‘กองทุนหุ้นญี่ปุ่น’ มาแรง ผลงานตั้งแต่ต้นปีสุดปัง บวกมากสุดเฉียด 12%

Key Points :

• ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดัชนี Nikkei ทยานไปกว่า 7.14% เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลกอย่าง S&P 500 อยู่ที่ 5.18% Dow Jones อยู่ที่ 4.80% และ Nasdaq อยู่ที่ 4.59%
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และที่กลับมา Perform ปัจจัยหลักมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลงในช่วงที่ผ่านมา ช่วยให้ผลประกอบการบริษัทของญี่่ปุ่นปรับตัวดีขึ้น 
• กองทุนหุ้นญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นปี 2567 กองทุนเปิด KFJPINDX-I ให้ผลตอบแทนสูงสุดเฉียด 12% 

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวกลับมาแข็งแกร่งขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ดูเหมือนว่าดัชนี Nikkei ทยานไปกว่า 7.14% เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลกอย่าง S&P 500 อยู่ที่ 5.18% Dow Jones อยู่ที่ 4.80% และ Nasdaq อยู่ที่ 4.59% (ข้อมูลจาก บลูมเบิร์ก) 

อิศรา พูฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ดาโอ ให้ข้อมูลกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นดูจะสดใสและปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และคาดว่าน่าจะยังไปต่อ หลังจากที่ช่วง 2 - 3 ปีนักลงทุนต่างชาติไม่ได้เข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น และที่กลับมา Perform ปัจจัยหลักมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลงในช่วงที่ผ่านมา ช่วยให้ผลประกอบการบริษัทของญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นด้วย

ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นมาด้วย จึงเป็น  2 ปัจจัยที่สนับสนุนให้ญี่ปุ่นค่อนข้าง Perform โดยคาดว่าในปีนี้น่าจะยัง Perform ได้ต่อ ทั้งนี้หากนักลงทุนสนใจเข้าไปลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น ขณะนี้ยังสามารถเข้าไปซื้อเก็บไว้ได้ เนื่องจากปัจจุบันราคายังไม่แพงมากนัก ในเชิง Valuation ยังสามารถไปต่อได้ 

สำหรับ บลจ.ดาโอ มีแผนที่จะออกกองทุนหุ้นญี่ปุ่นอยู่ด้วย ซึ่งกำลังรอดูจังหวะ เพราะมองว่า ญี่ปุ่นมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างที่สำคัญ หากติดตามภาวะเศรษฐกิจของญีปุ่นจะประสบกับปัญหาเงินฝืดมาโดยตลอด แต่ในช่วง 2-3 ปี มานี้ ภาวะเงินฝืดหายไป ขณะที่เงินเฟ้อ ณ ขณะนี้ดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น 

   นาวิน อินทรสมบัติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารการลงทุน ทีเอ็มบีธนชาต ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ปรับบวกขึ้นมาจาก 2 ปัจจัยคือ 1. มาจากนโยบายของธนาคารกลางที่สนับสนุน่และ 2.อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ควบคุมยีลด์พันธบัตร 10 ปี ซึ่งยังมีนโยบายผ่อนคลายในการช่วยเหลือเต็มที่ไม่ได้มีการปรับลด ในขณะที่ธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ ทั้งโลกปรับขึ้นกันทั้งหมด ขณะที่จำนวนพันธบัตรอยู่ในระบบลง 

“ญี่ปุ่นสวนทางกับประเทศอื่น ๆ มีความผ่อนคลายมาก ทำให้เงินญี่ปุ่นอ่อน ดอกเบี้ยก็ไม่ขึ้น ประกอบกับญี่ปุ่นส่งออกค่อนข้างมาก มีธุรกิจที่เน้นส่งออกค่อนข้างใหญ่ เพราะฉะนั้นค่าเงินอ่อน กำไรหรือมาร์จิ้นของบริษัททำให้ดีขึ้น หากบริษัทใดมีต้นทุนเป็นสกุลเงินเยน แต่รายรับเป็นดอลลาร์ฯ จะทำให้มาร์จิ้นขึ้นค่อนข้างดี”

ฉะนั้นหากดูในเรื่องของผลประกอบการหรือการคาดการณ์ของกำไรของบริษัทรายใหญ่ที่เน้นการส่งออกจะมีการทำกำไรเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้หุ้นปรับตัวขึ้นมา

สำหรับกองทุนหุ้นญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นปี 2567 “กรุงเทพธุรกิจ” เข้าไปสำรวจข้อมูลจาก morningstar พบว่า ส่วนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ 10 อันดับแรก ปรับเพิ่มขึ้นมากว่า 6 - 12% (ข้อมูล ณ วันที่ 2 ก.พ.67)

1.กองทุนเปิดกรุงศรีเจแปนอิควิตี้อินเด็กซ์เฮดจ์เอฟเอ็กซ์-ผู้ลงทุนสถาบัน (KFJPINDX-I) ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี +11.95% ได้ ราคาปิดที่ 22.40 บาท 

2.กองทุนเปิดแอสเซทพลัสนิปปอนโกรท (ASP-NGF) Morningstar Rating 5 ดาว ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 9.95% ราคาปิดที่ 19.87 บาท

3.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (ชนิดผู้ลงทุนกลุ่ม/บุคคล) (SCBNK225P) Morningstar Rating 3 ดาว ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 9.16% ราคาปิดที่ 23.46  บาท

4.กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ (TISCOJP) Morningstar Rating 4 ดาว ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 7.65% ราคาปิดที่ 24.36 บาท

5.กองทุนเปิดเคแทม เจแปน อิควิตี้ พาสซีฟ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-JPFUND-A) Morningstar Rating 3 ดาว ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 7.59% ราคาปิดที่ 16.19 บาท

6.กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity (TMBJE) Morningstar Rating 5 ดาว ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 7.54% ราคาปิดที่ 19.51 บาท

7.กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นญี่ปุ่น-A ชนิดสะสมมูลค่า (K-JPX-A(A)) ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 7.23% ราคาปิดที่ 19.82 บาท

8.กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เจแปนนีส ซัสเทนเนเบิล เอคควิตี้ ฟันด์ (ABJO) Morningstar Rating 2 ดาว ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 7.08% ราคาปิดที่ 15.00 บาท

9.กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน แอคทีฟ อิควิตี้ (TISCOJPA) Morningstar Rating 3 ดาว ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 6.50% ราคาปิดที่ 13.37 บาท

10.กองทุนเปิด แอล เอช เจแปน - E ชนิดจ่ายเงินปันผล (LHJAPE-D) Morningstar Rating 3 ดาว ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 6.46% ราคาปิดที่ 11.51 บาท