’บ้านแลกเงิน‘ โตแรง ‘กรุงไทย-เคเคพี‘ แข่งดอกเบี้ยต่ำชิงลูกค้า

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ความไม่แน่นอนทาง “รายได้” ของผู้บริโภคกลายเป็นแรงผลักสำคัญให้ “บ้านแลกเงิน” หรือสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบมีหลักประกัน กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีบ้านเป็นทรัพย์สินที่พร้อม ต่อยอดเป็นแหล่งเงินทุน ทั้งเพื่อเสริมสภาพคล่อง ใช้จ่ายจำเป็น หรือลงทุนต่อยอดธุรกิจส่วนตัว

หลังๆ หลาย “ธนาคารพาณิชย์” หันมาให้ความสำคัญ และเดินกลยุทธ์ผ่าน “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” มากขึ้น ผ่านอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในการช่วงชิงลูกค้ามากขึ้น 

เริ่มต้นที่ “ธนาคารกรุงไทย” (KTB) ล่าสุดออกผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” ดอกเบี้ยต่ำสุดเริ่มต้น 4.99% โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ เพราะภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันธนาคารเชื่อว่า “เงินสดคือความมั่นคง” ของชีวิตประจำวัน ดังนั้น “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” จะเข้ามาตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาสภาพคล่องและสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตมากขึ้น

“สุริพงษ์ ตันติยานนท์” ประธานผู้บริหาร Retail Banking ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น คนมีปัญหาสภาพคล่องมากขึ้น ความต้องการ “เงิน”มากขึ้นเพื่อทั้งแก้ปัญหาทางการเงิน แก้ปัญหาสภาพคล่อง และเพิ่มขยายธุรกิจทำให้ความต้องการ “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” เป็นสินเชื่อที่มีดีมานด์ค่อนข้างสูง และเติบโตต่อเนื่อง 

โดยหากดูความต้องการสินเชื่อบ้านแลกเงิน ณ สิ้นเดือนเม.ย. 2568 เติบโตขึ้น 124% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนว่าความต้องการสินเชื่อบ้านแลกเงินมีต่อเนื่องลากยาวมาตั้งแต่ปลายปี 2566

โดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้ามนุษย์เงินเดือน พ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการรายย่อย และเจ้าของบ้านทั่วไปที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูง และไม่ต้องพึ่งพาสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่า 20% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม แม้ธนาคารจะหันมาเดินกลยุทธผ่าน “สินเชื่อบ้านแลกเงิน”มากขึ้น แต่การปล่อยสินเชื่อของธนาคารยังอยู่ภายใต้การ “ระมัดระวัง” ตามภาพใหญ่ของธนาคาร ที่สอดคล้องกับแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ส่งเสริมการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending)

ด้วยจากหลายองค์ประกอบ ทั้งการเติบโตสินเชื่อ ความต้องการสภาพคล่องที่อยู่ระดับสูง ความต้องการต่อยอดการเติบโตธุรกิจ หรือต้องการสร้างโอกาสใหม่ในอนาคต จะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดัน “สินเชื่อกรุงไทยบ้านแลกเงิน” ในปี 2568 จะเติบโตได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10%

อีกธนาคารที่เดินกลยุทธผ่าน “บ้านแลกเงิน” ผ่าน “KKP HOME FLEXI” ซึ่งเป็นวงเงินพร้อมใช้สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านเดิมของ KKP ที่มีประวัติผ่อนดีและเหลือยอดคงค้างต่ำกว่า 80% ของราคาบ้าน สามารถดึงวงเงินส่วนต่างกลับมาใช้ได้โดยไม่ต้องทำเรื่องกู้ใหม่ โดยแคมเปญนี้อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 5.925% ต่อปี

“ภัทรพงศ์ รักตะบุตร” ประธานสายธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า แม้ตลาดสินเชื่อบ้านโดยรวมยังชะลอตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดสินเชื่อคงค้างที่ระดับ 57,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 และปีนี้ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อบ้านปีนี้ไว้เพียง 5,000-6,000 ล้านบาท

แต่เชื่อว่า ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่เศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง คนอาจมีความต้องการสภาพคล่องมากขึ้น ภายใต้สภาพคล่องตึงตัว ดังนั้น “สินเชื่อ KKP HOME FLEXI” อาจเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

“KKP HOME FLEXI ไม่ใช่ Top-Up แต่เป็นสินเชื่อเดิม เป็นการให้ลูกค้าที่เคยนำเงินที่เคยโปะไว้กลับมาใช้ได้ในเวลาจำเป็น ผ่าน KKP mobile ได้ทันที”

นอกจากนี้ หากดูลูกค้า KKP ในปัจจุบันส่วนใหญ่มียอดผ่อนเกินอยู่ประมาณ 40% ของพอร์ต ทำให้ธนาคารมั่นใจว่า KKP HOME FLEXI จะเป็นอีกทางเลือกสำคัญในการบริหารสภาพคล่องแบบยืดหยุ่น โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการยื่นกู้ใหม่ ซึ่งต่างจากบ้านแลกเงินที่ยังต้องมีค่าใช้จ่ายการจำนองใหม่

“เรามองที่ Value ของลูกค้า ไม่ได้แข่งที่ยอดปล่อยรีไฟแนนซ์อย่างเดียว เพราะการแข่งขันที่ยั่งยืนคือ การสร้างความแตกต่างผ่านบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์จริง”

สำหรับการปล่อยสินเชื่อในปัจจุบันของ KKP มีลูกค้าที่เข้ามารีไฟแนนซ์ประมาณ 50% ขณะที่การปฏิเสธสินเชื่อยังทรงตัวที่ราว 40% แสดงให้เห็นว่าธนาคารยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพลูกค้าไว้อย่างต่อเนื่อง