‘ต่างชาติ’แห่ซื้อบอนด์2.4หมื่นล. ThaiBMA ชี้ราคากลับมาน่าสนใจ

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือ ThaiBMA รายงานความเคลื่อนไหวของ “เงินลงทุนต่างชาติ” ในตลาดตราสารหนี้ไทย ณ 29 ต.ค. 2568 พบว่า มี “เงินลงทุนต่างชาติ” (ฟันด์โฟลว์) ไหลเข้าสุทธิ สูงถึง 24,640 ล้านบาท แบ่งเป็นพันธบัตระยะสั้น (อายุไม่เกิน 1 ปี ) มูลค่า 821 ล้านบาท และ ระยะยาว (อายุ 1 ปีขึ้นไป) มูลค่า 23,819 ล้านบาท 

โดยทิศทางฟันด์โฟลว์ไหลเข้า 4 วันติดต่อกัน นับตั้งแต่สิ้นสัปดาห์ก่อน 24 ต.ค. 2568 มูลค่า 5,943 ล้านบาท , 27 ต.ค. 2568 มูลค่า 1,039 ล้านบาท และ 28 ต.ค. 2568 มูลค่า 1,124 ล้านบาท และตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) มูลค่า 63,854 ล้านบาท จากเป็นเงินไหลออก ในปี 2567 มูลค่า 67,393 ล้านบาท และปี 2566 มูลค่า143,968 ล้านบาท 

นางสาวศิรินารถ อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยวานนี้ (29 ต.ค.) กว่า 24,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจาก “นักลงทุนต่างชาติ” เข้าซื้อตราสารหนี้ไทย ประมาณ 17,000-18,000 ล้านบาท โดยเป็นการเข้าซื้อรุ่นประมูล LB353A รวมวานนี้ 16,300 ล้านบาท เนื่องจากก่อนหน้านี้มีแรงขายจากนักลงทุนภายในประเทศช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ราคา (Valuation) ของตราสารหนี้ไทยกลับมา “น่าสนใจ” จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ ThaiBMA มองว่า ฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติที่มีการไหลเข้าและออกในตลาดบอนด์ ไม่ได้เป็น Shot Money เพราะหากดูจะเป็นการลงทุนมากกว่า 10 ปี มีมูลค่ากว่า 2.56 แสนล้านบาท ถือเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด

“เรายังไม่เห็นการเคลื่อนไหวเข้าและออกเร็ว จึงมองว่าโฟลว์ในบอนด์ไม่ค่อยเกี่ยวหรือเป็นเหตุให้เงินบาทแข็งค่า และหากดูในช่วงเงินบาทแข็งค่ามาก ๆ ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงที่โฟลว์เข้ามา"

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยวานนี้ค่อนข้างมากพอสมควร พบส่วนใหญ่เป็นโฟลว์เข้ามาซื้อบอนด์จากการประมูลเป็นบอนด์อายุ 10 ปี โดยมียอดประมูล 35,390 ล้านบาท และ บอนด์อายุ 50 ปี มียอดประมูล 7,000 ล้านบาท

ขณะที่ จากฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดบอนด์รอบนี้ มีส่วนหนุนเงินบาทแข็งค่าขึ้นบ้างและบอนด์ยีลด์ 10 ปี อาจจะย่อลงบ้าง จึงคาดว่า แนวโน้มหลังจากนี้ อาจจะเห็นต่างชาติเข้ามาซื้อบอนด์ได้อีก แต่ไม่น่ามากนัก เพราะน่าจะเน้นรอซื้อบอนด์ตอนยีลด์สูงกว่าช่วงนี้ และส่วนหนึ่งน่าจะมาจากที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาพอสมควร อีกทั้ง ตลาดเริ่มไม่แน่ใจว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดดอกเบี้ยต่อเนื่องได้ ตามที่เคยมองไว้ก็ได้

“น่าจะมีทยอยเข้ามาซื้อบอนด์บ้าง เพราะว่าบอนด์ยีลด์ระยะยาวของไทยก็ปรับตัวขึ้นมาพอควร ซึ่งถ้าเห็นบอนด์ยีลด์ 10 ปี สูงเกิน 1.70% นักลงทุนต่างชาติก็น่าจะทยอยกลับเข้ามาซื้อ ถ้าหากมองว่าแบงก์ชาติน่าจะยังมีโอกาสเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม 1-2 ครั้ง”

ขณะเดียวกัน ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยง ซึ่งมองว่าถ้าแบงก์ชาติ “คงดอกเบี้ย” หรือจบรอบการลดดอกเบี้ยแล้ว บอนด์ยีลด์ระยะยาวของไทย เสี่ยงปรับตัวสูงขึ้นต่อ ซึ่งนักลงทุนต่างชาติก็น่าจะรอจังหวะนั้นกัน และจะยังไม่รีบกลับเข้ามาซื้อในช่วงนี้

อีกประเด็น คือ ความเสี่ยงที่ Rating Agency อาจมีการปรับลด Credit Rating Outlook ของไทย เพิ่มเติม ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลด Credit Rating ได้ แต่ความเสี่ยงนี้ก็อาจจะขึ้นกับ พัฒนาการของสถานการณ์การเมืองและการเลือกตั้งในปีหน้าด้วยต้องรอความชัดเจน