YLG ลุ้นทองคำยืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์ ก่อนปรับเทรนด์สู่ขาขึ้น

YLG ลุ้นทองคำยืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์ ก่อนปรับเทรนด์สู่ขาขึ้น

YLG เผยระยะสั้น ทองคำยังแกว่งตัวจากความไม่แน่นอนของนโยบายดอกเบี้ยเฟด แต่ระยะสั้นสัญญาณเริ่มมีลุ้นเป็นบวก แนะจับตาหากยืนเหนือโซน 2,000-2,079 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เทรนด์จะกลับมาเป็นขาขึ้น แต่หากผ่านไม่ได้แนะนักลงทุนเก็งกำไรตามรอบ ทยอยขายเมื่อมีกำไร

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  (YLG)  กล่าวว่า ในระยะสั้นทองคำมีความผันผวนเคลื่อนไหวลักษณะดีดกลับสลับปรับตัวลง อย่างไรก็ตามโมเมนตัมจะเป็นบวกมากขึ้น หากการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสามารถยืนเหนือโซน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้ และหากดีดตัวทะลุโซน 2,070-2,079 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้ จะทำให้ทิศทางทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นอีกรอบ เนื่องจากเป็นระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ใกล้เคียงกันถึง 3 ครั้ง  

อย่างไรก็ตามหากไม่ผ่าน 2,070-2,079 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ อาจจะมีโอกาสแกว่งตัวลง นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ยังต้องติดตามต่อเนื่อง แม้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะออกมาค่อนข้างดี

YLG ลุ้นทองคำยืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์ ก่อนปรับเทรนด์สู่ขาขึ้น

ขณะเดียวกันทองคำในประเทศก็ได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมามีสัญญาณแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าหากเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องก็จะทำให้ทองคำในประเทศแกว่งตัวลงเช่นกัน จากปัจจัยทองคำในตลาดโลกที่ยังมีโอกาสแกว่งตัวลงในระยะสั้น และทองคำในประเทศที่ได้รับแรงกดดันจากเงินบาท

จึงแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นตามรอบ และทยอยขายหากมีกำไร โดยมองกรอบแนวรับระยะสั้นที่ 1,956-1,974 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แนวต้านที่ 2,027-2,048 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้านถัดไปที่ 2,079 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

ส่วนทองคำในประเทศให้แนวรับที่ 32,650-32,950 บาทต่อบาททองคำ แนวต้านที่ 33,850-34,200 บาทต่อบาททองคำ และ 34,750 บาทต่อบาททองคำ  (คำนวณด้วยค่าเงินบาท 35.25 บาทต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 23 พ.ย.2023 เวลา 10.30น.)

อย่างไรก็ดีหากราคาทองคำยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นักลงทุนสามารถใช้จังหวะทยอยสะสม โดยการแบ่งรอบในการซื้อ เนื่องจากปัจจุบันทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีความหวั่นไหวด้านภูมิรัฐศาสตร์

ดังจะเห็นได้จากธนาคารกลางทั่วโลกที่สะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์และรองรับเทรนด์การลดการถือครองดอลลาร์สหรัฐ  โดยไตรมาส 3/2566 สภาทองคำทั่วโลกได้รายงานว่าเข้าซื้อทองคำสูงสุดในรอบปีสูงกว่าค่าเฉลี่ยรอบ 5 ปีถึง 8% ประเทศที่เข้าซื้อมากสุดคือ จีน โปแลนด์ สิงคโปร์ ลิเบีย และอินเดีย ไม่เว้นแม้แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยที่สะสมทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยช่วง 3 ปีล่าสุด ไทยถือครองเป็นอันดับ 2 ของเอเชียรองจากจีน และเป็นอันดับ 11 ของโลก