ทองคำ-เงิน-แพลทินัมทรงตัว หลังจากพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุด

รอยเตอร์  รายงานราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันพุธ ( 24 ธ.ค. 68) หลังจากพุ่งทะลุระดับสำคัญ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงต้นของการซื้อขาย ขณะที่เงินและแพลทินัมปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุด

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ลดลง 0.2% อยู่ที่ 4,479.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 13:57 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18:57 GMT) หลังจากทำสถิติสูงสุดที่ 4,525.18 ดอลลาร์ในช่วงต้นของการซื้อขาย

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำของสหรัฐ (US Gold Futures) สำหรับการส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปิดตลาดลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 4,502.8 ดอลลาร์

จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco Metals กล่าวว่า ตลาดทองคำกำลังเห็นการปรับฐานของกราฟและการขายทำกำไรเล็กน้อยหลังจากทำสถิติสูงสุด

ทองคำมักจะทำได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและเติบโตได้ดีในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า เขาต้องการให้ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนต่อไปลดอัตราดอกเบี้ยหากตลาดกำลังไปได้ดี เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 3 ครั้งในปีนี้ และปัจจุบันนักลงทุนคาดการณ์ว่าอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีหน้า

ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ กำลังรอให้กำลังเสริมมาถึงก่อนที่จะพยายามขึ้นไปยึดเรือบรรทุกน้ำมันที่เชื่อมโยงกับเวเนซุเอลา ซึ่งได้ติดตามมาตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งกล่าวกับรอยเตอร์

ราคาโลหะเงินแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 72.70 ดอลลาร์ และล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.7% อยู่ที่ 71.94 ดอลลาร์ต่อออนซ์

"เป้าหมายขาขึ้นถัดไปสำหรับตลาดทองคำคือ 4,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสำหรับเงินคือ 75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้ ปัจจัยทางเทคนิคยังคงเป็นขาขึ้น" ไวคอฟฟ์กล่าวเสริม

ราคาโลหะเงินพุ่งขึ้น 149% นับตั้งแต่ต้นปี โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แซงหน้าการเพิ่มขึ้นของทองคำที่มากกว่า 70% ในช่วงเวลาเดียวกัน

ราคาแพลทินัมพุ่งสูงสุดที่ 2,377.50 ดอลลาร์ ก่อนที่จะลดลงมาอยู่ที่ 2,220.44 ดอลลาร์ ลดลง 2.4% ขณะที่ราคาแพลเลเดียมร่วงลงมากกว่า 9% มาอยู่ที่ 1,683.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบสามปีก่อนหน้านี้

แพลทินัมและแพลเลเดียม ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ทำอุปกรณ์ในระบบไอเสียรถยนต์เพื่อช่วยลดการปล่อยมลพิษ มีราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 145% และมากกว่า 85% ตามลำดับนับตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากอุปทานจากเหมืองที่ตึงตัว ความไม่แน่นอนของภาษี และการโยกย้ายความต้องการลงทุนบางส่วนออกจากทองคำ