ตลาดกังวลยอดกู้ยืมทั่วโลก 'สหรัฐ-อังกฤษ' ส่อพุ่งทำ ‘หนี้สาธารณะ’ นิวไฮ
นักลงทุนทั่วโลกกังวล "ยอดการออกพันธบัตรใหม่" เพื่อระดมทุนของรัฐบาลส่อพุ่ง โดยเฉพาะสหรัฐจ่อออกพันธบัตรประมาณ 4 ล้านดอลลาร์ปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว และ 2.3 ล้านดอลลาร์ ในปี 2561 ดันหนี้สาธารณะทั้งโลกพุ่ง
สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์ส (Financial Times) รายงานวันนี้ (9 ม.ค.67) ว่า นักลงทุนกําลังเตือนรัฐบาลทั่วโลกเกี่ยวกับระดับหนี้สาธารณะที่ "อยู่ในระดับที่ไม่ปลอดภัย" โดยการกู้ยืมก่อนการเลือกตั้งที่มากเกินไปมีความเสี่ยงที่จะกระทบตลาดตราสารหนี้
การออกหนี้ของรัฐบาลในสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรคาดว่าจะทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปีนี้ และปีหน้า หากไม่นับรวมยอดการกู้ยืมช่วงแรกของการระบาดใหญ่ของโควิด
สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (The Institute of International Finance) เปิดเผยว่า ตลาดเกิดใหม่เตรียมเพิ่มยอดออกพันธบัตรหลังจากหนี้รัฐบาลไต่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 68.2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ในปีที่แล้ว
การขาดดุลนั้น "อยู่นอกเหนือการควบคุม และเรื่องจริงคือ ไม่มีกลไกในการควบคุม" จิม ซีลิน (Jim Cielinski) หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ระดับโลกของ Janus Henderson กล่าว
เขาเสริมว่าปัญหานี้จะกลายเป็นความกังวลอย่างจริงจังต่อตลาด "ในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า และกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก"
ด้าน Apollo Global Management ประมาณการว่า กระทรวงการคลังสหรัฐจะออกพันธบัตรประมาณ 4 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยมีอายุระหว่าง 2 ถึง 30 ปี เพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว และ 2.3 ล้านดอลลาร์ในปี 2561
ขณะที่ RBC Capital Markets เปิดเผยว่า ยอดการออกพันธบัตรสุทธิในช่วง 12 เดือนจนถึงสิ้นเดือนก.ย.จะอยู่ที่ 1.6 ล้าน โดยยอดดังกล่าวปรับให้สอดคล้องกับการใช้จ่ายของธนาคารกลางสหรัฐ และมูลหนี้ที่มีอยู่ ซึ่งเป็นปีที่สูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์
ขนาดของการกู้ยืมมีแนวโน้มที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของตลาดจากการมุ่งเน้นทั่วไปเกี่ยวกับเส้นทางในอนาคตของอัตราดอกเบี้ย ผู้จัดการกองทุนกล่าว
"เราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีพื้นที่สําหรับหนี้ของรัฐบาลอย่างแท้จริงเมื่อเทียบกับศตวรรษที่ผ่านมา" โรเบิร์ต ทิปป์ (Robert Tipp) หัวหน้าฝ่ายพันธบัตรทั่วโลกของ PGIM Fixed Income กล่าว
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
