ราคาทองคำย่อตัว นักลงทุนเทขายทำกำไร ชดใช้หนี้ขาดทุนหุ้น

ราคาทองคำย่อตัว นักลงทุนเทขายทำกำไร ชดใช้หนี้ขาดทุนหุ้น

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนเทขายทำกำไร และผลกระทบจากแรงเทขายหุ้นในวงกว้าง ตลาดวิตกทรัมป์ขึ้นภาษีสูง

รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันพฤหัสบดี (3 เม.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทย  ราคาทองคำลดลงในขอบเขตจำกัด หลังจากร่วงลงกว่า 2% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการเทขายหุ้นอย่างหนักซึ่งเกิดจากมาตรการภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และส่งผลกระทบต่อผู้ค้าทองคำแท่ง

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ลดลง 0.85% สู่ระดับ 3,106.99 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 13.47 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (17.47 GMT) หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,167.57 ดอลลาร์ในช่วงต้นวันของการซื้อขาย

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ(Gold Future)  ปิดตลาดลดลง 1.4% สู่ระดับ 3,121.70 ดอลลาร์

ผู้ค้าระบุว่าราคาทองคำที่ลดลงเกิดจากการเทขายทำกำไรและมาร์จิ้นคอลหรือการถูกเรียกหลักประกันเพิ่มจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น ซึ่งน่าจะทำให้ผู้ลงทุนเทขายทองคำบางส่วนที่ถือครองไว้เพื่อชดเชยการขาดทุนจากการลงทุนในหลักทรัพย์อื่น 

 ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธานและนักกลยุทธ์อาวุโสด้านโลหะของ Zaner Metals กล่าวว่า "เนื่องจากตลาดเทขายหุ้น จากแรงกดดันในการลดหนี้ ตลาดจึงมองหาโอกาสในการซื้อเมื่อราคาทองคำปรับตัวลง"

"ผู้คนต่างเทขายสินทรัพย์ที่มีกำไรเพื่อชดเชยมาร์จิ้นเงินกู้เหล่านั้น แต่ผมคิดว่าในระยะยาว พวกเขาจะยังคงมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยต่อไป และทองคำก็เป็นหนึ่งในนั้น"

ภาษีศุลกากรของทรัมป์ทำให้ตลาดการเงินทรุดลงอย่างรุนแรงเนื่องจากความกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มโดยรวมของทองคำดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนแปลง โดยสินทรัพย์ปลอดภัยนี้ได้พุ่งขึ้นมากกว่า 500 ดอลลาร์ในปีนี้

เดวิด เมเกอร์ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายโลหะของ High Ridge Futures เรียกการเคลื่อนไหวของทองคำว่า "การย่อตัวหรือการย้อนกลับ ภายในแนวโน้มขาขึ้น"

ตลาดคาดว่าธนาคารกลางของประเทศต่างๆจะช่วยรักษาการพุ่งขึ้นของทองคำในปีนี้ โดยการซื้อมีเป้าหมายเพื่อกระจายกองทุนสำรองให้ห่างจากดอลลาร์มากขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงที่เกิดจากนโยบายของทรัมป์ 

นักวิเคราะห์ของธนาคาร HSBC ระบุในบันทึกว่า แม้ว่าโมเมนตัมของการพุ่งขึ้นอาจผลักดันให้ราคาสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก แต่ปัจจัยทางกายภาพและตลาดการเงินที่ผสมผสานกันอาจกดดันราคาทองคำในช่วงปลายปี 2568 HSBC คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 3,015 ดอลลาร์โดยเฉลี่ยในปีนี้

  • โลหะเงินดิ่งลงเฉียด 6%

ราคาโลหะเงินร่วงลงรุนแรง 5.9% เหลือ 32.01 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม แม้ว่าโดยปกติจะตามทองคำ แต่เงินกลับมีความเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดในวงกว้างมากกว่าเมื่อพิจารณาจากการใช้งานในอุตสาหกรรม