ก.ย.) อาจจะต้องเห็นราคาหุ้นผันผวนไปสักระยะ จนกว่าจะปลดล็อกซื้อบรอดแบนด์ได้ 

 

     “หุ้นเก็งกำไร” ก็จะคืนชีพ “หุ้นพื้นฐาน” เพราะ TTTBB และ JASIF จะเป็น upside ให้ ADVANC ที่จะช่วยสนับสนุนศักยภาพธุรกิจบรอดแบนด์ของ ADVANC ให้แข็งแกร่งขึ้น และเร็วขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ก็จะกลับมาฟื้นตัว รวมทั้งมีรายได้ธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเติม 

๐๐๐

หุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญ 1,600 จุด ดิ่งตามตลาดต่างประเทศ ท่ามกลางดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งล่าสุด กนง. มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยขยับขึ้นสู่ระดับ 1% แต่ก็ยังห่างจากสหรัฐที่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 3-3.25% ส่งผลให้เงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง

 โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,599.23 จุด ลดลง 11.35 จุด หรือ 0.70% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,606.23 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,595.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 69,726.47 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขาย 96.82 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขาย 379.69 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ขาย 1,184.70 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อ 1,661.21 ล้านบาท

๐๐๐

หุ้นบมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ขอเป็นชาวสวน ยืนบวกตลอดทั้งวัน แถมปิดที่จุดสูงสุดของวัน 18.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 6.86% รับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 16 ปี ทะลุ 38 บาทต่อดอลลาร์ และยิ่งแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ยิ่งทำให้เงินบาทอ่อนค่าขึ้นไปอีกจนทะลุ 38.30 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างไทยกับสหรัฐยังห่างกันมาก กดดันเงินไหลออก

แถมวันนี้จะมีการประชุมนักวิเคราะห์แว่วมาว่า แนวโน้มยังสดใสผลประกอบการไตรมาส 3/65 โตต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ หลังกำลังซื้อฟื้น และยังมีอัพไซด์จากการดันบริษัทลูกทำธุรกิจอาหารสัตว์เข้าตลาดฯอีก ซึ่งก.ล.ต. ได้นับหนึ่งไฟลิ่งไปแล้ว

๐๐๐

ส่วนหุ้นดาวเทียม บมจ.ไทยคม (THCOM) ปิดที่ระดับสูงสุดของวันเช่นกัน 11.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 6.54% ได้รับจิตวิทยาเชิงบวก หลังศาลฯ รับฟ้องคดีที่บริษัทฟ้องหมิ่นประมาท “หมอวรงค์” ปมทวงคืนดาวเทียมไทยคม เรียกค่าเสียหาย 120 ล้านบาท หลังโพสต์ว่ามีการออกใบอนุญาตดาวเทียมไทยคม 7 เอื้อประโยชน์ให้ไทยคม และนำไทยคมซึ่งเป็นสมบัติชาติไปหาผลประโยชน์ โดยศาลฯ นัดสอบคำให้การ 25 ต.ค. นี้

๐๐๐

หุ้นสายการบินยังประคองตัวในช่วงตลาดขาลงได้ดี ล่าสุดบวกตามๆ กันมา บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ปิด 2.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 2.11% ส่วนบมจ.การบินกรุงเทพ (BA) ปิด 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 2.52%

หลังการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย 

๐๐๐

หุ้นบมจ.คอมเซเว่น (COM7) ในฐานะตัวแทนจำหน่ายสินค้า “แอ๊ปเปิ้ล” รายใหญ่ของไทย ได้รับแรงกดดันเล็กๆ หลังมีข่าวแอ๊ปเปิ้ลยกเลิกแผนเพิ่มกำลังการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่ หรือ ไอโฟน 14 หลังดีมานด์ไม่ได้ร้อนแรงอย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ กดราคาหุ้นปิดลบเล็กๆ 30 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.83%

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์