ราคาทองคำโลกสูงขึ้น เงินพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ โลกตึงเครียด

บลูมเบิร์ก รายงานราคาโลหะเงินทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ทองคำขยับขึ้นตาม จากแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง และความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีหน้า  

โลหะมีค่าสีขาวตัวนี้ปรับขึ้นมากสุดระหว่างวันราว 0.6% แตะ 67.5519 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แรงหนุนจากกระแสเงินเก็งกำไรและภาวะตึงตัวด้านอุปทานที่ยังคงอยู่ต่อเนื่อง หลังจากเกิด “ชอร์ตสควีซ” ครั้งประวัติศาสตร์ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่นักลงทุนที่ขายชอร์ตเดิมพันว่าราคาจะลง ถูกบังคับให้ซื้อเงินกลับในราคาที่สูงขึ้น สร้างแรงซื้อต่อเนื่องที่ผลักราคาพุ่งแรง 

ปริมาณซื้อขายสัญญาเงินล่วงหน้าในตลาดเซี่ยงไฮ้พุ่งขึ้นเมื่อต้นเดือนนี้ จนเข้าใกล้ระดับที่เคยเห็นในช่วงวิกฤตราคาครั้งก่อน  

ทองคำสปอต (Spot Gold) ขยับขึ้นมาใกล้ 4,365 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลเพียงไม่ถึง 20 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาแล้วสองสัปดาห์ ผู้ค้ากำลังเดิมพันว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2026 หลังชุดข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วไม่ได้ให้ภาพชัดเจนมากนักเกี่ยวกับแนวโน้มข้างหน้า แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกมาเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยเชิงรุกก็ตาม นโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นแรงหนุนต่อทองและเงินซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีดอกเบี้ย  

ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังเพิ่มเสน่ห์ของโลหะมีค่าในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สหรัฐเดินหน้าปิดล้อมการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาเข้มข้นขึ้น เพื่อกดดันรัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ขณะที่ยูเครนโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันใน “กองเรือเงา” ของรัสเซียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นครั้งแรก  

โลหะมีค่ากำลังปิดฉากปีแห่งประวัติศาสตร์ โดยทองและเงินมุ่งหน้าสู่การทำผลตอบแทนรายปีที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 โลหะเงินปรับขึ้นมากกว่าสองเท่าตัว ส่วนทองคำพุ่งราวสองในสาม ได้แรงหนุนจากการซื้อทองของธนาคารกลางที่เพิ่มขึ้น และเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนอีทีเอฟ ETF ที่มีทองคำหนุนหลัง  

ข้อมูลที่ Bloomberg รวบรวมชี้ว่า กองทุน ETF ทองคำ มีกระแสเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ ขณะที่ สภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่าปริมาณทองที่กองทุนเหล่านี้ถือครองเพิ่มขึ้นทุกเดือนในปีนี้ ยกเว้นเดือนพฤษภาคม ด้านราคาเงินก็ได้แรงเสริมในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากอุปสงค์ที่พุ่งสูง รวมถึงภาวะตึงตัวและความผิดปกติในศูนย์กลางการซื้อขายหลักทั่วโลก  

นักวิเคราะห์ของธนาคาร Goldman Sachs Group Inc นำโดย ดาน สทรูว์เวน และซาแมนธา ดาร์ต ระบุในบันทึกปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นต่อในปีหน้า โดยคาดว่าจะขึ้นไปที่ 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมองว่าความเสี่ยงยังเอนไปทางขาขึ้น พวกเขาระบุว่านักลงทุนใน ETF เริ่ม “แย่งซื้อ” ทองคำกับธนาคารกลางแล้ว เนื่องจากทองจริงมีจำกัด  

อัปเดตราคาเช้านี้ (22 ธ.ค. 68)

ณ เวลา 8:27 น. ตามเวลาในสิงคโปร์ โลหะเงินสปอตปรับขึ้น 0.5% สู่ 67.46 ดอลลาร์ ขณะที่ทองคำสปอตบวก 0.5% แตะ 4,363.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาลเหนือ 4,381 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในเดือนตุลาคม แพลทินัมขยับขึ้นต่อ หลังพุ่ง 2.5% เมื่อวันศุกร์ ส่วนแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 1.5% ขณะที่ดัชนี Bloomberg Dollar Spot แทบไม่เปลี่ยนแปลง